ถึงพวกเราเกือบทุกคนจะบอกว่ารักการนอน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทุ่มเทความรักให้กับการนอนจริงๆ นั่นเพราะชีวิตทุกวันนี้เราอยู่ท่ามกลางข้อมูลข่าวสารและความรู้มากมายเต็มไปหมดที่อยู่บนมือของเรา และการไถมือถือก่อนนอนก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายคนแทนที่การอ่านหนังสือหรือฟังเพลงไปแล้ว (ยอมรับไหม!)
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมาคือ การที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งบางทีเราอาจจะคิดว่าการดูข้อมูลข่าวสารไว้เป็นการเตรียมการบ้านสำหรับการทำงานในวันรุ่งขึ้น หรือการนอนไถ TikTok ก็เป็นการผ่อนคลายหลังช่วงเวลาหนักหนาสาหัสทั้งวัน
แต่ที่สุดแล้วความจริงที่หนีไม่พ้นคือ คนเหล่านี้มีภาวะการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ และมันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการนอนหลับนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อพักผ่อนอย่างเดียว แต่การนอนหลับในภาวะ REM (REM Sleep) ซึ่งจะเป็นช่วงที่ทุกอย่างในร่างกายหยุดทำงานหมด ยกเว้นสมองที่จะทำให้ฝันเป็นเรื่องเป็นราวนั้นจะมีส่วนช่วยเรื่องของการประมวลผลและการจัดระเบียบข้อมูลของสมองในยามตื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ผลการศึกษาจาก Gallup ระบุว่า ชาวอเมริกัน 16% นอนแค่ 6 ชั่วโมง หรือน้อยกว่า ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเราควรจะนอนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง
แล้วถ้าเรายังนอนไม่พอต่อไปแบบนี้มันจะเป็นอย่างไรกันนะ? นี่คือผลกระทบ 6 ด้านที่จะเกิดขึ้นถ้าคุณยังไม่รักการนอนให้มากพอ
-
สมาธิ
เพราะการไม่ได้นอนหลับจะทำให้จิตใจของเราขุ่นมัว และเราจะมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดการด้านจิตใจ
ในระยะสั้นเราอาจจะใช้ตัวช่วยอย่างกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่กระตุ้นการทำงานของร่างกายให้เราสามารถผ่านพ้นชีวิตในแต่ละวันได้ เพียงแต่ที่สุดแล้วก็ไม่มีอะไรจะทำให้เรากระปรี้กระเปร่าได้ดีกว่าการนอนพักผ่อนให้เพียงพออยู่ดี
ทีนี้ตามการเปิดเผยของผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนและด้านการบำบัดจิต การนอนไม่เพียงพอนั้นไม่ได้ส่งผลต่อแค่เรื่องความจำในสมอง แต่ยังทำให้มีสารพิษในสมองเพิ่มขึ้นด้วย “การนอนไม่พอจะรบกวนความจำส่วนที่ใช้เกี่ยวกับข้อมูล และในระหว่างวันเราจะรู้สึกไม่สดชื่น และเราก็อาจไม่เข้าใจในข้อมูลต่างๆ ที่เราได้เรียนรู้ได้อย่างแจ่มแจ้งด้วย”
-
ความคิดสร้างสรรค์
การนอนพักผ่อนให้พอไม่ใช่แค่จะช่วยให้เราตื่นตัวขึ้นระหว่างวัน แต่ยังช่วยในเรื่องของการสร้างสรรค์ด้วย
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ระบุว่า การนอนทั้ง 2 ช่วง (non-REM และ REM) จะช่วยให้เราเชื่อมโยงระหว่างเรื่องราวต่างๆ ที่อาจไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนได้ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญอย่างมากต่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์
หลักฐานง่ายๆ ที่ลองสังเกตกันได้คือ วันไหนถ้าคุณนอนอิ่มหลับฝันดี เมื่อตื่นเช้ามาสมองคุณจะโล่ง คิดอะไรดีๆ ออกมาได้ง่ายและชัดเจนมากมาย
-
ประสิทธิภาพการทำงาน
เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนและง่ายมากสำหรับคนที่นอนไม่เพียงพอ เมื่อไปที่ทำงานแล้วประสิทธิภาพการทำงานของคุณจะลดลงอย่างชัดเจน และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่วัดกันแค่ความรู้สึก เพราะมีผลการศึกษาจริงๆ ที่ระบุว่า หากพนักงานอดนอนแล้วจะเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจเท่าไร
ในปี 2017 ผลการศึกษาชิ้นนึงระบุว่า การพักผ่อนไม่พอของพนักงานจะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจเป็นมูลค่าถึง 411 พันล้านดอลลาร์ เรียกได้ว่าการนอนไม่พอมันมีราคาแอบแฝงที่ต้องจ่ายอยู่ไม่น้อยทีเดียว
-
สุขภาพจิตของคุณ
สิ่งที่เราอาจมองข้ามไปคือเรื่องสุขภาพจิต (Mental Health) โดยที่การนอนไม่พอนั้นสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิตของเรา และมันอาจจะเลวร้ายไปกว่านั้นคือ ก่อให้เกิดความเครียดได้
ในผลการสำรวจโดย Gallup and Casper เปิดเผยว่า ผู้หญิงและวัยรุ่นนั้นมีโอกาสที่จะเกิดอาการวิตกได้หากนอนพักผ่อนไม่เพียงพอในคืนก่อนหน้า และผลการศึกษาเดียวกันยังระบุว่า การนอนไม่พอสามารถนำไปสู่โอกาสที่จะ ‘โดดงาน’ สูงขึ้นด้วย
เรื่องที่น่ากังวลคือ ปัญหาในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นจากการนอนไม่เพียงพอคือการที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ถ้าวันไหนที่อารมณ์พร้อมจะเดือดตลอดเวลา ขอให้เรารู้ไว้ว่าส่วนหนึ่งมันอาจเกิดจากการนอนไม่เพียงพอ
-
การควบคุมอารมณ์
คนที่นอนไม่เพียงพอมีโอกาสสูงที่จะแสดงหรือทำอะไรบางอย่างที่แปลกไปจากปกติได้ ซึ่งนั่นเป็นเพราะการนอนไม่เพียงพอทำให้ความสามารถในการควบคุมอารมณ์หรือการเข้าสังคมของเราลดน้อยลงไป
ลองสังเกตดู บางทีที่เรานอนไม่พอ บางครั้งเราก็ทำอะไรโดยไม่ทันยั้งคิดได้ ซึ่งการทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าจะส่งผลกระทบไม่ใช่แต่เฉพาะคนอื่น แต่อาจรวมถึงตัวเราด้วย
“การนอนไม่พอมันจะส่งผลต่อการตอบสนองของสมองเราที่จะตื่นตัวเป็นพิเศษ ผลการวิจัยพบว่า สมองส่วนที่เรียกว่า Amygdala ที่มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์ จะตื่นตัวเป็นพิเศษในหมู่คนที่อดนอน เมื่อเทียบกับคนที่มีการนอนพักผ่อนมาเพียงพอ” รีเบคกา ร็อบบินส์ จากแผนก Sleep Medicine Division Harvard Medical School เปิดเผย
-
ความปลอดภัยในร่างกาย
เรื่องนี้บางทีเราอาจมองข้ามไป เพราะคิดว่าการนอนไม่น่าส่งผล แต่ความจริงแล้วการนอนไม่พอนั้นส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำงานของร่างกายได้ ซึ่งมันจะอันตรายทันทีหากเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องใช้ความปลอดภัย เช่น การขับรถ หรือการทำงานกับเครื่องจักรหนัก
ผลการศึกษาระบุว่า คนที่อดนอนนั้นมีความเสี่ยงจะมีอันตรายไม่น้อยไปกว่าคนที่เมาแล้วขับ โดยคนที่ตื่นนอนมากกว่า 17 ชั่วโมงนั้นมีความเสี่ยงเท่ากับคนที่มีแอลกอฮอล์ในเลือด 0.05% (หรือดื่ม 2 แก้วในชั่วโมงแรก)
รู้แบบนี้แล้วบางทีเราควรจะหันกลับมารักการนอน (ก่อนจะรักคนอื่น) ให้มากๆ ซึ่งเราสามารถช่วยทำให้การนอนของเรามีคุณภาพมากขึ้นได้ด้วยการปรับกิจวัตรประจำวันก่อนนอน วางมือถือก่อนอย่างน้อย 30 นาที หรือใช้ตัวช่วยอย่างธูปหอม เทียนหอม ที่ทำให้ผ่อนคลาย และอย่าลืมปิดม่านให้สนิท
ว่าแล้วขอล้มตัวไปกระซิบรักพี่หมอนอีกสักงีบนะ 🙂
อ้างอิง:
