เกิดอะไรขึ้น:
ใน 3Q67 บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) ทำยอดขายที่ดินได้ 957 ไร่ (สัดส่วนจากประเทศไทย 91% และเวียดนาม 9%) โดยเป็นยอดขายรายไตรมาสที่สูงที่สุด ฐานลูกค้าหลักยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนและไต้หวันในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
และเพิ่มเติมด้วย New Economy คือกลุ่ม Data Center จากประเทศสิงคโปร์ โดยโลเคชันที่ทำยอดขายได้โดดเด่นในไตรมาสคือ อมตะซิตี้ ชลบุรี 2 (บ้านบึง) ดังนั้นใน 9M67 AMATA สามารถทำยอดขายที่ดินได้แล้ว 2,017 ไร่ สูงกว่ายอดขายของปีที่ผ่านมาที่ 1,854 ไร่ และสูงกว่าเป้าในปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 2,000 ไร่
อย่างไรก็ตาม จากการเจรจากับลูกค้าในมือ บริษัทคาดว่าใน 4Q67 จะสามารถทำยอดขายได้อีกไม่ต่ำกว่า 500 ไร่ ส่งผลให้เป้ายอดขายของปี 2567 ที่ 2,500 ไร่จะเป็นเป้าที่ New High และเติบโต 35%YoY สำหรับเป้าการขายที่ดินในปี 2568 เบื้องต้น AMATA คาดว่าอุปสงค์ในอุตสาหกรรมหลักจะยังคงเติบโตต่อเนื่องและเตรียมการขยายขนาดโครงการอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 เพิ่มเติม พร้อมทั้งคาดการณ์ยอดขายที่ดินที่ไม่น้อยกว่าปี 2567
AMATA มี Backlog ณ สิ้น 3Q67 ที่ 19,400 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท โดยเป็นยอดจากประเทศไทย 90% และเวียดนาม 10% ซึ่งยอด Backlog จากประเทศไทยจะบันทึกรายได้ตั้งแต่ 4Q67 ไปถึงปี 2568 ขณะที่ยอด Backlog จากประเทศเวียดนามคาดว่าจะบันทึกได้ในช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 และมองบวกต่อยอดขายที่ดินที่ยังคงเติบโตโดดเด่นใน 4Q67 ซึ่งจะต่อยอด Backlog ในอนาคต
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AMATA ปรับขึ้น 6.93% อยู่ที่ 27.00 บาทต่อหุ้น ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.88% อยู่ที่ 1,460.64 จุด
แนวโน้มผลประกอบการ:
ด้วยยอด Backlog ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเริ่มบันทึกรายได้ตั้งแต่ 3Q67 ทำให้ InnovestX Research คาดว่า AMATA จะมีกำไรสุทธิโดดเด่นที่ 812 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 105.2%YoY และ 251.4%QoQ) จากการโอนที่ดินรวมที่สูงถึง 452 ไร่ (เพิ่มขึ้น 66%YoY และ 177%QoQ) และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ใน 4Q67
โดยคงประมาณการของปี 2567 ที่คาดการณ์รายได้ที่ 13,079 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 37%) และกำไรสุทธิ 2,399 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27.3%YoY) และปรับประมาณการรายได้ของปี 2568 เพิ่มขึ้น 5.5% เท่ากับ 15,538 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19%YoY) สะท้อน Backlog ที่รอบันทึกรายได้สูงขึ้น และคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 2,820 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17.6%YoY)
InnovestX Research ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ฐาน PER ที่ 4 เท่า ซึ่งเท่ากับ P/E เฉลี่ยในรอบ 5 ปีของ AMATA ได้ราคาเป้าหมาย 32.30 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 30.0 บาทต่อหุ้น คงคำแนะนำ ‘ซื้อ’
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีประเด็นกดดัน ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และติดตามโอกาสและความเสี่ยงของการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำและราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น
ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG: AMATA จัดอยู่ในระดับ AAA ของ SET ESG Ratings ในปี 2566 โดย AMATA เน้นด้านสิ่งแวดล้อมและการลดคาร์บอน รวมถึงการรียูสพลังงานในพื้นที่ทุกนิคมของ AMATA ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
อ่านบทวิเคราะห์ InnovestX Research: AMATA -ยอดขายที่ดิน 9M67 เกินเป้า และปีนี้มีโอกาสทำ New High ได้ที่: https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/high-conviction/highconviction-amata-20241025