วันนี้ (3 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระหว่างสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าตอนนี้ได้สั่งการให้เพิกถอนการออกโฉนดพื้นที่ 5 แปลงที่ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ไม่ควรออก จะต้องกันไว้เป็นแนวกันชน
ส่วนที่ ส.ป.ก. ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ ส.ป.ก. นั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นการยืนยันตามกฎหมายของเรา แต่ปัญหาคือแต่ละหน่วยงาน แต่ละกระทรวงต่างใช้แผนที่ของตัวเอง และอ้างว่าตัวเองถูก ซึ่งก่อนหน้านี้หน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเคยอยู่ในกระทรวงเกษตรฯ พอแยกตัวออกไปก็ใช้แผนที่คนละฉบับ
เชื่อมั่นกรมแผนที่ทหารชำนาญที่สุดในประเทศ
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติจึงต้องเดินหน้าวันแมป แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยึดกฎหมายของรัฐเป็นหลัก เพราะต้องไม่ลืมว่าพื้นที่ของรัฐก็คือของรัฐ ไม่ใช่ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เมื่อรัฐตัดสินว่าจะให้คณะกรรมการวันแมป ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานก็ต้องให้เกียรติท่าน และในประเทศไทยก็ไม่มีหน่วยงานไหนที่มีความชำนาญเท่ากับกรมแผนที่ทหาร เพราะเป็นหน่วยงานที่ชำนาญที่สุดเนื่องจากร่ำเรียนมาโดยตรง
“ผมขอยืนยันว่าหากกรมแผนที่ทหารทำงานไม่ได้เรื่อง เวลาทำศึกสงครามสมัยก่อน หน่วยงานที่จะให้ปืนใหญ่หรืออากาศยานยิงลงจุดไหนก็ใช้พิกัดแผนที่ของกรมแผนที่ทหารเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเขามีความชำนาญ ฉะนั้นก็ควรให้เกียรติเขา” ร.อ. ธรรมนัส กล่าว
ส.ป.ก. ออกมาเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนทั้งแผ่นดิน
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ในคณะกรรมการวันแมปก็มีตัวแทนจากทุกกระทรวงเข้าร่วม เช่นเดียวกับคณะกรรมการจำแนกที่ดินก็มีคนจากทุกกระทรวงเข้าร่วม เพราะฉะนั้นอย่าเบี่ยงเบนประเด็น หมายความว่า คณะกรรมการจำแนกที่ดินซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานจำแนกที่ดินออกมาก็ทำผิดกฎหมายหรือไม่
ส่วนที่ปลัดกระทรวงทรัพย์ เชิญ ส.ป.ก. กรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปพูดคุยหาข้อยุติในวันพรุ่งนี้ (4 มีนาคม) นั้น ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มีการเชิญตนเอง และส่วนตัวก็จะไม่ลงไปพูดคุยในเรื่องนี้เด็ดขาด เพราะมองว่าตนเองให้เกียรติมากพอแล้ว ตนฟังนโยบายของรัฐบาลและแนวทางของคณะรัฐมนตรี ส่วนผู้ปฏิบัติก็ไปว่ากันอีกที ซึ่งทราบว่า ส.ป.ก. ก็ออกมาดำเนินการ มิเช่นนั้นประชาชนก็จะเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน เราต้องแยกแยะระหว่างเจ้าหน้าที่ทำผิดกฎหมายกับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน แผ่นดินนี้ออกกฎหมายเพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชน บังคับใช้กฎหมายเพื่อให้สังคมสงบ ฉะนั้นส่วนตัวขอยืนยันว่าเราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
‘สุทิน’ ชี้ 2 เดือนได้ข้อสรุปที่ดิน ส.ป.ก. เขาใหญ่
ด้าน สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการวันแมปว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปว่าที่ดิน ส.ป.ก. เขาใหญ่ ต้องทำให้เสร็จภายใน 2 เดือน ส่วนจะสรุปว่าเป็นที่ของใคร จะมีคณะอนุกรรมการอยู่ 3 ชุด ที่ต้องเสนอความเห็นร่วมกันคือ อนุกรรมการด้านเทคนิคที่ดูเรื่องแนวเส้น โดยเจ้ากรมแผนที่ทหารเป็นประธาน นอกจากนี้ยังมีอนุกรรมการด้านกฎหมายที่มาดูเรื่องข้อกฎหมาย และอนุกรรมการนโยบายที่ดูเรื่องการเมือง โดยการลงพื้นที่ของคณะทำงานด้านเทคนิคต่อไปนี้ให้ลงเป็นคณะ ฉะนั้นก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาหรือข้อวิตก
‘สุทิน’ โต้ ‘พิธา’ ยืนยันเช่าที่ราชพัสดุต่อสัญญา
ส่วนกรณีที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่หนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี พร้อมให้ข้อมูลประชาชนว่า รัฐให้เช่าพื้นที่แค่ 3 ปี ประชาชนไม่สามารถทำอะไรได้นั้น สุทินกล่าวว่า เป็นการให้ข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับชาวบ้าน และเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง รวมถึงเป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดให้กับชาวบ้าน
สุทินกล่าวว่า ถ้าอันไหนเป็นของของรัฐก็ให้กรรมสิทธิ์ไม่ได้ เช่น ที่ของราชพัสดุ เพราะผิดกฎหมาย ยกเว้นจะแก้กฎหมายที่ราชพัสดุ จึงต้องบอกให้ชาวบ้านเข้าใจ แต่หากเป็นพื้นที่ขอบข่ายของงาน ส.ป.ก. ที่ว่างเปล่าสามารถที่จะจัดสรรให้ชาวบ้านได้ตามกฎหมาย ซึ่งพื้นที่หนองวัวซอก็ได้มีการเปิดกระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ ไม่ใช่ว่าให้ชาวบ้านเช่าทั้งหมด
สุทินกล่าวอีกว่าให้เช่าไม่ใช่แค่ 3 ปี เลิก แต่เป็นระยะเวลาแรก 3 ปี ซึ่งหากชาวบ้านขอต่อก็ดำเนินการต่อได้ เพื่อให้ชาวบ้านมีวินัยและนำไปใช้อย่างถูกต้องและถูกกฎหมาย ที่ผ่านมายังไม่เคยมีรัฐยกเลิกสัญญากับชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านขอก็ต้องต่อให้หมดที่สำคัญไม่ใช่กรรมสิทธิ์จริง
“เราไม่เคยบอกว่าที่ราชพัสดุจะเอามาเป็นกรรมสิทธิ์ เราไม่ได้บอกว่าที่ที่ทหารใช้อยู่ จะเอาไปเป็นกรรมสิทธิ์ให้ชาวบ้าน ไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นสิทธิของชาวบ้าน เราให้จริงๆ พิสูจน์แล้วก็ให้ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ให้ ก็ให้เช่า อันนี้เราก็ต้องรักษาทรัพย์สินของประเทศไว้ด้วย เพราะฉะนั้นอะไรที่รัฐบาลทำดีเป็นประโยชน์ ฝ่ายค้านชมบ้างก็ได้ แต่ถ้าไม่ชม จะให้ความรู้ก็ต้องให้ในสิ่งที่ถูกต้อง ข้อมูลที่ถูกต้อง แล้วไปสร้างค่านิยมให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาลุยเอาที่รัฐซะหมด อันนี้อันตรายอยู่“ สุทินกล่าว
‘ภูมิธรรม’ ขออย่าสร้างประเด็นการเมือง
ด้าน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทุกคนปรารถนาอยากให้ประชาชนได้สิ่งที่ดีที่สุด และการให้สิทธิจะต้องพิจารณาว่าเป็นที่ดินแบบไหน การวิจารณ์โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเนื้อหาจริงๆ การพูดเพื่อใช้ทางการเมืองต้องหลีกเลี่ยง และพร้อมที่จะนั่งคุยด้วยบนพื้นฐานความเป็นจริง อย่างไรก็ตามหมดฤดูหาเสียงแล้ว หรืออาจเป็นเพราะกำลังเริ่มต้นใหม่ในการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
ภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพิธาเข้าใจผิดหรือไม่ แต่รัฐบาลก็ลงพื้นที่ อย่างที่จังหวัดน่าน เป็นที่ดินทำกินที่รุกป่าสงวน แต่เราก็ให้สิทธิแก่เขา สามารถอยู่อย่างไม่ผิดกฎหมายและทำกินได้ หากไปที่จังหวัดระนอง ก็มีพื้นที่บุกรุกป่าชายเลน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งโรงพยาบาล จึงต้องให้เป็นที่ราชพัสดุให้เช่าเพื่อทำกิน และการพิจารณาจากภาครัฐคือต้องให้โดยที่ประชาชนไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องอยู่อย่างผิดกฎหมาย เพราะนโยบายของรัฐบาลระบุชัดเจนว่าจะดูแลประชาชน
“อยากให้ฝ่ายค้านมาดูความเป็นจริง และช่วยกันแก้ปัญหาประเทศชาติ ดีกว่ามานั่งพูดแล้วพยายามมองให้เป็นประเด็นทางการเมือง ผมว่าคุณพิธาต้องไปดูรายละเอียดอะไรต่างๆ ให้มากขึ้นก่อนที่จะวิจารณ์ อย่าพูดแต่เรื่องเดียวแล้วเอาใจพี่น้องประชาชน ต้องดูว่าความเป็นจริงควรทำแค่ไหน ก่อนที่จะวิจารณ์ก็ควรไปดูว่าในที่ดินแต่ละเขตมันมีความแตกต่างกันอย่างไร มีกฎหมายเอื้ออำนวยให้แค่ไหน เราอยู่ในประเทศที่มีกฎหมายนะครับ เมื่อกฎหมายมีอยู่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากกฎหมายมีแล้วไม่ถูกต้องเหมาะสมก็ต้องแก้ไข” ภูมิธรรมกล่าว
