×

ความพยายามที่ผิดพลาด! แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นแห่นำสินค้ามาขายเป็นมือสอง หวังช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่การศึกษาระบุลดการปล่อยคาร์บอนได้น้อยที่สุด

28.09.2023
  • LOADING...
Fast Fashion

การศึกษาที่ตีพิมพ์ใหม่ระบุว่า โครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ฟาสต์แฟชั่น รวมถึง ZARA, SHEIN และ H&M ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การใช้แพลตฟอร์มการขายต่อเป็นสินค้ามือสอง คาดว่าจะมีผลกระทบน้อยที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

 

รายงานที่นำโดย Trove และบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Worldly ระบุว่า แฟชั่นฟาสต์แฟชั่นสร้างคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 11.5 กิโลกรัมต่อการผลิตสินค้า 1 ชิ้น แต่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เพียง 0.7% ผ่านทางโครงการขายต่อ

 

ในทางตรงกันข้าม แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับพรีเมียมอย่าง Tory Burch และ Ralph Lauren ที่สร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 16 กิโลกรัมต่อสินค้า 1 ชิ้น อาจลดการปล่อยก๊าซลง 14.8% ด้วยโครงการขายต่อ ในขณะที่แบรนด์สินค้าเอาต์ดอร์อย่าง Patagonia และ The North Face สามารถลดการปล่อยก๊าซลงได้ 15.8% 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

การคาดการณ์เหล่านี้พิจารณาถึงการผลิตที่ลดลงของผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างแท้จริง และแบรนด์ต่างๆ สามารถชดเชยยอดขายที่ลดลงของผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยรายได้จากการขายต่อสินค้ามือสอง

 

Andy Ruben ผู้ก่อตั้ง Trove และหนึ่งในผู้เขียนรายงานการศึกษานี้ ให้ความเห็นว่า การทำโครงการสินค้ามือสองของแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ให้ผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เพราะการขายเสื้อยืด 8 ดอลลาร์ในราคา 20 เซ็นต์ไม่ได้ช่วยชดเชยรายได้มากนัก

 

สิ่งนี้เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทหลายแห่งรวมถึง Gap และ The Container Store กำลังเปิดตัวโครงการขายต่อ โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ในแง่ของข้อกำหนดการรายงาน ESG ที่กำลังจะมีขึ้นจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา

 

แม้ว่าการซื้อสินค้าที่ใช้แล้วจะมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าของใหม่ แต่การศึกษายืนยันว่า โครงการดังกล่าวยังไม่เพียงพอสำหรับการปรับปรุงความยั่งยืนที่สำคัญ เนื่องจากการเพิ่มจำนวนให้มากพอเพื่อทำกำไรเป็นสิ่งที่ท้าทาย และ “มันเป็นความพยายามที่ผิดพลาด” Ruben กล่าว

 

เพื่อจัดการกับข้อกังวลเหล่านี้ ตัวแทนจาก H&M และ SHEIN กล่าวถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการบรรลุความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การอนุรักษ์น้ำ และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

H&M ตั้งเป้าที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2040 และจะเพิ่มการใช้เส้นใยรีไซเคิลเป็น 30% ภายในปี 2025 ในทำนองเดียวกัน SHEIN ที่เน้นย้ำในการลดของเสีย โมเดลไม่คำนึงถึงสินค้าคงคลัง และความก้าวหน้าในการใช้โซลูชันที่ยั่งยืนในด้านวัสดุและกระบวนการผลิต

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising