ผู้คนมากถึง 3,580 ล้านคน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกที่มีปัญหาโรคในช่องปาก เช่น โรคฟันผุ โรคเหงือก ส่งผลให้ ‘สุขภาพช่องปาก’ กลายเป็นหนึ่งในวาระสุขภาพระดับโลก
สำหรับประเทศไทย ปัญหาสุขภาพช่องปากยังอยู่ในขั้นวิกฤต ผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 ที่ดำเนินการเก็บข้อมูลในปี 2566 โดยสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย พบว่าเด็กอายุ 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลมีปัญหาฟันน้ำนมผุ 72.1% เด็กอายุ 12 ปีมีปัญหาฟันผุ 49.7% มากถึง 36.6% ที่ยังไม่ได้รับการรักษา
เด็กอายุ 15 ปีมีปัญหาฟันผุสูงถึง 61.2% กลุ่มคนอายุ 35-44 ปี มีปัญหาฟันผุพุ่งสูง 94.4% โดยในเขตชนบทมีผู้ที่ฟันผุซึ่งยังไม่ได้รับการรักษามากถึง 56.2% ในขณะที่กลุ่มคนสูงวัยอายุ 60-74 ปี และ 80-85 ปี ปัญหาส่วนใหญ่คือการสูญเสียฟัน หลงเหลือฟันถาวรใช้งานอย่างน้อย 20 ซี่
ปัญหาสุขภาพช่องปากเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและการใช้ชีวิตจากความเจ็บปวดและอึดอัด ยิ่งไปกว่านั้นอาจนำไปสู่โรคร้ายที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
แม้จะเป็นโรคไม่ติดต่อที่สามารถป้องกันได้ แต่จำนวนผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษากลับเพิ่มสูงขึ้น อัตราการเข้าถึงบริการทันตกรรมของคนไทยยังต่ำกว่า 10%
ผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติยังพบว่าจนถึงปัจจุบันภาพรวมการเข้าถึงบริการทันตกรรมในทุกกลุ่มวัยลดลง อีกทั้งผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 สวัสดิการและสิทธิที่ไม่ครอบคลุม หรือปัญหาการเดินทางของคนในชุมชนห่างไกล ล้วนมีผลให้การเข้าถึงทันตกรรมลดลง
ไลอ้อน แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปากคนไทยมาโดยตลอด ในโอกาสครบรอบ 55 ปีจึงผนึกกำลัง 5 แบรนด์ใหญ่ นำทีมโดยซิสเท็มมา, ซอลส์, โคโดโม, กู๊ดเอจ และไฮเฮิร์บ อาสาส่งมอบรอยยิ้มให้ผู้ด้อยโอกาสผ่านโครงการ ‘LION Smile Express’ รถทันตกรรมเคลื่อนที่ให้บริการตรวจสุขภาพฟันและรักษาทางทันตกรรมฟรี
ทั้งนี้ รถทันตกรรมจำนวน 2 คันจะมีบุคลากรทางการแพทย์ทำหน้าที่เสมือนคลินิกทำฟันระดับพรีเมียมที่ได้มาตรฐานความสะอาด ความปลอดภัย ความทันสมัย เทียบเท่าคลินิกทำฟันชั้นนำของเมืองไทย เข้าไปให้บริการทันตกรรมกับคนไทย เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพช่องปากที่ดี ตั้งเป้าหมายเข้าถึงการให้บริการทันตกรรมกับคนไทยไม่ต่ำกว่า 5,000 คน 55 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
LION Smile Express รถทันตกรรมเคลื่อนที่พร้อมทีมทันตแพทย์มืออาชีพ ภายในรถกว้างขวาง สะอาดถูกหลักอนามัย ครบครันด้วยอุปกรณ์ทันตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด นำเทคโนโลยี AI มาใช้ตรวจสอบปัญหาสุขภาพช่องปาก สามารถเอ็กซเรย์ฟันให้เห็นปัญหาลึกถึงรากฟัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยและรักษาได้ตรงจุด ด้วยมาตรฐานการรักษาระดับเดียวกับคลินิกทันตกรรมชั้นนำครบวงจร
รถทันตกรรมเคลื่อนที่จะให้บริการตรวจฟัน เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน รวมทั้งถอนฟันฟรี! โดยจะออกให้บริการตามแหล่งชุมชนและโรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็กในโรงเรียน, กลุ่มเด็กกำพร้า, ผู้พิการ, ผู้สูงอายุ และชาวบ้านในชุมชนแออัด โดยตั้งเป้าที่จะเข้าไปยังพื้นที่ชุมชน, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย, มูลนิธิผู้พิการ และพื้นที่ห่างไกล 55 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภายในปี 2567
ปัจจุบันโครงการ LION Smile Express ออกให้บริการดูแลสุขภาพของปากของคนไทย 30 แห่งใน 9 จังหวัด โดยให้บริการทันตกรรมกับกลุ่มเด็ก ประชาชนทั่วไป กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และคนชรา แล้วกว่า 2,600 คน แบ่งเป็น
- มูลนิธิคนพิการและทุพพลภาพ 9 แห่ง
- มูลนิธิเด็กกำพร้าและเด็กด้อยโอกาส 3 แห่ง
- มูลนิธิหรือสถานดูแลผู้สูงอายุ 4 แห่ง
- โรงเรียนประถมศึกษา 2 แห่ง
- ศาสนสถาน จำนวน 2 แห่ง
- ชุมชนทั่วไป 10 แห่ง
เป้าหมายต่อไปของโครงการ LION Smile Express จะเริ่มดำเนินการในต่างจังหวัดที่ห่างไกลทั่วประเทศ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นบุคลากรทันตแพทย์ในท้องถิ่นเข้ามาช่วยดำเนินการ
สานต่อกิจกรรมที่ดำเนินการตลอด 55 ปีของไลอ้อน ตอกย้ำแบรนด์ที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพช่องปากของคนไทย นอกจากจะมีผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากครอบคลุมตั้งแต่ของเด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ ยังทำกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อดูแลสุขภาพช่องปากของคนไทยมาโดยตลอด เช่น โครงการ Kodomo School Roadshow ให้ความรู้ในการแปรงฟันและดูแลสุขภาพช่องปากให้กับเด็กๆ ในโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศปีละกว่า 1 แสนคน ที่ดำเนินการติดต่อกันมากว่า 30 ปี หรือโครงการไลอ้อนส่งเสริมป้องกันและดูแลสุขภาพช่องปากให้กับประชาชนทั่วไป และโครงการบริหารช่องปากสำหรับผู้สูงวัยด้วย Kenkobi
เป้าหมายสูงสุดก็เพื่อให้ประชาชนทุกช่วงวัยดูแลสุขภาพช่องปากอย่างดี นำไปสู่การมีสุขภาพร่างกายที่ดี
อ่านผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 9 เพิ่มเติมได้ที่
https://dental.anamai.moph.go.th/th/national-oral-health-survey-report/4952#wow-book/