×

ชวนสำรวจ ‘ฮอปส์ 3 สายพันธุ์’ ค้นหาคาแรกเตอร์ของรสชาติที่แปลกใหม่ ความอภิรมย์ที่คอคราฟต์เบียร์แค่ได้กลิ่นก็ดื่มด่ำ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
05.04.2022
  • LOADING...
ฮอปส์

HIGHLIGHTS

2 mins. read
  • ฮอปส์ (Hops) หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสำหรับการผลิตเบียร์ฮอปส์ต่างสายพันธุ์ ต่างแหล่งเพาะปลูก เมื่อนำไปสกัดจะให้กลิ่นและรสาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เบียร์มีสไตล์และคาแรกเตอร์ของรสชาติที่ต่างกัน 
  • ชวนคอคราฟต์เบียร์ไปสำรวจคาแรกเตอร์ของรสชาติที่แปลกใหม่จากฮอปส์ 3 สายพันธุ์

ถ้าประวัติศาสตร์เบียร์ไม่ได้ถูกบิดเบือน ‘เบียร์’ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทแรกของโลกที่คิดค้นโดยชาวบาบิโลเนียนมากว่าพันปี และถือกำเนิดขึ้นจากความบังเอิญของชาวนาคนหนึ่งที่ไปชิมน้ำที่ทำขนมปังตกใส่ เอ้า! อร่อยเฉย!

 

หลักฐานที่ปรากฏในหนังสือสุขภาพราวๆ ค.ศ. 1159 ยังพบต้นตอรสชาติขมเฉพาะตัวของเบียร์ที่เกิดจากการใส่ ‘ดอกฮอปส์’ ลงไปในเบียร์นั้นมาจากแม่ชีที่เชื่อว่าฮอปส์ มีสารที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพและยังมีสารพิเศษที่ช่วยยืดอายุและฆ่าแบคทีเรียในเบียร์ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีการบันทึกว่าฮอปส์สายพันธุ์แรกที่ถูกใส่ลงไปในเบียร์เป็นสายพันธุ์อะไร แต่ที่แน่ๆ ค.ศ. 1516 William IV, Duke of Bavaria เป็นผู้ออกระเบียบในการต้มเบียร์ว่าต้องมีส่วนผสมอะไรบ้าง 

 

 

Explore ส่วนผสมหลักของเบียร์ก่อนยกแก้ว Cheers!

คอเบียร์น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่ารสชาติที่พวกคุณดื่มด่ำจากน้ำสีอำพันเกิดจากส่วนประกอบหลักๆ 4 อย่าง ได้แก่ น้ำ, มอลต์, ยีสต์ และฮอปส์ ซึ่งองค์ประกอบทั้ง 4 อย่างล้วนแล้วแต่มีความปัจจัยที่ส่งผลต่อรสชาติ สี กลิ่น ไปจนถึงรสสัมผัสที่ต่างไป เพราะรสชาติของ ‘น้ำ’ และแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำจากแหล่งต่างๆ ก็มีผลต่อรสชาติของเบียร์ แม้แต่ชนิดของมอลต์ที่เลือกใช้และประเภทของยีสต์ที่แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Ale Yeast และ Lager Yeast ก็เช่นกัน

 

ประเด็นที่คอเบียร์สนใจพอๆ กับที่คอไวน์ลงลึกเรื่องพันธุ์องุ่นนั่นก็คือ ‘ฮอปส์’ (Hops) วัตถุดิบที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการผลิตเบียร์ โดยเฉพาะนักดื่มเบียร์คราฟต์ที่พิถีพิถันกับการคัดเลือกสายพันธุ์ฮอปส์ที่มีกว่าร้อยสายพันธุ์ทั่วโลก

  

เพราะคอเบียร์ที่อภิรมย์กับการเสาะหาประสบการณ์แปลกใหม่ของรสชาติเบียร์รู้ดีว่าฮอปส์แต่ละสายพันธุ์เมื่อสกัดออกมาแล้วจะให้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน แต่ปลูกคนละพื้นที่ ก็สร้างให้รสชาติที่ต่างไป

 

และอย่างที่บอก คุณสมบัติในฮอปส์ยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยปรับสมดุลความหวานของมอลต์ด้วยรสขม ฮอปส์สายพันธุ์ไหนที่มีความเข้นข้นของกรดอัลฟาสูงจะส่งผลให้เบียร์มีรสชาติขม เมื่อนำไปต้มก็ยิ่งเพิ่มความขมยิ่งขึ้น  

 

Explore ‘ฮอปส์ 3 สายพันธุ์’ ประสบการณ์ของรสชาติใหม่เพื่อคอคราฟต์เบียร์ทุกสายพันธุ์

เมื่อฮอปส์มีหลากสายพันธุ์ ครั้นจะให้คอเบียร์ร่ำน้ำดื่มสีอำพันทุกวันเพื่อเสาะหาสายพันธุ์ที่ตรงใจที่สุดอาจเป็นเรื่องยาก เราจึงคัดฮอปส์ 3 สายพันธุ์ จาก 3 แห่งผลิต ที่มีคาแรกเตอร์ของรสชาติที่ชัดเจน ตอบโจทย์คอคราฟต์เบียร์ทุกสายพันธุ์ 

 

‘ฮอปส์สายพันธุ์ Columbus’ จากอเมริกากรดอัลฟาเฉลี่ยร้อยละ 8-19 โดยน้ำหนัก (AABW) จึงติดรสขมเข้มข้น เข้มเครื่องเทศ ให้กลิ่นสมุนไพรอย่างพริกไทยดำที่โดดเด่น พร้อมกลิ่นหอมซิตรัสบางๆ 

 

แต่ถ้าคุณเป็นสายดื่มที่ชอบกลิ่นผลไม้ชัดเจน ‘ฮอปส์สายพันธุ์ Yellow Sub’ European ที่เด่นรสสัมผัสของผลไม้เขตร้อนอย่างเสาวรส พีช สับปะรด และออกรสแบล็กเบอร์รีในบางครั้ง 

 

ส่วนที่ชอบความฉ่ำและกลิ่นผลไม้รสเปรี้ยว สดชื่นๆ ‘ฮอปส์สายพันธุ์ Galaxy’ จากออสเตรเลีย ที่โดดเด่นด้วยท็อปโน้ตกลิ่นซิตรัส และยังได้รสหวานของแอปริคอต พีช และเสาวรส

 

ที่สำคัญคราฟต์เบียร์ที่ใช้ฮอปส์ทั้ง 3 สายพันธุ์ ยังผ่านกรรมวิธีแบบ Dry Hop ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่จะใส่ฮอปส์ลงไปในช่วงท้ายของการหมัก เพื่อเพิ่มความหอมและเพิ่มกลิ่นอโรมาในเบียร์ 

 

ถึงตา The Explorer อย่างคุณออกไป Explore รสชาติแปลกใหม่ของฮอปส์ทั้ง 3 สายพันธุ์ ดื่มด่ำความอภิรมย์เพื่อค้นหารสชาติที่ใช่สำหรับคอคราฟต์เบียร์เช่นคุณ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising