×

อนุทินทูนธงชาติไทยเหนือหัว ขนข้าราชการกระทรวงมหาดไทยตรวจราชการ-สร้างความเชื่อมั่น-ชวนเที่ยวเกาะกูด

โดย THE STANDARD TEAM
11.11.2024
  • LOADING...
อนุทิน เกาะกูด

วันนี้ (11 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เช่น ศักดินัย นุ่มหนู สส. ตราด พรรคประชาชน, สมาชิกวุฒิสภา เช่น พิศูจน์ รัตนวงศ์, ธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ และ ชวภณ วัธนเวคิน ตลอดจนข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด

 

อนุทินและคณะลงพื้นที่ชุมชนบ้านคลองมาด ซึ่งเป็นพื้นที่ติดทะเล ทำประมง และได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นจุดแรก โดยพบปะประชาชนโดยรอบและพบกับคุณปู่สวงค์ รำไพ วัย 92 ปี ผู้อาวุโสที่สุดบนเกาะกูด โดยอนุทินกล่าวว่าวันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของประเทศชาติและการช่วยเหลือ ประชาชนเข้ามาได้ไม่เป็นไร พร้อมขอบคุณสวงค์ที่ชี้แจงแทนรัฐบาลวานนี้ว่าเกาะกูดเป็นของไทย และสวงค์ขอให้อนุทินช่วยเรื่องที่ดินทำมาหากินที่ประชาชนบางส่วนยังไม่ได้สิทธิ เพื่อที่ประชาชนจะรักเกาะกูดมากขึ้น

 

จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดชี้แจงว่าเกาะกูดเป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ ซึ่งต้องไปพิสูจน์ว่าใครอยู่ก่อนหรือหลังประกาศ โดยมี 100 กว่าหลังคาเรือนที่สามารถพิสูจน์สิทธิได้ก็ออกเอกสารสิทธิให้ หลังจากนั้นอนุทินสอบถามเรื่องไฟฟ้าและประปาในพื้นที่ว่าเป็นเช่นไร หน่วยงานรัฐรายงานว่าส่วนใหญ่ผู้ประกอบการใช้น้ำบาดาล ส่วนไฟฟ้ามีปัญหาเรื่องความเสถียร ส่งผลกระทบต่อกับผู้ประกอบการบ้าง

 

“ขอให้ความมั่นใจไม่ว่ารัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหนก็ไม่มีทางที่จะยอมเสียดินแดน อย่าว่าแต่เกาะทั้งเกาะเลย ตารางนิ้วเดียวก็เสียไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เราอย่าไปเสียเวลาคิดกับเรื่องที่ไม่มีวันเกิด แต่มาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น”

 

ทั้งนี้ ในช่วงเยี่ยมชมชุมชนซึ่งทุกบ้านประดับธงชาติไทย ช่วงหนึ่งอนุทินนำธงชาติไทย 2 ผืนมาทูนเหนือศีรษะ

 

จากนั้นอนุทินและคณะเดินทางต่อไปยังศาลาประชาคมเกาะกูด เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ พร้อมกล่าวว่าที่ตนเองและคณะเดินทางมาลงพื้นที่ถึงอำเภอเกาะกูดในวันนี้เพราะใจสั่งมา จากการที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับ MOU 44 และการแบ่งเขตทะเลในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชานั้นอาจทำให้สังคมเกิดความสับสนจนถึงขั้นไม่สบายใจ โดยเฉพาะประชาชนในอำเภอเกาะกูดและคนไทยทุกคน ตนอยากบอกทุกคนว่าอย่าคิดเรื่องนี้ให้รกสมองและเปลืองพื้นที่อารมณ์ ยืนยันว่าเกาะกูดที่มีอายุกว่า 100 ปีเป็นของราชอาณาจักรไทย มีสถานะเป็นอำเภอที่มีความสวยงามและไม่มีใครเอาเกาะกูดไปได้เป็นอันขาดแม้แต่ตารางนิ้วเดียว อย่าไปสนใจเส้นที่ลากมาจากด้านไหนหรือโดยใครก็ตาม เพราะมันมีความชัดเจนอยู่แล้ว

 

อนุทินกล่าวอีกว่าส่วนที่มีคำถามถึงสนธิสัญญาหรือข้อตกลงต่างๆ ให้คิดกันง่ายๆ ว่าวันนี้ที่พวกเราเดินทางมาถึงเกาะกูด ท่านเอาพาสปอร์ตมาด้วยหรือไม่ ต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองหรือเปล่า ซึ่งเราไม่ต้องทำกระบวนการเช่นนั้นเลย ออกจากตราดนั่งเรือมาเกาะกูดเช็กอินเข้าพัก ใช้บัตรประชาชน ใช้เงินบาท แค่นั้นก็จบแล้ว

 

“จริงๆ มาเกาะแบบนี้น่าจะใส่เสื้อฮาวาย กางเกงขาสั้น หมวกปานามา และแว่นกันแดดมา แต่วันนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจน ผมและคณะใส่ชุดข้าราชการที่เราปฏิบัติราชการขึ้นมาอยู่บนเกาะกูด แบบนี้จะเป็นของใครได้นอกจากเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย แม้แต่ข้าราชการในพื้นที่ก็แต่งเครื่องแบบด้วยความภาคภูมิใจ ก็มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าท่านคือข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของราชอาณาจักรไทย และท่านเป็นผู้ที่ใช้กฎหมายไทยในการบริหารราชการแผ่นดินในพื้นที่เกาะกูดแห่งนี้ ดังนั้นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ผมต้องขอความกรุณาว่าท่านได้เหรียญที่ได้รับพระราชทานมาให้ติดด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็นข้าราชการที่ทำหน้าที่ดูแลชาวบ้าน” อนุทินกล่าว

 

วันนี้หากพูดเรื่อง MOU 44 เขากำหนดไว้ในปี 2544 วัตถุประสงค์เพื่อวางกรอบในการพูดคุยเจรจาระหว่างไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการหารือร่วมกันระหว่างคณะกรรมการด้านเทคนิคที่แต่ละประเทศตั้งขึ้น ซึ่งมีหัวข้อว่าจะมีแนวทางในการร่วมกันพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมใต้ทะเลอย่างไร เพราะในอ่าวไทยมีก๊าซ ปิโตรเลียม น้ำมัน และทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ซึ่งเราต้องหาวิธีนำขึ้นมาใช้เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่จะลดลงได้

 

นอกจากนี้ วัตถุประสงค์เพื่อจะแบ่งเขตเศรษฐกิจจำเพาะอย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ถ้าเราพูดแบบชาวบ้านคุยกัน อ่านถ้อยคำใน MOU 44 ฟังแล้วก็งงตั้งแต่นาทีแรก ก็เอาเป็นว่าทั้งสองประเทศมีทะเลขวางกั้นอยู่ ประเทศหนึ่งขีดเส้นหนึ่งเส้น อีกประเทศขีดเส้นอีกหนึ่งเส้น แล้วเส้นของทั้งสองประเทศดันมาเกยกันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อน พอเป็นเช่นนี้ถามว่าเราจะรบกันเลยหรือเพื่อชิงพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะในยุคนี้สมัยนี้เราต้องนึกถึงความสงบและสันติในพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องตั้งคณะกรรมการทั้งสองประเทศขึ้นมาคุยกัน แต่ต้องยึดหลักสากลคือหลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องทรัพยากร เรื่องเขตทางทะเล ว่าจะขีดเขตทางทะเลออกไปอย่างไร จึงเป็นเรื่องของคณะกรรมการที่ทั้งสองประเทศจะตั้งขึ้นมาแล้วพูดคุยกัน

 

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของดินแดน ไม่ใช่เรื่องของแผ่นดิน เกาะกูดจึงเป็นดินแดนของประเทศไทย เรื่องเกาะกูดไม่มีอยู่ใน​ MOU 44 และเมื่อเห็นตกลงเมื่อไรตาม MOU ก็จะมีการสร้างสนธิสัญญาพัฒนาร่วม ซึ่งยังอีกห่างไกลกว่าจะไปถึงจุดนั้น ในรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ตนเชื่อว่ารัฐธรรมนูญของประเทศเพื่อนบ้านก็คงระบุไว้เช่นกันว่าก่อนที่จะไปทำสนธิสัญญากับใครต้องได้รับความเห็นจากรัฐสภาของแต่ละประเทศก่อน จึงมีขั้นตอนอีกมากกว่าจะถึงจุดนั้น แล้วหากถึงที่สุดแล้วตกลงกันไม่ได้เห็นไม่ตรงกันก็ยกเลิกกันไป ดังนั้นจึงไม่ต้องมานั่งบอกว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก MOU เพราะ MOU บอกแค่ว่าให้มาคุยกัน

 

เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับชาวบ้านเกาะกูด ไม่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักผ่อนที่เกาะกูด ส่วนที่มีข่าวว่านักท่องเที่ยวเห็นข่าวจึงชะลอการมาเที่ยวเกาะกูด ยกเลิกห้องพัก ตรงนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพสุจริต ผู้ประกอบการโรงแรมและโฮมสเตย์ต่างๆ ไม่แฟร์กับพวกท่านเลยด้วยข่าวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ดังนั้นการเดินทางมาเกาะกูดวันนี้เพื่อให้ความมั่นใจว่าเกาะกูดไม่ใช่ประเด็นของปัญหา ขอให้นักท่องเที่ยวได้มาท่องเที่ยว ขอให้ชาวบ้านได้ใช้ชีวิตตามปกติ MOU 44 ไม่มีส่วนใดเลยที่จะเป็นพิษเป็นภัยต่อเกาะกูดของพวกเรา ซึ่งอาณาเขตของประเทศไทยรัฐบาลมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและเขตแดนของประเทศไทยอยู่แล้ว

 

อนุทินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณี MOU 44 ที่มีกระแสเกี่ยวข้องกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนทำให้เกิดการบิดเบือนใช่หรือไม่ว่าไม่เกี่ยว มีคนยกประเด็นนี้ขึ้นมาตรงกับช่วงเวลาสับเปลี่ยนคณะกรรมการ เพราะชุดเดิมพ้นจากรัฐบาลนี้แล้ว ส่วนคณะกรรมการชุดใหม่ควรจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเป็นใครก็ได้ มั่นใจว่าคนที่เป็นข้าราชการการเมืองเป็นคนไทย หากต้องเจรจาประโยชน์ให้กับประเทศอื่นจะเรียกเป็นคนไทยได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใด

 

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับอนุทินพบปะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวและประชาชนกังวลเกี่ยวกับ MOU 44 จึงยกเลิกการเดินทาง เพราะไม่มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางมายังเกาะกูดได้หรือไม่ ตนจึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะกูด เพราะเกาะกูดเป็นของประเทศไทยและคนไทยทุกคน ที่นี่คนไทยทุกคนมีสิทธิ์มาเที่ยวและพักผ่อน

 

“เกาะกูดนี้แปลก ตนก็เพิ่งมาครั้งแรก น้ำใสเห็นปลาทุกที่ไม่ว่าจะเป็นลำธารหรือทะเล ตนอยากให้ความมั่นใจ วันนี้จึงมาสร้างความมั่นใจให้เป็นที่ประจักษ์ว่าที่นี่คือแผ่นดินไทย ไม่มีวันสูญเสียไปให้กับใคร ขอให้ทุกคนเดินทางมาท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล มีห้องพักรองรับสะดวกสบาย และยังมีเกาะแก่งอื่นๆ อีกมากในจังหวัดตราด อยากเชิญชวนให้ทุกคนมาใช้วันพักผ่อนให้เต็มที่”

 

 

 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X