วันนี้ (29 ตุลาคม) ที่บริเวณสกายวอล์ก แยกปทุมวัน มีการจัดการชุมนุมขึ้นอีกครั้งหลังที่แห่งนี้เคยจัดการชุมนุมและถูกเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา
กิจกรรมรัฐร้าวเราไม่ลืม ‘รัฐและความรุนแรง ความทรงจำที่ยากจะลืม’ จัดโดยกลุ่มคณะจุฬาฯ นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผู้จัดได้แจ้งขออนุญาตการชุมนุมตามกฎหมายแล้ว
กิจกรรมนี้มีขึ้นเนื่องในวันครบรอบ 13 วันการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยรัฐยังไม่ออกมารับผิดชอบและชี้แจงถึงสารเคมีที่ใช้ในวันนั้น
อีกทั้งแม้จะยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ไปแล้ว แต่การยกเลิกไม่เท่ากับการเพิกถอน โดยเนื้อหาการเรียกร้องในวันนี้คือต้องการให้รัฐเพิกถอนการดำเนินคดีตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพราะรัฐไม่มีความชอบธรรมในการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ใช้โบมัดมือไขว้หลัง และปิดปาก โดยมีข้อความที่โบว่า ‘#แก้ได้ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ’ เพื่อสะท้อนเหตุการณ์เจ้าหน้าที่จับกุมสื่อมวลชนขณะบันทึกภาพการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน โดยเจ้าหน้าที่ได้จับสื่อมวลชนมัดมือไขว้หลังไว้กับเก้าอี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ขณะที่เวลา 18.00 น. มีกิจกรรมนั่งเคารพธงชาติ ให้กำลังใจเยาวชนที่ถูกทำร้ายร่างกายเพราะไม่ยืนเคารพธงชาติที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นเป็นการปราศรัยถ่ายทอดประสบการณ์การถูกสลายการชุมนุมทั้งที่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา และการที่รัฐใช้ความรุนแรงในครั้งอื่นๆ อาทิ การถูกขึ้นศาลทหาร เหตุการณ์ราชประสงค์ปี 2553 และการสลายการชุมนุมตากใบ ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
โดย แอมมี่ The Bottom Blues เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยเล่าเหตุการณ์การถูกจับกุมตัวพร้อม ไผ่ ดาวดิน และแนวร่วมคนอื่นๆ ในวันที่ 13 ตุลาคม ก่อนการชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล เนื้อหาสะท้อนความผิดปกติของการจับกุม ตั้งแต่การไม่แจ้งข้อกล่าวหา การฝากขังเรือนจำกลางคลองเปรมด้วยข้อหา พ.ร.บ. ความสะอาด ก่อนจะถูกแจ้งข้อหาอื่นในภายหลัง รวมถึงสะท้อนสภาพผู้ต้องขังในเรือนจำที่ขัดหลักสิทธิมนุษยชน
แอมมี่ The Bottom Blues เปิดเผยว่า สิ่งที่ทำให้ไม่รู้สึกกลัวและมีกำลังใจคือ เมื่อเข้าไปในเรือนจำ ผู้ต้องหาทุกคนชูสามนิ้วพร้อมพูดชื่อแอมมี่กับไผ่
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์