“ในวัย 21 กว่าๆ เกือบ 22 คุณกำลังทำอะไรกันอยู่?”

     ประเด็นหลักน่าสนใจอันเป็นที่มาของ ‘ยี่สิบเอ็ดเศษสามส่วนสี่’ มิวสิคัลที่ผู้จัดจั่วหัวว่าเป็น ‘A Brand-New Musical’ ซึ่งตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อเพิ่มรสชาติใหม่ๆ ให้กับวงการละครเวทีบ้านเรา โดยพวกเขากำลังจะเริ่มแสดงวันแรกในวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน) และจากการที่ THE STANDARD ได้มีโอกาสไปเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรมตัวละครและเรื่องราวในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งของรอบพรีวิว ตั้งแต่โน้ตตัวแรกจนถึงโน้ตสุดท้ายของโชว์ เราพบว่านี่เป็นมิวสิคัลที่เพลงดี เรื่องราวน่าสนใจ และมีความน่าประทับใจอยู่พอสมควร

     เรื่องราวของ 21 3/4 นั้นเป็นเรื่องราวของ 4 ตัวละครหลักที่ต้องผจญชีวิตพบเจอกับเรื่องราวต่างๆ อันเป็นช่วงที่เกิดขึ้นในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของพวกเขานั่นคือ วัย 21 ย่าง 22 ซึ่งหากเปรียบเทียบกันง่ายๆ ก็คงเหมือนกับช่วงชีวิตของวัยรุ่นที่ใกล้จะเรียนจบมหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นหลายๆ คนที่เคยผ่านประสบการณ์ในช่วงวัยนี้มาน่าจะพอเข้าใจเนื้อเรื่องได้พอสมควร โดยตัวละครหลัก 4 ตัวนั้นได้แก่ 2 ชาย 2 หญิงมากความสามารถจากกลุ่ม Fascinating Four ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขากันดีจากการเป็น 1 ใน 10 ทีมสุดท้ายของการแข่งขัน Thailand’s Got Talent ซีซัน 6 และนี่เป็นงานแสดงใหญ่ครั้งแรกของพวกเขา หลังจากเพิ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

     ภายในการแสดงชุดนี้ทีมสี่มหัศจรรย์ไม่ได้รับบทบาทเป็นเพียงแค่ตัวละครหลักเท่านั้น พวกเขายังต้องทำหน้าที่แสดงบทสมทบในฉากอื่นๆ ซึ่งมีตัวละครอื่นๆ เป็นตัวหลักอีกด้วย นับว่าเป็นความท้าทายสำหรับนักแสดงที่จะต้องทำให้เรารู้สึกเชื่อและอินไปกับเขาในทุกๆ บทบาท

     ทุกตัวละครมีคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ทั้งหนุ่มศิลปินช่างฝัน เน็ตไอดอลสาว หญิงแกร่งผู้เชื่อว่าชีวิตนี้ใช้ครั้งเดียวให้คุ้ม หรือแม้แต่เกย์หนุ่มผู้โง่เขลา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคาแรกเตอร์และสถานการณ์ที่มีความร่วมสมัย ไม่เคอะเขินที่จะเล่า ดูไม่ไกลตัวพวกเขาจนเกินไป และผู้ชมก็สามารถเข้าใจและมีประสบการณ์ร่วมไปกับพวกเขาได้ไม่ยาก

     แต่สิ่งที่ควบรวมความหลากหลายทางชนชั้น ฐานะ ทัศนคติ และเพศวิถีไว้ก็คงเป็นธีมหลักของเรื่องที่ว่าด้วยความฝันและความหวังในอนาคต ดั่งเพลง ‘วันพรุ่งนี้’ ซึ่งเป็นเพลงโปรโมตของมิวสิคัลเรื่องนี้ และตัวละครก็ทำให้เราเชื่อถึงความฝันและความหวังได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องที่อาจจะไม่คุ้นชินนัก กับการเล่าสถานการณ์ชนสถานการณ์อย่างไม่มีแกนหลักชัดเจน มีเพียงแค่ธีมหลักในเรื่องคือ ‘ความฝันและความหวัง’ นั้นประคองเรื่องราวไว้ ถ้าเผลองงงวยกับการดำเนินเรื่อง เราก็ขอแนะนำให้ดูแล้วจบไปเป็นซีนๆ ก็น่าจะพอสนุกกับมันได้อยู่

“ทุกตัวละครมีคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป ทั้งหนุ่มศิลปินช่างฝัน เน็ตไอดอลสาว หญิงแกร่งผู้เชื่อว่าชีวิตนี้ใช้ครั้งเดียวให้คุ้ม หรือแม้แต่เกย์หนุ่มผู้โง่เขลา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคาแรกเตอร์และสถานการณ์ที่มีความร่วมสมัย”

     ต้องขอกล่าวชื่นชมถึงพลังที่ล้นเหลือและจับต้องได้อย่างน่าประทับใจของสองนักแสดงสาวทั้ง ออย-ธัญลักษณ์ บุญเรือง ผู้ที่สามารถสะกดเราในทุกครั้งที่ปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งน้ำเสียงที่แข็งแรงน่าฟัง การร้องที่คมชัด รวมไปถึงซีนเด่นของเธอในเพลง #YOLO นั้นทำเอาเราขำน้ำตาพร่า ทั้งการแสดงและการร้องของเธอเอาคนดูอยู่หมัด ในฉากซึ่งเป็นการถ่ายทอดอาการแสบอวัยวะเพศหลังจากมีเพศสัมพันธ์แบบ One Night Stand เธอเล่นดีร้องดีจนเราแทบนั่งหนีบขาแน่นๆ เพราะห่วงตัวเองว่าจะรู้สึกคันไปด้วย ยกให้เป็นซีนที่เราประทับใจที่สุดในมิวสิคัลเรื่องนี้ไปโดยปริยาย ส่วนอีกหนึ่งสาวอย่าง ว่าน-ธัญญลักษณ์ เหล่าเรืองธนา เสียงใสกังวานและทรงพลังของเธอนั้นเติมเต็มความสดใสให้กับเรื่องราวได้อย่างดีเยี่ยม

ออย-ธัญลักษณ์ บุญเรือง ผู้ที่สามารถสะกดเราในทุกครั้งที่ปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งน้ำเสียงที่แข็งแรงน่าฟัง การร้องที่คมชัด

     อีกเรื่องที่ต้องกล่าวชื่นชมคือ การเรียบเรียงดนตรีเนื้อร้องที่ก่อให้เกิดเป็นเพลงใหม่ทั้ง 13 บทเพลงได้อย่างลงตัว โดยเพลงก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีและมีทุกแนวเพลงให้ฟังเพื่อความไม่จำเจและน่าเบื่อจนเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่ยืนพื้นด้วยเพลงป๊อปผสมกลิ่นของเพลงร็อก ฟังก์ ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี หรือแม้แต่กลิ่นเพลงคันทรี เข้าไปเพื่อสร้างความแตกต่างของเรื่องราวและคาแรกเตอร์นั้นๆ ให้โดดเด่นออกมา และถึงแม้ทองหล่อ อาร์ต สเปซ จะมีพื้นที่จำกัด แต่การแสดงครั้งนี้ก็ไม่ได้เปิดเพียง Backing Track แต่อย่างใด ทางโปรดักชันกลับเลือกที่จะยกวงดนตรีขนาด 5 ชิ้นมาเล่นและร้องกันสดๆ เพิ่มอรรถรสในการชมและรู้สึกถึงความทรงพลังมากขึ้นไปอีก

     สำหรับแฟนๆ ที่ชอบเสพศิลปะแขนงละครเวที เราอยากให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ ของ 21 3/4: A Brand-New Musical เรื่องนี้ดู เพราะมากกว่าความตั้งใจของทีมงานแล้ว เรื่องราวของความฝันและความหวังของคนยุคใหม่ในเรื่องนั้น นำเสนอได้ร่วมสมัยและมีส่วนที่น่าประทับใจและน่าจดจำอยู่บ้าง

     หรือไม่อย่างนั้นแค่ไปฟังเพลงเพราะๆ เราก็ว่าคุ้มแล้ว