×

ส่องนักแข่งสุดฮอต ‘เจนสัน บัตตัน’ และ ‘นาโอกิ ยามาโมโตะ’ ทีมฮอนด้าในรายการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ซูเปอร์ จีที สปอร์ต 2018 พร้อมชิงชัยสุดสัปดาห์นี้ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
28.06.2018
  • LOADING...

หากแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยติดตามข่าวจะทราบว่า วันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. – วันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. นี้ จะมีการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกรายการ ‘ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018’ เกิดขึ้น ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

 

โดย 2-3 วันที่ผ่านมานี้ กลิ่นอายของกีฬามอเตอร์สปอร์ตนั้นเข้มข้นขึ้น เพราะเหล่านักแข่งระดับโลกต่างตบเท้าเดินทางสู่ประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขัน ซึ่งในปีนี้นักแข่งที่หลายๆ คนให้ความสนใจเป็นพิเศษ คงหนีไม่พ้น ‘เจนสัน บัตตัน’ และ ‘นาโอกิ ยามาโมโตะ’ ทีมคูนิมิซึ หมายเลข 100 หากจะหาเหตุผลดีๆ สักอย่างว่าอะไรคือสิ่งที่พัดพาให้ทั้ง 2 คน ได้มาร่วมทีมกัน นอกจากโชคชะตาแล้ว ก็คงเป็นเหตุผลอื่นใดไปไม่ได้ นอกจาก ‘ความหลงใหลในความเร็ว’ เหมือนกัน

 

 

ทั้ง 2 คน ได้ผสานความลงตัว จนสามารถโชว์ฟอร์มสุดเจ๋งในรายการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ตั้งแต่ต้นฤดูกาล สะสมคะแนนจากการแข่งขันใน 3 สนามที่ผ่านมาขึ้นเป็นทีมและนักขับอันดับ 1 ของตารางในรุ่นจีที 500 ด้วยรถยนต์คู่ใจ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้น เส้นทางของคนทั้งคู่ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา และนี่คือเรื่องราวบนถนนแห่งความเร็วของ เจนสัน บัตตัน และนาโอกิ ยามาโมโตะ

 

นักรบย่อมมีบาดแผล นักแข่งรถ นาม ‘เจนสัน’ ก็เช่นกัน

 

 

เป็นเวลากว่า 40 ปี นับตั้งแต่ที่ เกรแฮม ฮิลล์ และ แจ็คกี้ สจ๊วต สองเจ้าสนามรถสูตรหนึ่งชาวอังกฤษสามารถสร้างสถิติให้สหราชอาณาจักรครองแชมป์โลกติดกัน 2 ปีซ้อนในปี 1968 และ 1969 ก็ยังไม่เคยมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่เกิดขึ้น จนกระทั่ง เจนสัน บัตตัน บึ่งพวงมาลัยรถสูตรหนึ่ง (Formula 1) คว้าชัยได้สำเร็จในปี 2009


ตีฟุ้งประวัติศาสตร์ที่เคยเงียบหายให้ทุกคนได้จดจำอีกครั้ง พร้อมกับชื่อเสียงของเขาที่มากขึ้นเช่นกัน แม้จะเป็นชื่อเสียงที่แบ่งเค้กกับ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดตลอดศกก็ตาม

 

ย้อนไปในวัยเด็ก เจนสัน สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของรถแข่งมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และตกหลุมรักมันนับแต่นั้น การฝึกฝนอย่างไม่ลดละทำให้นักแข่งฟอร์มูลาวันชาวอังกฤษ สามารถคว้าแชมป์เยาวชนในวัยเพียง 11 ปีจากรายการ British Kart Championship และลงชิงชัยในสนามแข่งมาอย่างต่อเนื่อง จนได้ก้าวเข้าสู่วงการนักแข่งความเร็วมืออาชีพอย่างเต็มตัวในปี 2000 ขณะที่มีอายุแค่ 20 ปี นอกเหนือจากความทุ่มเท จะบอกว่านี่คือพรสวรรค์ของเจนสันก็ได้ เพราะนอกจากแข่งรถแล้ว เขาก็ไม่ถนัดกีฬาอะไรที่มากเท่าการแข่งรถอีกแล้ว

 

เส้นทางรถซิ่งของนักแข่งหน้าหยกดูเหมือนจะไปได้สวย โดยในปี 2006 เจนสันตบเท้าเข้าร่วม F1 กับทีม Honda Racing F1 และสามารถขึ้นโพเดียมอันดับ 1 ได้ในรอบการแข่งขันที่ 13 สร้างความภาคภูมิใจให้ทีมฮอนด้าเพราะถือว่านี่คือชัยชนะในรอบ 39 ปีของทีม

 

ปี 2009 นับเป็นปีทองของเจนสัน เขาสามารถขึ้นแท่นซูเปอร์สตาร์ฟอร์มูลาวันระดับโลก และเป็น Sportsman of the Year ในปีถัดมา เขาย้ายมาสังกัดทีม McLaren ซึ่งเป็นทีมที่ได้ชื่อว่ามีเงินรางวัลล่อตาล่อใจจำนวนมหาศาล แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักของเขา โดยส่วนตัวแล้วเขาเพียงโฟกัสว่าต้องการเอาชนะตัวเอง การเข้ามาสู่ McLaren จะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ก้าวไปสู่เส้นทางอื่นๆ

 

ช่วงหนึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจนสันก็ยื่นซองขาวจากวงการแล้วเว้นช่วงไปพักชีวิต กระทั่งหวนคืนแวดวงความเร็วอีกครั้ง โดยไปอยู่กับทีม McLaren-Honda ในปี 2015-2016

 

ส่วนในปี 2017 เจ้าของฉายา ‘เดวิด เบ็คแฮม แห่งกรังด์ปรีซ์’ มีบทบาทในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ และนักขับสำรองของทีม McLaren-Honda ในปีนี้เอง เขาได้เข้าร่วมรายการแข่งขันระดับบิ๊ก ทั้ง Monaco GP และ Super GT ซึ่งเป็นรายการในฝันของนักแข่งเอฟวันหลายๆ คน

 

“ตลอดอาชีพนักขับรถฟอร์มูลาวัน ผมต้องมีความสุขในการทำงานก่อน ถึงจะพบกับความสำเร็จ”

 

เจนสัน สมบุกสมบันมาแล้วหลายสนามแข่ง ประลองพละกำลังกับสมรรถนะเครื่องยนต์มาแล้วนับคันไม่ถ้วน และถ้าย้อนเวลาได้ เขาก็จะไม่ขอเปลี่ยนแปลงอดีตใดๆ เพราะอดีตคือสิ่งที่สร้างให้เขาเป็นเจนสันในทุกวันนี้    

 

สำหรับฤดูกาล 2018 จะเป็นสังเวียนสนามแข่งรถยนต์ทางเรียบที่อยู่ในความทรงจำของเขาอีกครั้ง เมื่อ เจนสัน ได้ร่วมทีมคูนิมิตซึ กับ นาโอกิ ยามาโมโตะ นักแข่งรุ่นน้องชาวญี่ปุ่นที่มีดีกรีร้อนแรง ซึ่งดูเหมือนว่าทั้งคู่ จะมีเคมีที่เข้ากันเป็นอย่างดี พิสูจน์ได้จากผลงาน 3 สนามที่ผ่านมาของฤดูกาล

 

 

ทำความรู้จัก เจนสัน บัตตัน ได้มากขึ้น ผ่านเว็บไซต์ www.jensonbutton.com หรือ Instagram: jensonbutton_22

 

นาโอกิ ยามาโมโตะ หลังพวงมาลัย ใจต้องนิ่ง  

 

 

สมาชิกที่สำคัญอีกคนของทีมคูนิมิตซึ คือ นาโอกิ ยามาโมโตะ นักแข่งรถชาวญี่ปุ่น มีศักดิ์เป็นรุ่นน้องในวงการของเจนสัน แต่ถ้าพูดเรื่องความสามารถที่ก้าวกระโดดแล้ว นักแข่งระดับโลกคนนี้ มีดีกรีการขับเคี่ยวที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

 

เช่นเดียวกับเจนสัน นาโอกิเองก็รู้ตัวว่ารักในความเร็วมาตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มแตะคันเร่งด้วยการขับรถโกคาร์ท ความรู้สึกที่มากกว่ารักเปลี่ยนเป็นความคลั่งไคล้ในการขับเคลื่อนสี่ล้อ ผลักดันให้เขาสามารถคว้าชัย FA Class Champion จากรายการ All Japan Racing Cart Championship ได้สำเร็จในปี 2002 ด้วยวัยเพียง 14 ปี

 

ความสามารถที่เป็นพรจากฟ้า บวกกับความพยายาม ทำให้นาโอกิได้เป็นนักเรียนที่ Suzuka Circuit Racing School Formula เมื่อจบการศึกษา ก็ลงแข่งขันรายการใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง จนได้แชมป์ N Class ในรายการ  All Japan F3 Championship เมื่อปี 2009

 

เส้นทางสายนักดริฟต์ของนาโอกิพุ่งทะยานแบบก้าวกระโดด เขาใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถทำผลงานโดดเด่นในรายการสำคัญ อย่าง Okayama International Circuit เมื่อปี 2011 โดยรอบการแข่งขันที่เขาทำได้ดีที่สุดนั้น สามารถทำผลงานได้เป็นลำดับที่ 2 ก่อนจะจบฤดูกาลที่ลำดับที่ 9

 

แล้วในที่สุดผลแห่งความพยายามก็บังเกิด เมื่อปี 2012 นาโอกิเหยียบคันเร่งเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 2 ได้ถึง 2 รอบ ก่อนปิดฤดูกาลปี 2013 ในลำดับที่ 5 จากนั้นเขาก็ได้ต่อยอดโปรไฟล์ให้ตัวเองด้วยการย้ายไปร่วมทีม Weider Modulo Dome Racing และคว้าชัยชนะในรอบการแข่งขันที่ 5 ที่สนาม ‘Suzuka 1000 Kilometres’ ก่อนจบฤดูกาลที่ลำดับที่ 4 นอกจากนี้ในปีถัดมาเขายังคว้าชัยชนะในรอบการแข่งขันที่ 5 และจบฤดูกาลที่ลำดับที่ 4

 

นาโอกิ เผชิญชีวิตในสนามแข่งอย่างโชกโชนพอสมควร จนสามารถเข้ามาร่วมทีมคูนิมิตซึได้ในปี 2015 และสร้างผลงานที่น่าประทับใจให้แก่ทีมมาโดยตลอด โดยเฉพาะในปี 2017 เขาสามารถพาทีมติด 1 ใน 3 และคว้า Pole Position (นักแข่งที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในรอบคัดเลือกจนได้ออกสตาร์ทเป็นคนที่หนึ่ง) มาไว้ในครอบครองได้เป็นผลสำเร็จ

 

 

จากที่เล่ามาทั้งหมดนั้น มันเป็นเหมือนปรากฏการณ์ที่นักแข่งฟอร์มฮอต กับอดีตนักแข่ง F1 ระดับซูเปอร์สตาร์ จะลงสนามในฐานะพาร์ตเนอร์ ภายใต้ทีมคูนิมิตซึ ซึ่งตอนนี้ขึ้นเป็นนักขับและทีมอันดับ 1 จากการแข่งขันเก็บคะแนนใน 3 สนามที่ผ่านมาของฤดูกาล เห็นได้ชัดเจนว่า ทั้งความสามารถและหน้าตาของทั้ง 2 คนนั้น ทำให้ทีมคูนิมิตซึร้อนแรงแบบสุดๆ เลยทีเดียว

 

สุดสัปดาห์นี้ มาจับตาดูกันว่าพวกเขาจะสามารถขับเคี่ยวความเร็วด้วยรถยนต์ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้หรือไม่ ในสนามที่ 4 ของฤดูกาลนี้ที่บ้านเรา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

 

 

จากภาพใน Instagram ของเจนสัน บัตตัน เชื่อว่า พวกเขาคงพร้อมสำหรับการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้แน่นอน

 

 

โดยแฟนๆ ท่านใดที่อยากสัมผัสการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกแบบติดขอบสนาม สามารถซื้อบัตรเพื่อเข้าชมการแข่งขันได้ที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา ทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com หรือชมการถ่ายทอดสดผ่านทรูโฟร์ยู ช่อง 24 (True4U) แบ่งการถ่ายทอดสดเป็น วันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. เวลา 15.00-16.30 น. รอบ Knock Out Qualifying ของทั้งรุ่น GT500 และ GT300 และวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. เวลา 14.30-17.30 น. ซึ่งเป็นรอบ Final ของทั้งรุ่น GT500 และ GT300

 

ทั้งนี้ ยังสามารถติดตามผลงานของสองนักแข่งซูเปอร์สตาร์ ในการแข่งขัน ‘ซูเปอร์ จีที เรซ 2018’ ในอีก 4 สนามที่เหลือได้ ตามตารางการแข่งขัน

 

สนามที่ 5 วันที่ 4-5 สิงหาคม 2018 สนาม Fuji Speedway

สนามที่ 6 วันที่ 15-16 กันยายน 2018 สนาม Sportsland SUGO

สนามที่ 7 วันที่ 13-14 ตุลาคม 2018 สนาม Autopolis

สนามที่ 8 วันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2018 สนาม Twin Ring Motegi

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม Super GT Race ได้ที่ supergt.net

 

ขอบคุณภาพประกอบ:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising