การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและดุเดือดเดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายเมื่อวานนี้ (4 พฤศจิกายน) โดย คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี และ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ต่างเดินทางไปยังรัฐสมรภูมิสำคัญที่มีการต่อสู้ทางการเมืองอย่างเข้มข้น ขณะที่โพลสำรวจความคิดเห็นระบุว่าทั้งคู่มีคะแนนใกล้เคียงกันจนคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ยาก
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง ผู้สมัครทั้ง 2 คนเดินทางไปหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในรัฐยุทธศาสตร์สำคัญที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุดในบรรดา 7 รัฐสมรภูมิที่อาจเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้งในระดับประเทศ
ทั้ง 2 ฝ่ายจัดการชุมนุมหาเสียงในเมืองพิตต์สเบิร์ก ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ ขณะที่ทรัมป์ยังมีกำหนดการเดินทางไปยังเมืองรีดดิง เมืองเล็กๆ ทางตะวันออกในรัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนจะไปยังเมืองราลีในรัฐนอร์ทแคโรไลนา และปิดท้ายที่แกรนด์แรพิดส์ในรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน และเป็นเมืองที่ทรัมป์ใช้ปิดการหาเสียงในการเลือกตั้งปี 2016 และ 2020
ทั้งนี้ ทรัมป์ต้องเผชิญกับความไม่พอใจในเมืองรีดดิง หลังจาก โทนี ฮินช์คลิฟฟ์ นักแสดงตลก กล่าวในงานชุมนุมที่นิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพูดล้อเลียนว่าเปอร์โตรีโกเป็น “เกาะขยะลอยน้ำ” ซึ่งทรัมป์ชี้แจงว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดดังกล่าว แต่ไม่ได้แสดงการปฏิเสธใดๆ ในขณะที่ทีมรณรงค์ของเขากล่าวว่าคำพูดนั้นไม่ได้สะท้อนมุมมองของเขา
ในเมืองราลี ทรัมป์รื้อฟื้นการโจมตีปัญหาผู้อพยพที่ข้ามชายแดนเม็กซิโกเข้าสหรัฐฯ พร้อมขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกสูงถึง 25% หากยังไม่สามารถหยุดยั้งผู้อพยพและการลักลอบขนยาเสพติดได้ โดยทรัมป์กล่าวว่า “ถ้าพวกเขาไม่หยุดการบุกเข้ามาของอาชญากรและยาเสพติด เราจะจัดการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกทันที 25% ในทุกสินค้า”
ขณะที่แฮร์ริสเลือกใช้วันสุดท้ายทั้งหมดในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย โดยเริ่มที่เมืองสแครนตัน บ้านเกิดของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดี และปิดท้ายวันด้วยการจัดการชุมนุมใหญ่ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เมืองใหญ่ลำดับที่ 6 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเดโมแครต โดยมี เลดี้ กาก้า นักร้องป๊อปสตาร์ และ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดัง ร่วมแสดงการสนับสนุน
นอกจากนี้ แฮร์ริสยังใช้เวลาส่วนหนึ่งในเมืองอัลเลนทาวน์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวละติน และเดินทางไปยังเมืองรีดดิงเช่นเดียวกับทรัมป์ ซึ่งมีประชากร 95,000 คน โดย 70% เป็นชาวละตินที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเปอร์โตรีโก
ในขณะเดียวกัน แฮร์ริสเสนอแผนการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าที่เสียหายจากเฮอริเคนในเปอร์โตรีโก โดยทีมรณรงค์ของเธอกล่าวว่าผู้ลงคะแนนเสียงชาวละตินที่ตัดสินใจในช่วงท้ายกำลังหันมาสนับสนุนเธอ เนื่องจากความไม่พอใจต่อการดูถูกเปอร์โตรีโกจากกระแสข่าวของทรัมป์
ภาพ: Brendan McDermid & Evelyn Hockstein / Reuters
อ้างอิง: