โลกใบนี้ดูจะมีเรื่องราวให้ ‘ผู้หญิง’ ต้องพบเจอกับความท้าทายไม่รู้จักหยุดหย่อน เฉกเช่นเดียวกันกับโลกภาพยนตร์ ที่หลายเรื่องหลายราวเป็นภาพสะท้อนชั้นดีถึงแง่มุมชีวิตและสังคมของ ‘เพศหญิง’ ไม่เว้นแม้แต่บริบทแห่งการ ‘หนี’
ตอนนี้บนโลกจริง ใครหนีไปไหนบ้างไม่รู้ แต่บนโลกภาพยนตร์ยังมี ‘ผู้หญิง’ อีกหลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์หนีๆ ในแบบฉบับของตัวเองด้วยเช่นกัน ส่วนพวกเธอจะหนีทำไม หนีไปไหนบ้าง THE STANDARD คัดส่วนหนึ่งมาให้แล้ว
- Thelma & Louise (1991) – เบื่อผู้ชาย เบื่อชีวิต งั้นก็หนีเที่ยวมันซะเลย!
คาแรกเตอร์: เทลม่า (จีน่า เดวิส) และ หลุยส์ (ซูซาน ซาแรนดอน)
เมื่อสองสาวเพื่อนซี้แต่บุคลิกต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งก็เบื่อผัว เพราะทนให้กดขี่ข่มเหงมานานจนขาดความมั่นใจในตัวเอง ส่วนอีกนางก็แสบซ่า กร้านโลก และแน่นอน เธอเองก็มีปมเรื่องผู้ชายจนไม่เชื่อใน ‘ความรัก’ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Road Movie ที่เต็มไปด้วยพลังเฟมินิสต์แบบสุดเซอร์
วันดีคืนดีสองสาวเลยนัดแนะกันว่าจะใช้วันหยุดลาพักร้อนแบบไม่บอกใคร จากนั้นควบรถเปิดประทุนหวัง ‘หนี’ ออกจากชีวิตที่สุดแสนเหนื่อยหน่าย
ความเซอร์เริ่มต้นจากตรงนี้ เพราะทันทีที่ล้อหมุน เรื่องราวระหว่างทางที่เริ่มต้นจากความผิดพลาดระดับนาโนก็ค่อยๆ ลุกลามใหญ่โต และกลายเป็น ‘ปัญหา’ ที่รุกไล่พวกเธอจน ‘ติดมุม’ แต่หลังชนกำแพงแล้วถ้าคิดว่าต้องยอมแพ้มันก็คงไม่เท่ บอกเลยเกิดเป็นเฟมินิสต์ทั้งทีมันต้อง ‘หนี’ จนหยดสุดท้าย หนีจนกระทั่งมันกลายเป็นฉากจบที่ทั้งเท่และคลาสสิกของโลกภาพยนตร์ไปเลย
- Mad Max: Fury Road (2015) – หนีตายดาบหน้าจากโลกพังๆ ผู้กุมอำนาจโหดๆ
คาแรกเตอร์: อิมเพอเรเตอร์ ฟูริโอซา (ชาร์ลิซ เธอรอน)
จุดเริ่มต้นของฉากแอ็กชันไล่ล่าที่ทั้งดิบเถื่อน แต่สวยงามแปลกตา เกิดขึ้นเมื่อ ‘ฟูริโอซา’ หญิงแกร่งกลางโลกยุคอารยธรรมล่มสลาย รอบตัวแห้งแล้ง น้ำและน้ำมันมีค่าสูงสุด เธอวางแผนมาดิบดีหวังจะพา ‘Five Wives’ เมียสาวแสนสวยของ อิมมอร์แทน โจ ผู้ปกครองจอมเหี้ยมโหด หนีกลับไปยังบ้านเกิด ความหวังเดียวที่พวกเธอเชื่อคือการมีชีวิตอย่างสงบสุขบนโลกพังๆ ใบนี้
- Room (2015) – หนีออกจากชีวิตในห้องแคบๆ
คาแรกเตอร์: จอย (บรี ลาร์สัน)
7 ปี! คือเวลาที่ ‘จอย’ ถูกผู้ชายคนหนึ่งจับมาขังไว้ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ และไม่ใช่แค่ถูกจับขัง เธอยังโดนข่มขืนจนตั้งท้องและให้กำเนิดลูกชายชื่อ ‘แจ็ก’ (เจคอบ เทรมเบลย์) แต่หลังจากต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มานานหลายปี เธอคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อพาลูกชาย ‘หนี’ ออกจาก ‘กล่อง’ ที่แจ็กเคยเข้าใจมาตลอดว่าทั้งหมดนี้คือโลก และถัดออกไปจากพื้นที่ที่เขาคุ้นเคยคือนอกโลก ถึงเวลาแล้วที่แจ็กจะได้รู้ว่าโลกจริงนั้นกว้างใหญ่แค่ไหน!
- Gone Girl (2014) – หนีผัวแบบแสบจิต
คาแรกเตอร์: เอมี ดันน์ (โรซามันด์ ไพก์)
หน้าฉากที่ดูเหมือนว่าชีวิตคู่ของ ‘เอมี’ กับสามีอย่าง นิก (เบน แอฟเฟล็ก) จะเป็นคู่แต่งงานที่ทั้งเหมาะสมและเพอร์เฟกต์ แต่ความจริงมันกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวร้าวลึกจนใกล้จะแตกเต็มทน แต่แล้วในวันครบรอบแต่งงานปีที่ 5 จู่ๆ เธอก็หายตัวไปในแบบที่ทำให้สามีงงเป็นไก่ตาแตก แถมทิ้งร่องรอยต่างๆ เอาไว้จนทำให้ผู้คนอดคิดไม่ได้ว่า ‘ผัวตัวดี’ ของเธอนี่แหละน่าสงสัยที่สุด สุดท้ายแล้วเอมีหายไปไหน ใครพลาดต้องไปหาดูเอง
- Almost Famous (2000) – หนีแม่ไปลุยชีวิต
คาแรกเตอร์: อนิตา มิลเลอร์ (ซูอีย์ เดสชาเนล)
“One day…You’ll be cool”
“ขึ้นไปดูที่ใต้เตียงห้องพี่ แล้วสิ่งนั้นจะปลดปล่อยให้เอ็งเป็นอิสระ” เธอกระซิบบอกน้องชาย ประโยคสั่งลาไม่สั้นไม่ยาวที่นอกจากจะตรึงอยู่ในใจน้องชายวัยละอ่อนอย่าง วิลเลียม มิลเลอร์ แต่มันยังเป็นเหมือนลายแทงชีวิตที่ทำให้น้องได้รู้จักกับโลกของดนตรีร็อก! และทันทีที่พูดจบ ประโยคเดียวกันนั้นก็บ่งบอก ‘ตัวตน’ ของอนิตาด้วยเช่นกันว่า วัยรุ่นพุ่งแรงอย่างเธอนั้นต้องการ ‘อิสระ’ ที่จะเลือกใช้ชีวิตของตัวเองมากแค่ไหน ตอนนี้อนิตาอายุครบ 18 แล้ว ได้เวลาที่เธอจะ ‘วิ่งหนีออกจากกรอบ’ ชวนหงุดหงิดที่ผู้เป็นแม่ตีเส้นไว้แล้วพุ่งออกไปสู่โลกกว้าง!
ทิ้งไว้ก็แต่มรดกแผ่นเสียงของ Led Zeppelin, Bob Dylan, Jimi Hendrix, Neil Young, Joni Mitchell ฯลฯ โดยเฉพาะ The Who อัลบั้ม Tommy (1969) เพื่อให้น้องชายได้เติบโตต่อ
- Split (2016) – แค่บุคลิกเดียวก็หนีแล้วแหละ นี่พี่มีมากถึง 23!
คาแรกเตอร์: สามเพื่อนสาววัยทีนเอจ
ลองถ้าวันดีคืนดี เด็กผู้หญิงสามคน ถูกเควิน (เจมส์ แม็กอะวอย) ชายโรคจิตที่มีบุคลิกในตัวเองมากมายถึง 23 แบบ ตั้งแต่ชายหนุ่มธรรมดา, ผู้ร้าย, เด็กชาย 9 ขวบ, สาวรุ่นใหญ่ ไปจนถึงอสูรกาย จับตัวมา …ความจริงเจอแบบนี้ แค่บุคลิกเดียวหนูก็หนีแล้วค่า! แต่นี่พี่เล่นมีถึง 23! ก็ต้องหนีสิคะ รออะไร!
- Jurassic World (2015) – หนีไดโนเสาร์แบบเริ่ดๆ บนส้นสูง!
คาแรกเตอร์: แคลร์ เดียริง (ไบรซ์ ดัลลาส ฮาเวิร์ด)
ความจริงนั่งลุ้นมนุษย์ให้หนีรอดจากไดโนเสาร์ก็สนุก น่าเชียร์ดี แต่ความใหม่ที่แตกต่างของ Jurassic World เรื่องราวภาคต่อของ Jurassic Park ภาคแรก (1993) คือตัวละครหญิงอย่าง ‘แคลร์ เดียริง’ ผู้จัดการ Jurassic World ที่ทุกโมเมนต์การวิ่งหนีไดโนเสาร์ของเธอนั้นโดดเด่น ทรงเสน่ห์ ชวนมองสุดๆ เพราะทั้งลุยป่า ลุยดิน ลุยโคลน ลุยคอนกรีต ทั้งนี้ทั้งนั้น เธอสามารถวิ่งหนีบนรองเท้าส้นสูงได้อย่างน่าปลื้ม
- Ex Machina (2014) – เมื่อ AI สาว ‘หนี’ ออกไปเป็นมนุษย์แบบเนียนๆ
คาแรกเตอร์: เอวา (อลิเซีย วิกันเดอร์)
เธอคือ AI (Artificial Intelligence: ปัญญาประดิษฐ์) ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทสุดอัจฉริยะของนาธาน (ออสการ์ ไอแซก) ด้วยแนวคิดที่ก้าวหน้าสูงสุดในการยกระดับความรู้สึกนึกคิดของ ‘AI’ ให้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด…แต่ก็เป็นเพราะว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้จากมนุษย์ (เพศชาย) ภายในบ้านสุดไฮเทค ที่ความจริงก็คือห้องทดลองกลางป่าลึกนี่แหละ ลงท้าย ‘AI’ อย่างเธอเลยคิดได้ว่าฉันควรหักหลังและทิ้งขว้างผู้ชายพวกนี้ แล้ว ‘หนี’ ออกไปตีเนียนเป็นมนุษย์สาวแสนสวยบนโลกกว้างด้วยตัวเองซะเลยดีกว่า
- It Follows (2014) – ยิ่งหนีก็ยิ่งโดนตาม
คาแรกเตอร์: เจย์ (ไมก้า มอนโร)
ใครมันจะไปคิดล่ะว่าการมีเซ็กซ์กับ ‘ผู้สุดหล่อ’ ในค่ำคืนหนึ่ง จะเปลี่ยนชีวิตสาววัย 19 ของเธอไปแบบไม่คาดคิด หลังจากได้รู้ว่าเซ็กซ์สุดร้อนแรงในคืนนั้น ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับที่จะคอยติดตามไปทุกแห่งหน ทุกเวลา สิ่งเดียวที่รู้คือต้องหนี! และอย่าให้มันจับตัวได้! รู้ว่าหนีอะไรอยู่นี่ยังพอทน แต่การต้องหนีในสิ่งที่ไม่รู้ว่าคืออะไรนี่มันเกินไปจริงๆ
- Sucker Punch (2011) – หนีโลกจริง ไปอยู่ในโลกจินตนาการชั่วขณะ
คาแรกเตอร์: เบบี้ดอล (เอมิลี บราวนิง)
เมื่อโลกจริงพบเจอแต่เรื่องโหดร้าย หลังจากที่ถูกพ่อเลี้ยงใจร้ายส่งไปอยู่ในสถานบําบัดจิต (ที่แท้จริงแล้วหลังฉากไม่ต่างอะไรกับซ่องนางโชว์) สิ่งที่เธอทำได้คือหลับตาเพื่อ ‘หนี’ จากโลกจริงสุดห่วย แล้วโลดแล่น ท้าทาย อยู่กับการต่อสู้สุดแฟนตาซีในจินตนาการ และหวังว่าช่วงเวลาแย่ๆ นั้นจะผ่านไปให้เร็วที่สุด
บนโลกภาพยนตร์ หลายต่อหลายครั้ง ถึงแม้ว่าตัวละครจะหนีอะไร หรือเลือกหนีในแบบไหน สุดท้ายแล้ว ‘ตัวละคร’ มักจะพบว่า ‘หนี’ ไปไม่ได้ช่วยอะไร แต่การหยุดยืนเพื่อเผชิญหน้าและท้าทายกับ ‘ความจริง’ ต่างหากที่เป็นสิ่งสวยงามและสร้างแรงบันดาลใจกับผู้คน ซึ่งแน่นอน เราเชื่อว่าบนโลกความจริงก็เป็นอย่างนั้นด้วยเช่นกัน
ภาพประกอบ: พัชชา พูนพิริยะ