×

อนาคตของงาน: ปี 2030 จะเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงานโลกอย่างไร

08.01.2025
  • LOADING...
ตลาดแรงงานโลก

โลกกำลังเข้าสู่ทศวรรษใหม่ที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล ทั้งในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และโครงสร้างประชากร ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงานทั่วโลก รายงาน The Future of Jobs Report 2025 โดย World Economic Forum เผยให้เห็นว่า ปัจจัยเหล่านี้ผสานกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว จะสร้างทั้งโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อน และความท้าทายที่ยิ่งใหญ่

 

รายงานคาดการณ์ว่า งานใหม่ 170 ล้านตำแหน่งจะเกิดขึ้นทั่วโลกภายในปี 2030 แต่ในขณะเดียวกัน 92 ล้านตำแหน่งจะหายไปจากระบบเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากระบบอัตโนมัติและการปรับโครงสร้างแรงงาน เหลืองานสุทธิใหม่เพียง 78 ล้านตำแหน่ง

 

 

5 ปัจจัยหลักที่กำลังเปลี่ยนโฉมตลาดแรงงาน

 

  1. เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยเฉพาะ AI หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ จะส่งผลกระทบมากที่สุด โดยองค์กรกว่า 60% มองว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะเปลี่ยนโฉมธุรกิจของพวกเขาภายในปี 2030 และสร้างความต้องการทักษะด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น

 

  1. ความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ธุรกิจต้องการบุคลากรที่มีทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ และความยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลง

 

  1. การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition)

การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังขับเคลื่อนตลาดแรงงาน สร้างความต้องการงานด้านพลังงานหมุนเวียน เช่น วิศวกรพลังงานสะอาด และผู้เชี่ยวชาญยานยนต์ไฟฟ้า

 

  1. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร

ประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจะต้องการแรงงานด้านสุขภาพ เช่น พยาบาล ในขณะที่ประเทศที่มีประชากรวัยทำงานเพิ่มขึ้นจะต้องการบุคลากรด้านการศึกษา เช่น ครู

 

  1. ภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก

การแข่งขันทางการค้าและความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างจีนและสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้ธุรกิจต้องเพิ่มความสำคัญในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการพัฒนาผู้นำที่มีมุมมองระดับโลก

 

ผู้ชนะและผู้แพ้ในตลาดแรงงาน

 

งานที่เติบโต

งานด้านเทคโนโลยี เช่น ผู้เชี่ยวชาญ AI นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และนักวิเคราะห์ข้อมูล จะมีความต้องการสูง เช่นเดียวกับงานในเศรษฐกิจสีเขียว เช่น วิศวกรพลังงานสะอาด และผู้เชี่ยวชาญยานยนต์อัตโนมัติ

 

งานที่ลดลง

งานด้านธุรการ เช่น แคชเชียร์ เลขานุการ และพนักงานบันทึกข้อมูล จะลดลงอย่างมาก เนื่องจากระบบอัตโนมัติเข้ามาแทนที่

 

ผลกระทบโดยรวม

งานใหม่กว่า 170 ล้านตำแหน่งจะเกิดขึ้น แต่จะถูกแทนที่ด้วยงานที่สูญหาย 92 ล้านตำแหน่ง ส่งผลให้งานสุทธิใหม่อยู่ที่เพียง 78 ล้านตำแหน่ง

 

ช่องว่างของทักษะ: ความท้าทายเร่งด่วน

 

รายงานระบุว่า 39% ของทักษะในปัจจุบันจะล้าสมัยภายในปี 2030 แม้ตัวเลขนี้ลดลงจากรายงานก่อนหน้า แต่ความท้าทายยังคงยิ่งใหญ่ โดยคาดว่า 59% ของแรงงานโลกจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมหรือพัฒนาทักษะใหม่ในอีก 5 ปี

 

ทักษะที่ต้องการ ได้แก่:

  • การคิดวิเคราะห์ (Analytical Thinking) ซึ่งเป็นทักษะอันดับ 1 ที่องค์กร 70% ให้ความสำคัญ
  • ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว (Flexibility)
  • ความเชี่ยวชาญด้าน AI และข้อมูล (Data Literacy)

 

ในทางกลับกัน ทักษะที่เกี่ยวข้องกับความแม่นยำและการทำงานแบบเดิมๆ เช่น ความอดทนและความแม่นยำทางกายภาพ กำลังลดความสำคัญลงอย่างรวดเร็ว

 

กลยุทธ์องค์กร: อยู่รอดและเติบโต

  • องค์กรชั้นนำกำลังปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  • 85% ขององค์กรวางแผนที่จะพัฒนาทักษะใหม่ให้กับพนักงาน
  • 70% ตั้งใจจ้างแรงงานใหม่ที่มีทักษะเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี
  • 40% จะลดจำนวนพนักงานในตำแหน่งที่ระบบอัตโนมัติสามารถแทนที่ได้

 

ขณะเดียวกันการสนับสนุนสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดึงดูดและรักษาคนเก่ง

 

บทสรุป: ความพร้อมสู่โลกอนาคต

 

การเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานสะท้อนความจำเป็นที่ทั้งพนักงานและองค์กรต้องพร้อมปรับตัวอยู่ตลอดเวลา การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และการพัฒนาทักษะใหม่ (Reskilling) ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

คำถามไม่ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่คือเราจะปรับตัวได้เร็วแค่ไหน

 

ภาพ: metamorworks / Getty Images 

อ้างอิง: 

  • World Economic Forum, The Future of Jobs Report 2025
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X