ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสระดับตำนานวัย 38 ปี เจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 22 รายการ รองจาก โนวัค ยอโควิช ที่ครองสถิติ 24 รายการ ได้อำลาวงการไปแล้วหลังจากลงแข่งขันรายการ Davis Cup 2024 เพื่อรับใช้ชาติเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลอดเส้นทางอาชีพนับตั้งแต่เปิดตัวในวัย 14 ปี เมื่อปี 2001 นาดาลสร้างผลงานและรายได้อย่างมหาศาล โดยมีเงินรางวัลจากการแข่งขันรวม 134.9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.6 พันล้านบาท) ตามข้อมูลจาก ATP Tour
จุดนี้เองทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นนักเทนนิสที่มีรายได้สูงเป็นอันดับ 2 ตลอดกาล แซงหน้า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คู่ปรับ ที่มีรายได้ 130.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.5 พันล้านบาท) โดยมีเพียง โนวัค ยอโควิช เท่านั้นที่ทำเงินได้มากกว่าที่ 185 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.5 พันล้านบาท)
ความสำเร็จในสนามยังส่งผลให้นาดาลมีรายได้นอกสนามอย่างงดงาม แชมป์ French Open 14 สมัย สร้างรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์ การปรากฏตัว และธุรกิจอื่นๆ รวมกว่า 415 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท)
ตัวเลขนี้เกิดขึ้นในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Forbes โดยมีพาร์ตเนอร์แบรนด์ดังมากมาย เช่น Nike, Kia และ Richard Mille
ตำแหน่งของนาดาลบนตารางรายได้ตลอดกาลยังคงปลอดภัย หลังจาก โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เกษียณในปี 2022 และ แอนดี เมอร์เรย์ ประกาศลาวงการในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ส่วน อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ มือวางอันดับ 2 ของโลกวัย 27 ปี ที่อยู่ใกล้ที่สุด ยังต้องทำเงินอีกเกือบ 90 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.1 พันล้านบาท) จึงจะแซงนาดาลได้
คาร์ลอส อัลคาราซ เพื่อนร่วมชาติวัย 21 ปี ที่เติบโตมาพร้อมกับการเป็นแฟนตัวยงของนาดาล อาจมีโอกาสทำลายสถิตินี้มากที่สุด แม้จะอายุน้อยแต่เขาก็ทำเงินรางวัลได้แล้ว 36.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 พันล้านบาท) ติดท็อป 10 นักเทนนิสที่มีรายได้สูงสุดตลอดกาล
จากเด็กหนุ่มวัย 14 ปีที่เริ่มต้นอาชีพนักเทนนิสด้วยความฝัน สู่ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ที่ครองแชมป์แกรนด์สแลม 22 สมัย และสร้างรายได้รวมกว่า 550 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท) เมื่อรวมเงินรางวัลและรายได้อื่นๆ ราฟาเอล นาดาล พิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขรายได้ แต่อยู่ที่หยาดเหงื่อ ความทุ่มเท และจิตวิญญาณนักกีฬาที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค
จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเทนนิสรุ่นใหม่อย่าง คาร์ลอส อัลคาราซ ก้าวตามรอยความสำเร็จ ในขณะที่ ‘ราชาคอร์ตดิน’ ได้โบกมือลาวงการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อ้างอิง:
