×

ศุภมาสแถลงผลงาน 1 ปี กระทรวง อว. เปิดวิสัยทัศน์ปี 2568 เตรียมดันสู่กระทรวงเศรษฐกิจ ดึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอังกฤษ-จีน-ออสเตรเลีย ตั้งสาขาในไทย

โดย THE STANDARD TEAM
02.12.2024
  • LOADING...

วันนี้ (2 ธันวาคม) ที่โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ขึ้นกล่าวแถลงผลงานของกระทรวง พร้อมแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนกระทรวงที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

 

ภายในงานนำเสนอผลงานในรูปแบบที่แปลกใหม่และน่าสนใจ ซึ่งเป็นนวัตกรรมแห่งการนำเสนอ โดยถ่ายทอดผลงานผ่านละครเวทีสร้างสรรค์ภายใต้ชื่อ ‘เชื่อมต่ออนาคตไทย สู่ปีแห่งความสำเร็จกับกระทรวง อว.’ ที่สามารถเข้าถึงประชาชน สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ศุภมาสกล่าวว่า เมื่อครั้งที่ตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลภายใต้ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ตนวางนโยบายหลักด้านการอุดมศึกษาคือ ‘เรียนดี มีความสุข มีรายได้’ ที่มุ่งเป้าหมายการลดภาระของนักศึกษา ผู้ปกครอง และอาจารย์ สำหรับด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เน้นนโยบาย ‘วิจัย นวัตกรรมดี ตอบโจทย์ ตรงความต้องการ’ โดยให้ภาคเอกชนมีบทบาทนำและภาครัฐทำหน้าที่สนับสนุน

 

กระทรวง อว. มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจในฐานนวัตกรรม โดยเชื่อว่าการอุดมศึกษาคือรากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการทำให้ อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศผ่านการวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ สร้างความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

 

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย ‘อว. for IGNITE THAILAND’ ที่ตั้งเป้าผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า และ AI โดยจัดตั้ง 5 หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์เพื่อสร้าง New Growth Engine ในประเทศ ได้แก่ หลักสูตรวิศวกรรมเซมิคอนดักเตอร์, วิศวกรรมไซเบอร์, วิทยาการ, ชีวการแพทย์ขั้นสูง และวิศวกรรมระบบราง

 

ขณะที่ด้านการปฏิรูปอุดมศึกษา กระทรวง อว. มุ่งเน้นแนวคิด ‘2 ลด 2 เพิ่ม’ คือ ลดภาระ ลดเหลื่อมล้ำ เพิ่มทักษะ และเพิ่มโอกาส เพื่อให้การศึกษาเข้าถึงได้และมีคุณภาพผ่านมาตรการ Free TCAS และ Free TGAT ที่สำคัญ อว. ได้พัฒนาสถาบันอุดมศึกษาให้ตอบโจทย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตผ่านระบบสะสมหน่วยกิต (Credit Bank) ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถสะสมหน่วยกิตจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำมาเทียบโอนเพื่อสำเร็จการศึกษา

 

รวมไปถึง Skill Mapping (แผนที่ทักษะ), Skill Transcript (บันทึกทักษะ) และ Coop+ (สหกิจศึกษาพลัส) ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาและประชาชนสามารถเรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคต

 

กระทรวง อว. ยังให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ และสร้างความตระหนักด้านการวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีในสังคมวงกว้าง ผ่านการจัดกิจกรรม ‘อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND’ ทั้งในกรุงเทพฯ และ 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสและเรียนรู้นวัตกรรมแห่งอนาคต

 

รวมถึงงาน ‘One Stop Open House 2024’ ที่รวมสถาบันอุดมศึกษาจากทั่วประเทศไว้ในที่เดียว เพื่อให้ข้อมูลการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาแก่เยาวชนและผู้ปกครอง ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถาบันอุดมศึกษาหลายๆ แห่ง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลการเข้าศึกษาต่อ

 

ศุภมาสกล่าวอีกว่า ในปีต่อไปกระทรวง อว. จะสานต่อนโยบายเดิมให้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยมี 12 เรื่องที่จะทำทั้งในด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

 

  1. การปฏิรูปอุดมศึกษาด้วยเทคโนโลยี AI ผลักดันให้สถาบันอุดมศึกษาก้าวสู่การเป็น AI University รองรับยุค Education 6.0 ด้วยการนำ AI และ Metaverse มาช่วยในการเรียนการสอนแบบ Immersive Education
  2. การเพิ่มโอกาสในการเข้าทำงานของบัณฑิตจบใหม่ จัดให้มีการรวมผู้ประกอบการมาพบกับบัณฑิตในงาน Job Fair ภายในต้นปีหน้า
  3. การเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังคนตามความต้องการของอุตสาหกรรม ให้มหาวิทยาลัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรมพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน
  4. การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการพิจารณาการขอตำแหน่งทางวิชาการ จัดให้มีระบบการตรวจสอบสถานะผ่านออนไลน์และปรับปรุงกระบวนการพิจารณาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  5. โรงเรียนสาธิตอินเตอร์ สนับสนุนให้มีโรงเรียนสาธิตอินเตอร์ในสาธิตที่มีความพร้อม
  6. กองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา ผลักดันกฎหมายจัดตั้งกองทุนเพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียม
  7. อุตสาหกรรมการศึกษาของประเทศไทย ผลักดันไทยให้เป็น Education Hub โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากต่างประเทศ
  8. อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ใช้ ววน. เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ สนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ และผลักดันวาระสำคัญเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของประเทศ โดยมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคม (SROI) ไม่น้อยกว่า 5 เท่า และสามารถเพิ่ม GDP ของประเทศได้ไม่น้อยกว่า 1.5% จากการลงทุนด้าน ววน.
  9. การนำ ววน. ไปแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ นำ ววน. ไปช่วยตอบโจทย์สำคัญของประเทศ เช่น น้ำแล้ง, ภัยพิบัติ, PM2.5 และความมั่นคงด้านพลังงาน
  10. การนำ Science Park ไปสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ SMEs และสตาร์ทอัพในท้องถิ่น
  11. การสนับสนุนเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าของประเทศ (Frontier Technology)
  12. การปฏิรูประบบ ววน. อย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดสรรงบประมาณจากกองทุน ววน., การปรับระบบหน่วยบริหารจัดการทุน (PMU), การเพิ่มประสิทธิภาพระบบติดตามและประเมินผล และการจัดทำแผนด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

 

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของการแสดงวิสัยทัศน์ ศุภมาสระบุถึงการขอตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ตกเป็นประเด็นโลกออนไลน์ว่ากระทรวง อว. ล่าช้าว่า เราปรับปรุงระบบให้เอื้อเฟื้อต่อโลกความเป็นจริง หลังจากที่ระบบล่าช้ามาก โดยรัฐมนตรีและกระทรวง อว. ตกเป็นจำเลยต่อเรื่องนี้ เราจึงมีแอปพลิเคชันคอยแจ้งเตือนเพื่อให้ติดตามเรื่องดังกล่าว

 

ศุภมาสเน้นย้ำว่า กระทรวง อว. จะยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยด้วยการใช้วิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี เป็นเครื่องมือสำคัญ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการศึกษาในระดับภูมิภาคและระดับโลก อีกทั้งยังจัดทำ Factsheet ที่รวบรวมวิสัยทัศน์และผลงานสำคัญของหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็ว

 

เตรียมดึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอังกฤษ-จีน-ออสเตรเลีย ตั้งสาขาในไทย

 

ศุภมาสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการแถลงผลงาน 1 ปี ถึงสิ่งที่จะมุ่งหวังจะผลักดันให้กระทรวง อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจว่า ในขณะนี้เกินกว่าสิ่งที่คาดหวังไว้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากข้าราชการและหน่วยงานภายในกระทรวง ไม่ว่าตนเองจะมอบนโยบายอะไรไป ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติตาม

 

ขณะเดียวกัน ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายหลักคือการผลิตกำลังคน ซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างดี 1 ปีที่ผ่านมามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่ ให้เด็กเข้ามหาวิทยาลัยได้ เมื่อจบการศึกษาก็มีงานทำ และได้รับเงินเดือนในอัตราที่มากกว่าหรือเท่ากับที่เป็นอยู่

 

ส่วนวิทยาศาสตร์และงานวิจัยต่างๆ ก็มีการนำไปใช้ประโยชน์ ช่วยเหลือประชาชน และทำให้ประเทศชาติมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น ทั้งธุรกิจอวกาศ ธุรกิจรังสี หลายหน่วยงานของกระทรวง อว. มีนโยบายช่วยผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งกิน ปรับรสชาติ รวมถึงการถนอมอาหาร ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น

 

1 ปีที่ผ่านมากระทรวง อว. ปฏิรูปทั้งฝั่งอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ และกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 จะพยายามทำงานเก่าๆ ที่สำเร็จแล้วให้ขยายผลสู่วงกว้างให้มากขึ้น ส่วนงานที่ยังทำไม่สำเร็จก็จะทำให้สำเร็จ เพื่อเปลี่ยนกระทรวง อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี

 

ส่วนความคืบหน้าที่จะดึงมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศมาตั้งสาขาในประเทศไทยนั้น ศุภมาสกล่าวว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้มากว่าสำเร็จ โดยในวันที่ 9 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ศ. ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล จะเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ จีน และออสเตรเลีย เพื่อหารือเพิ่มเติม โดยมีแนวโน้มว่าจะได้รับการตอบรับ ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ 90% คนทั่วไปรู้จัก เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้ เนื่องจากยังไม่ได้มีการลงนามอย่างเป็นทางการ และโปรเจกต์ดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ ส่วนการสร้างหลักสูตรนั้นจะต้องรอรายละเอียดอีกครั้ง

 

ส่วนการประเมินผลงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมานั้น ศุภมาสกล่าวว่า สำหรับตนเองนั้นให้คะแนนข้าราชการภายในกระทรวงที่เกรด A+ เพราะผลงานทั้งหมดล้วนเป็นผลงานของข้าราชการและบุคลากรภายในกระทรวงทุกคนที่จะร่วมกันขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม เป็นรูปเป็นร่าง มากกว่าที่จะเขียนแค่นโยบายที่มีความสวยหรู

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X