×

52 Weeks of Design by SB Design Square แคมเปญดีๆ ที่คนอยากได้ไอเดียตกแต่งบ้านไม่ควรพลาด [Advertorial]

14.05.2018
  • LOADING...

ธัญญรักข์ ชวาลดิฐ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอสบี เฟอร์นิเจอร์ คือหญิงแกร่งแห่งวงการเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ผู้ที่ใช้เวลา 20 ปีในชีวิตมีส่วนร่วมในการพัฒนาให้เอสบี ดีไซน์สแควร์ เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ครองใจคนรักการแต่งบ้าน และยืนหยัดสู้กับแบรนด์ยักษ์จากต่างชาติที่เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยได้อย่างงดงาม

 

วันนี้ THE STANDARD มีโอกาสนั่งคุยกับธัญญรักข์เพื่อถอดรหัสความสำเร็จที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 20 ปี รวมทั้งแคมเปญใหม่ของเอสบี ดีไซน์สแควร์ 52 Weeks of Design by SB Design Square ที่เปิดพื้นที่ให้กับอินทีเรียดีไซเนอร์ 52 คนมาแบ่งปันแรงบันดาลใจ ไอเดีย และคำแนะนำในการแต่งบ้านให้กับผู้ที่สนใจทุกคน ด้วยจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวคือการพัฒนาธุรกิจตกแต่งบ้านให้เติบโตยิ่งขึ้น และสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วนไปพร้อมๆ กัน

 

20 ปีแห่งการพัฒนาและปรับตัวของ SB Design Square

เราเข้ามารับช่วงธุรกิจของเอสบี เฟอร์นิเจอร์ ตั้งแต่ช่วงปี 2540 ตอนนั้นเอสบีเป็นแบรนด์ที่ชัดเจนในมุมผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดี ความท้าทายในตอนนั้นคือเราต้องเริ่มทำการตลาด จะทำอย่างไรให้แบรนด์ที่คนรู้จักในด้านคุณภาพมองเห็นว่าเราเป็นผู้นำด้านดีไซน์และนวัตกรรมด้วย ทำให้เราเริ่มพัฒนาสินค้าใหม่ๆ มาโดยตลอด

 

อีกหนึ่งความท้าทายใหญ่คือตอนที่แบรนด์ยักษ์จากต่างชาติเข้ามาตอนปี 2554 แน่นอนว่าผู้เล่นระดับโลกเข้ามาอย่างนั้น เราต้องคิดกันอย่างหนักว่าจะเกิดผลกระทบอะไรกับวงการเฟอร์นิเจอร์บ้าง เมื่อจุดแข็งของคู่แข่งอยู่ที่เรื่องราคาและคอนเซปต์ Do It Yourself เพราะฉะนั้นนั่นคือจุดที่เราต้องไม่ไป เรากลับมามองจุดแข็งของตัวเองว่าคืออะไร ก็คือการที่ลูกค้าให้ยอมรับเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการ ทีมช่างที่มีคุณภาพ ลูกค้าที่มาที่นี่ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แค่มาพร้อมไอเดีย แต่เรามีทีมอินทีเรียดีไซเนอร์คอยให้คำแนะนำและจัดวางให้ทั้งหมด

 

แต่แค่นั้นยังไม่พอ เลยเป็นที่มาของการที่เอสบีเริ่มขยายไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นมาอีก 12 แบรนด์ให้มีไลฟ์สไตล์แบรนด์มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีคาแรกเตอร์หลากหลาย ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากในวงการตอนนั้น แนวคิดของเราคืออยากให้ลูกค้าที่ไม่ว่าจะตกแต่งบ้านในไลฟ์สไตล์แบบไหนก็สามารถมาที่เราที่เดียวแล้วจบได้เลย

 

 

มองว่าทุกปัญหามีทางออกและเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาตัวเอง

ยอมรับว่าตอนที่ผู้เล่นระดับโลกเข้ามา กดดันมากๆ เพราะเขามีเงินมหาศาลและชนะมาได้ทั่วโลก โลคัลแบรนด์ในประเทศอย่างเราจะแข่งกับเขาได้อย่างไร ซึ่งถ้ามองว่านั่นคือปัญหาก็จะจบแค่นั้น ไม่มีการพัฒนา แต่เรากลับมาร่วมมือกันทั้งองค์กร ทั้งทีมดีไซน์ ทีมผลิต ไปจนถึงทีมการตลาดที่ต้องปรับตัวกันหมด เพราะเราจะอยู่แบบเดิมไม่ได้ ในเมื่อแบรนด์ต่างชาติเขาเป็น One Stop Shopping ที่ลูกค้าต้องทำเอง ของเอสบี ดีไซน์สแควร์ ก็เป็น One Stop Service ที่ลูกค้าได้ความง่ายและความสะดวก เราดูแลให้ตั้งแต่ขึ้นแบบจนกระทั่งติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย เราเดินคนละแนวคิด ซึ่งก็พิสูจน์ได้ว่าหลังจากที่แบรนด์ต่างชาติเข้ามาเป็นเวลา 5-6 ปี ยอดขายของเอสบี ดีไซน์สแควร์ ก็ไม่ตกและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

จุดสำคัญอยู่ที่การพัฒนาทีมงานอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

ตอนนี้เอสบีมีอินทีเรียดีไซเนอร์กระจายตามสาขาต่างๆ ประมาณ 300 คน พนักงานขายทั้งหมดประมาณ 700 กว่าคน ซึ่งทุกๆ คนที่เข้ามาทำงานกับเราจะต้องผ่านโปรแกรมการฝึกของเอสบีก่อนเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ แนวคิด ไปจนถึงความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี อย่างทีมดีไซเนอร์ก็ต้องผ่านการทดสอบการออกแบบ 3 มิติและจัดวางให้เสร็จและสวยงามภายใน 30 นาที เพราะลูกค้าแต่ละคนมีเวลาไม่มาก การให้ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ของเอสบีว่าแต่ละชิ้นตอบโจทย์ความต้องการแบบไหนได้บ้าง รวมทั้งการอัปเดตเทรนด์และความรู้ใหม่ๆ จากทั่วโลก ทุกๆ ปีเราพาทีมหัวหน้าของด้านต่างๆ ไปงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ตามประเทศต่างๆ เพื่อให้รู้ว่าเทรนด์การตกแต่งบ้านตอนนี้เป็นอย่างไร แล้วนำความรู้นั้นมาส่งต่อให้กับพนักงานในทีม นอกจากนั้นเราจะมีการจัดกิจกรรมให้ทุกคนได้โชว์ผลงานของเขา มีการแข่งขันตั้งแต่ระดับสาขาต่างๆ ไปจนถึงระดับประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นผลงานของเพื่อนๆ และรู้สึกอยากพัฒนาตัวเองต่อไป

 

ฝ่ายพนักงานก็เช่นเดียวกัน นอกจากความรู้เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดีว่าชิ้นไหนตอบโจทย์ความต้องการแบบไหน เพราะผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันเยอะมาก เช่น โซฟาบางตัวเหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งแล้วยุบตัวลงไปสบายๆ หรือบางคนชอบแบบที่นั่งแล้วแข็งๆ หน่อย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการหลายระดับของลูกค้า

 

บางคนเพิ่งเริ่มแต่งบ้านครั้งแรกก็อาจจะต้องการความช่วยเหลือเยอะ ต้องพาเขาเดินดูเพื่อให้เห็นตัวเลือกที่หลากหลาย บางคนเคยแต่งบ้านมาแล้ว มีแบบอยู่ในใจ หน้าที่ของพนักงานก็คือการแนะนำสินค้าที่ตรงแบบนั้นให้ได้มากที่สุดเพื่อประหยัดเวลาของลูกค้า บางคนมาหาของเพื่อไปตกแต่งคอนโดฯ สำหรับเช่า ก็ต้องรู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับแบบนั้นมีอะไรบ้าง

 

 

วิธีการสร้างมาตรฐานในธุรกิจที่มีความสุขของลูกค้าทุกคนเป็นเดิมพัน

เราเชื่อว่าธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านคือธุรกิจที่ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และความสุขให้กับลูกค้าทุกคนได้ ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ อย่างแรกที่เราต้องมีคือคำว่ามาตรฐาน ไม่ใช่แค่คุณภาพของสินค้า แต่รวมไปถึงคุณภาพการบริการที่พูดถึงไปแล้วด้วย เอสบีให้ความสำคัญกับทุกๆ รายละเอียดของลูกค้าทุกคนที่เข้ามาคุยกับเรา โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ต้องอยู่กับเขาต่อไปอีกในระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน เขามอบความไว้ใจในการสร้างความสุข ผ่อนคลาย สะดวกสบายในชีวิตให้กับเรา บางคนแค่ได้โต๊ะทำงานหรือเก้าอี้ทำงานดีๆ สักตัว ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว

 

52 Weeks of Design by SB Design Square แคมเปญที่มอบแรงบันดาลใจและความสุขให้กับทุกคน

จากความคิดหลักในการมอบความสุขให้กับลูกค้า จึงเป็นที่มาของแคมเปญ 52 Weeks of Design by SB Design Square เพราะเรามองเห็นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านมาจากการดูนิตยสารแต่งบ้าน เดินดูตามร้านเฟอร์นิเจอร์ กลับไปคุยกันที่บ้านแล้วกลับไปที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ใหม่ กว่าจะได้ของแต่งบ้านหนึ่งชิ้นอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน แต่เดี๋ยวนี้ลูกค้ามีอุปกรณ์สื่อสารอยู่ในมือ สามารถเข้าถึงไอเดียในการแต่งบ้านจากพินเทอเรสต์ อินสตาแกรม และทุกๆ ที่จากทั่วโลก

 

แต่ในขณะเดียวกันเราก็มองเห็นว่าดีไซเนอร์คนไทยที่เก่งๆ และได้รับการยอมรับมีเยอะมาก แต่น่าเสียดายที่มีคนเห็นผลงานเหล่านั้นไม่เยอะ เอสบีเลยอยากใช้พื้นที่ที่ตัวเองมี ทั้งแฟนเพจเฟซบุ๊กที่มียอดผู้ติดตาม 8 แสนกว่าคน หรือเว็บไซต์ของเอสบีที่มีสถิติคนเข้าชมมากกว่า 5 แสนคนในแต่ละเดือน เป็นพื้นที่ส่วนกลางในการนำเสนอผลงานของดีไซเนอร์แต่ละคนให้ลูกค้าได้รู้ว่าที่เราเห็นการออกแบบตามโรงแรม ร้านกาแฟ หรือบ้านที่สวยๆ ดีไซเนอร์แต่ละคนมีวิธีคิดในการออกแบบอย่างไร

 

 

คนที่เข้ามาดูก็จะได้เห็นมุมมองการตกแต่งที่ละเอียดอ่อน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนทั่วไปอาจมองข้าม เช่น ลำดับในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น วัสดุที่ใช้ แสง สี กลิ่น บรรยากาศทุกอย่างที่มารวมกันอยู่ในห้อง นอกจากนี้เรายังมีเซกชัน Decor Ideas เป็นคำแนะนำจากดีไซเนอร์แต่ละคน สำหรับคนที่อยากเริ่มตกแต่งบ้านในสไตล์นั้นๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เป็นการสร้างคอมมูนิตี้แห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย ดีไซเนอร์มีพื้นที่แสดงผลงาน ลูกค้าได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ และรู้สึกสนุกที่จะตกแต่งบ้านมากขึ้น และถ้าใครสนใจอยากได้ของตกแต่งบ้านแบบนั้นก็สามารถมาดูที่เอสบีได้เลย เรามีให้เลือกทุกรูปแบบ

 

ขยายขอบเขตการตกแต่งบ้านที่ไม่จำเป็นต้องเป็นของเอสบีเสมอไป

หลังจากปล่อยแคมเปญประมาณ 7-8 สัปดาห์ก็เริ่มมีฟีดแบ็กที่ดีของเพื่อนๆ ดีไซเนอร์ที่มาร่วมแคมเปญกับทางเอสบีบอกว่าอยากเข้ามาร่วมแคมเปญกับเราบ้าง ซึ่งเรายินดีเป็นอย่างมาก เพราะพูดตรงนี้เลยว่าเราไม่เคยมองดีไซเนอร์จากสตูดิโออื่นๆ ว่าเป็นคู่แข่ง แต่ทุกคนคือคู่ค้าของเอสบี เราเข้าใจดีว่าเวลาดีไซเนอร์ต้องตีโจทย์จากลูกค้า เขาฟิกซ์ไม่ได้หรอกว่าต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์จากเอสบีเท่านั้น แต่สิ่งที่เราคาดหวังคืออยากเอื้อประโยชน์ให้ดีไซเนอร์ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยไม่ต้องใช้ของของเราก็ได้ เพียงแต่ด้วยสเกลของเครือข่ายที่เอสบีมีอยู่ตอนนี้ เราก็มั่นใจได้ว่าน่าจะตอบโจทย์ความต้องการของดีไซเนอร์และลูกค้า ถ้าไม่ได้เป๊ะๆ 100% แต่อย่างน้อยก็ใกล้เคียงในราคาที่เหมาะสมและแข่งขันได้ อันนี้คือจุดแข็งที่เราสามารถซัพพอร์ตการทำงานของดีไซเนอร์แต่ละคน แต่ละสตูดิโอได้ สุดท้ายเพื่อจุดประสงค์ปลายทางเพียงอย่างเดียวคือช่วยให้ลูกค้าทุกคนได้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ตรงใจ

 

 

เป้าหมายในอนาคตคือการสร้าง ‘ดีไซเนอร์คลับ’ ที่ทุกคนจะได้ประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากแคมเปญ 52 Weeks of Design by SB Design Square ที่จะทยอยปล่อยออกมาอีกประมาณ 30 สัปดาห์ สิ่งที่เราอยากผลักดันไปพร้อมๆ กันคือตัว SB Designer Club ที่เราตั้งเป้าหมายว่าอยากสร้างเครือข่ายของอินทีเรียดีไซเนอร์ที่จะมาลงทะเบียนกับเอสบี และเราจะมีสิทธิประโยชน์ให้ในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การได้ซื้อสินค้าในราคาพิเศษ การสะสมยอดการจัดซื้อเพื่อนำคะแนนไปแลกสิทธิพิเศษเพิ่มเติม จะมีการสร้าง Designer Lounge ไว้ตามสาขาใหญ่ๆ ของเอสบี ดีไซน์สแควร์ เพื่อให้ดีไซเนอร์สามารถมานั่งทำงาน มาคุยงานกับลูกค้า เหมือนเป็นอีกหนึ่งออฟฟิศที่ดีไซน์เนอร์สามารถมาทำงานได้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ก็จะมีบริการ PRO Service คือมีทีมงานของเอสบีทำหน้าที่ช่วยดูแลประสานงานการทำงานตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงส่งของ ข้อนี้จะเหมือนเราช่วยเป็นเลขาฯ ส่วนตัวให้กับดีไซเนอร์เพื่อช่วยให้ทำงานได้ง่าย และมีเวลานำไปคิดไอเดียใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ในการตกแต่งบ้านของลูกค้าต่อไป

 

 

ทุกๆ แคมเปญและทุกๆ โปรเจกต์ที่เอสบีพยายามทำมาตลอดเริ่มต้นจากความคิดที่ว่าเราจะไม่มองตัวเองเป็นแค่ผู้ผลิตหรือผู้ขายของตกแต่งบ้านอย่างเดียว แต่เรามองว่าเราอยู่ในธุรกิจที่ทำให้บ้านลูกค้าสวยงาม เมื่อคิดแบบนี้ ทีมงานทุกคนจะทำงานสนุกขึ้น มีแพสชันในเรื่องด้านการดีไซน์มากขึ้น รวมไปถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สร้างแรงกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากตกแต่งบ้านมากขึ้น และสุดท้ายประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นในภาพรวมของธุรกิจที่จะได้รับการพัฒนาและยกระดับไปพร้อมๆ กัน

 

FYI
  • สำหรับผู้ที่สนใจอยากได้แรงบันดาลใจและการตกแต่งบ้านจากอินทีเรียดีไซเนอร์ 52 คนในแคมเปญ 52 Weeks of Design by SB Design Square สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sbdesignsquare.com/th/52-weeks-of-design
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising