×

5 สิ่งที่คุณทำได้ในกิจวัตรด้านความงาม เพื่อช่วยสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน

20.09.2022
  • LOADING...

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับโลกของเรา ทั้งเรื่องภัยพิบัติ สภาพอากาศ อุณหภูมิความร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดจากผลของภาวะโลกร้อนทั้งสิ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราทุกคนจะตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินชีวิตและเลือกใช้สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน  

 

เพราะการปรับกิจวัตรด้านความงามสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่เปิดเผยว่า ในมหาสมุทรนั้นมีปริมาณขยะพลาสติกไหลสู่ทะเลประมาณ 11 ล้านเมตริกตันในแต่ละปี ซึ่งปริมาณเหล่านี้สามารถลดลงได้หากทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ THE STANDARD POP จึงคัดสรร 5 สิ่งที่ผู้อ่านสามารถทำได้ในกิจวัตรด้านความงาม เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 

 

 

1. เปลี่ยนจากแผ่นสำลีเป็นแผ่นเช็ดเครื่องสำอางที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้

การใช้สำลีเช็ดเครื่องสำอางแล้วทิ้ง แม้จะสะดวกต่อการใช้งาน แต่ถ้าเรายอมลดความสะดวกนั้นลงมาอีกนิด แล้วเปลี่ยนเป็นการใช้แผ่นเช็ดเครื่องสำอางที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง เช่น ผ้าเช็ดเครื่องสำอาง หรือแผ่นสำลีออร์แกนิกที่มีหลากหลายแบรนด์ผลิตออกมา เพื่อสอดรับกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณขยะ ก็มีให้เลือกหลากหลาย การปรับเพียงนิดเดียวจะช่วยให้เราสามารถลดขยะจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว วิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดไม่เพียงแค่เงิน แต่ยังรวมถึงการมีส่วนได้ช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

 

2. กล่อง ขวด หรือกระปุกของเครื่องสำอาง ควรรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่

ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางทั่วโลกเพียงอย่างเดียว มีตัวเลขการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ประมาณ 1.2 แสนล้านหน่วยต่อปี แม้ว่าคุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ได้ตลอดเวลา แต่เราสามารถจำกัดการใช้พลาสติกส่วนเกินและปกป้องมหาสมุทรได้ด้วยการรีไซเคิลและนำภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์เปล่ากลับมาใช้ใหม่ได้ทุกเมื่อที่ทำได้ เช่น นำกระปุกครีมที่หมดแล้วมาทำความสะอาดแล้วใช้เก็บของชิ้นเล็กๆ เหรียญ กิ๊บติดผม สำลี หรือจะนำไปเป็นกระถางจิ๋วก็ได้ ส่วนกล่องแข็งที่แบรนด์ผลิตมาอย่างดี เพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดูลักชัวรี สวยงาม ก็นำมาใช้เก็บของให้เป็นระเบียบได้โดยไม่ต้องทิ้งเช่นกัน ปัจจุบันมีร้านค้าและหลากหลายแบรนด์ที่เปิดรับบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หมดแล้ว เพื่อนำกลับไปรีไซเคิล โดยมีพอยต์ ส่วนลด หรือการแลกรับผลิตภัณฑ์ชิ้นทดลองกลับไป นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราสามารถเลือกได้ตามสะดวก เพื่อช่วยโลกได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน

 

 

3. ปิดก๊อกน้ำเมื่อยังไม่ได้ใช้ 

มีหลายคนที่เคยตัวกับการยืนแปรงฟันหน้ากระจกโดยเปิดน้ำให้ไหลทิ้งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแปรงฟันเสร็จ ซึ่งแต่ละวินาทีที่น้ำไหลทิ้งไปโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์มันคือการสิ้นเปลือง และหากทุกคนทำแบบนี้เหมือนกันทั้งโลก จะส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ต่อทรัพยากรน้ำแน่นอน วิธีง่ายๆ ที่อยากให้ช่วยกันคือ ปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าระหว่างแปรงฟันอยู่ ปิดน้ำฝักบัวระหว่างที่ถูสบู่หรือสครับผิว แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ก็ช่วยประหยัดน้ำและสิ่งแวดล้อมได้แล้ว  

 

 

4. สนับสนุนแบรนด์ความงามที่รักษ์โลก

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตาม ควรเลือกอย่างมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีแบรนด์ความงามมากมายที่ตั้งเป้าในการมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเลือกใช้วัสดุและอ้างอิงแหล่งที่มาจากธรรมชาติ ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ เราควรเลือกสนับสนุนแบรนด์เหล่านี้ ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันแบรนด์ Clean Beauty แบรนด์ออร์แกนิก และแบรนด์ความงามสายวีแกน จะครองตลาดได้สำเร็จ แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่มองข้ามความสำคัญเรื่องนี้ หากเราสามารถเปลี่ยนมาใช้แบรนด์ที่สามารถรีฟีลหรือรีไซเคิลได้ เราจะมีส่วนช่วยในการลดขยะพลาสติกออกสู่โลกได้มากขึ้น และเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Garnier ที่สร้างแคมเปญรักษ์โลกอยู่เป็นระยะ ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ และมีส่วนได้บริจาคต้นกล้าชายเลนให้กับ CORA ซึ่งเป็นโครงการชุมชนที่จัดสรรทรัพยากรสิ่งแวดล้อม และยังเป็นแบรนด์ความงามที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องทั้งสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อมด้วย

 

 

5. เที่ยวทะเลอย่างมีจิตสำนึกด้วยมือเรา 

เราสามารถใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ทุกที่ที่ไป ไม่เว้นแม้แต่ตอนไปเที่ยวทะเล ซึ่งต้องคำนึงถึงวิธีการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด เช่น ควรตระหนักว่าโลชั่น สครับหน้า ครีมกันแดด และสารขัดผิว อาจมีสารเคมีหรือส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อมหาสมุทร เช่น ไมโครบีดส์พลาสติก ซึ่งไมโครบีดส์พลาสติกจะผ่านเข้าไปในโรงบำบัดน้ำเสียและไหลลงสู่มหาสมุทร และพวกมันมักจะถูกกินหรือดูดซับโดยสิ่งมีชีวิตในทะเล เนื่องจากเม็ดพลาสติกขนาดเล็กเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำมาจากโพลิเอทิลีนหรือปิโตรเคมีอื่นๆ เมื่อถูกกินเข้าไปจึงเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลอย่างมาก ดังนั้นทุกครั้งที่ไปเที่ยวทะเล จะเล่นน้ำหรือดำน้ำควรตรวจสอบส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของคุณ เพื่อดูว่าเป็นครีมกันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการังหรือไม่? ลองปรับมาใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว โลชั่น ที่มีส่วนผสมที่ไม่เป็นพิษและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ แทนที่จะใช้ไมโครบีดส์พลาสติก ก็จะมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลได้เช่นกัน 

 

ภาพ: Shutterstock 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X