736 คือจำนวนนักฟุตบอลที่จะลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายนนี้แล้ว
และท่ามกลางนักเตะเหล่านี้ มีเหล่าซูเปอร์สตาร์ในระดับสูงสุดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาเหล่านี้มีความสามารถที่จะกำหนดผลการแข่งขันชี้เป็นชี้ตาย หรือสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในระหว่างเกมการแข่งขันได้ด้วยการเล่นเพียงครั้งเดียว
THE STANDARD เลือกนักเตะในกลุ่มนี้มา 10 คน พร้อมเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงเป็นคนสำคัญ
เควิน เดอ บรอยน์
อายุ: 26 ปี
ทีมชาติ: เบลเยียม
ผลงานกับทีมชาติ: 61 นัด/14 ประตู
สโมสร: แมนเชสเตอร์ ซิตี้
หนึ่งในกองกลางตัวทำเกมที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดของยุโรป เควิน เดอ บรอยน์ คือความภาคภูมิใจและเป็นความหวังของชาวเบลเยียมไม่แพ้เอเดน อาซาร์ เลยแม้แต่น้อย
ด้วยจุดเด่นของความสามารถในการคอนโทรลเกม การผ่านบอลที่แม่นยำ โดยเฉพาะการเปิดตัดแนวรับด้วยลูกครอสเรียด และทีเด็ดจากลูกยิงไกลในระยะทำการตั้งแต่ 25 หลาขึ้นไป ทำให้เดอ บรอยน์ เป็นตัวอันตรายสำหรับทุกทีมที่ต้องเจอกับเบลเยียมไปโดยปริยาย
และจากผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมาที่พาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าดับเบิลแชมป์ได้ แต่ไม่ได้รางวัลส่วนตัวมาประดับ ทำให้เดอ บรอยน์ ต้องการที่จะใช้ฟุตบอลโลกเป็นเวทีพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักฟุตบอลที่เก่งเข้าขั้นระดับเวิลด์คลาสอย่างแท้จริง
อันเดรส อิเนียสตา
อายุ: 34 ปี
ทีมชาติ: สเปน
ผลงานกับทีมชาติ: 128 นัด/ 13 ประตู
สโมสร: วิสเซล โกเบ
กองกลางผู้อยู่ในใจของแฟนบอลนิรันดร์ ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายที่ อันเดรส อิเนียสตา จะลงวาดลวดลายในเวทีระดับสูงสุดให้เราได้ดูกัน
ถึงแม้ว่าวัยจะล่วงเลยมาถึง 34 ปี แต่ด้วยระดับฝีเท้าที่สูงส่ง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการคอนโทรลลูกบอลที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง ไหวพริบในการเล่น การผ่านบอลที่เฉียบขาด และความสามารถในการสร้างสิ่งพิเศษได้เหมือนกับที่เคยเป็นฮีโร่ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2010 ทำประตูชัยให้สเปนพิชิตเนเธอร์แลนด์ คว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้ ทำให้อิเนียสตาคือความหวังของสเปน
รวมถึงความมุ่งมั่นส่วนตัวที่อิเนียสตาอยากจะ ‘ไว้ลาย’ ให้โลกจดจำในรายการสุดท้าย เหมือนกับที่ซีเนดีน ซีดาน เคยทำไว้ในฟุตบอลโลก 2006 ที่สามารถระเบิดฟอร์มพาฝรั่งเศสเข้าชิงชนะเลิศได้ในปีนั้น ซึ่งจะทำได้เหมือนกันหรือดีกว่าด้วยการพาสเปนเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ได้หรือไม่ ต้องติดตาม
แฮร์รี เคน
อายุ: 24 ปี
ทีมชาติ: อังกฤษ
ผลงานกับทีมชาติ: 24 นัด/ 13 ประตู
สโมสร: ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
ถึงแม้จะโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักในช่วงก่อนหน้านี้จากกรณี ‘เคลม’ ประตูที่น่ากังขา แต่ด้วยคุณภาพของ แฮร์รี เคน ทำให้เขายังเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์ที่ต้องจับตามองในฟุตบอลโลกครั้งนี้
เคน ในวัย 24 ปี คือความหวังสูงสุดของทีม ‘สิงโตคำราม’ อังกฤษ ในฟุตบอลโลกหนนี้ ด้วยความสามารถของผู้เล่นตำแหน่งสไตรเกอร์ หรือดาวยิงที่รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพักบอลในแดนหน้า การสอดประสานกับเพื่อน การหาพื้นที่ว่างและตำแหน่ง และทีเด็ดที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือการจบสกอร์ที่คมกริบเหมือนใบมีด สามารถทำประตูได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะยิงใกล้ ยิงไกล โหม่ง หรือเข้าฮอส
อังกฤษอาจจะไม่ได้เป็นตัวเก็งเต็งหนึ่งในปีนี้ แต่เคนคือคนที่เป็นความหวังของทุกคนได้โดยไม่ต้องใช้โอกาสอะไรมากมาย
โมฮัมเหม็ด ซาลาห์
อายุ: 25 ปี
ทีมชาติ: อียิปต์
ผลงานกับทีมชาติ: 57 นัด/33 ประตู
สโมสร: ลิเวอร์พูล
นักฟุตบอลผู้เป็นศูนย์รวมใจของชาวอียิปต์ทั้งชาติ โม ซาลาห์ คือผู้ทำประตูสำคัญด้วยการยิงจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้อียิปต์เอาชนะคองโกได้ 2-1 และคว้าสิทธิ์มาร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี
ตลอดปีที่ผ่านมา ซาลาห์คือนักฟุตบอลที่ร้อนแรงที่สุด กวาดรางวัลมาแล้วแทบทุกสถาบัน และถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ใกล้เคียงกับลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด มากที่สุดในเวลานี้ ซึ่งแม้ว่าจะเล่นให้กับทีมเล็กๆ อย่างอียิปต์ และยังมีอาการบาดเจ็บติดพันจากเกมนัดชิงยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
แต่หากจะมีใครสักคนที่สร้างปาฏิหาริย์ในสนามให้อียิปต์ได้ ต้องเป็นซาลาห์คนเดียวเท่านั้น
อองตวน กรีซมันน์
อายุ: 27 ปี
ทีมชาติ: ฝรั่งเศส
ผลงานกับทีมชาติ: 53 นัด/20 ประตู
สโมสร: แอตเลติโก มาดริด
อกหักมาในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2016 และผิดหวังมาตลอดกับแอตเลติโก มาดริด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อองตวน กรีซมันน์ คือหนึ่งในสตาร์ที่น่าจับตามองมากที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเต็งของการแข่งขันประจำปีนี้
กรีซมันน์อาจจะมีรูปร่างที่ไม่สูงใหญ่ แต่มีความแข็งแกร่ง มีความเร็วจัดจ้าน ทักษะการเล่นเป็นเลิศ และมีความเป็น Fox-in-the-box หรือมีจมูกที่ไวต่อการล่าประตูเป็นพิเศษ และที่สตาร์แห่งทีมแอตเลติโก มาดริด มีมากขึ้นตามวัยคือประสบการณ์การเล่นที่จะมีความสำคัญต่อการเล่นในรายการใหญ่แบบฟุตบอลโลก
ฝรั่งเศสจะได้แชมป์โลกสมัยที่ 2 หรือไม่ อยู่ที่ดาวยิงเจ้าของลีลาฉลองประตูสุดยียวนคนนี้
มานูเอล นอยเออร์
อายุ: 32 ปี
ทีมชาติ: เยอรมนี
ผลงานกับทีมชาติ: 75 นัด
สโมสร: บาเยิร์น มิวนิก
ผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดในโลกในยุคนี้ และเป็นกำลังสำคัญในการพาทีม ‘อินทรีเหล็ก’ ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกที่บราซิลได้เมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ‘Sweeper-Keeper’
เพียงแต่มาครั้งนี้ มานูเอล นอยเออร์ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนักตลอดทั้งปี และเพิ่งจะเรียกสภาพความฟิตกลับมาได้ก่อนหน้าฟุตบอลโลกไม่นาน ซึ่งแม้ว่าโยอาคิม เลิฟ จะมั่นใจในตัวประตูมือหนึ่งเช่นเคย แต่นอยเออร์ยังจำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังคงเป็นเทพผู้พิทักษ์ของเยอรมนีเหมือนเดิม
ถ้าทำได้ เยอรมนีก็มีโอกาสป้องกันแชมป์และเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5
ฮาเมส โรดริเกวซ
อายุ: 26 ปี
ทีมชาติ: โคลอมเบีย
ผลงานกับทีมชาติ: 65 นัด/21 ประตู
สโมสร: บาเยิร์น มิวนิก
หนึ่งในสตาร์ของฟุตบอลโลก 2014 เพลย์เมกเกอร์สไตล์คลาสสิกที่มาพร้อมกับเท้าซ้ายฟ้าสั่ง สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ ฮาเมส โรดริเกวซ เติบโตจากการเป็นดาวรุ่งเมื่อ 4 ปีก่อน กลายเป็นกองกลางเพลย์เมกเกอร์ระดับเวิลด์คลาสอีกคนของวงการฟุตบอล
แม้ว่าจะเผชิญกับความยากลำบากในทีมเรอัล มาดริด แต่เมื่อได้โอกาสมาชุบตัวกับบาเยิร์น มิวนิก ในฤดูกาลที่ผ่านมา ฮาเมสสามารถเรียกฟอร์มการเล่นเก่าๆ กลับมาได้ทันเวลา และกลายเป็นหนึ่งในกลจักรสำคัญของทีม ‘เสือใต้’ ด้วย
ด้วยฟอร์มที่กลับคืนมา ทำให้มิดฟิลด์หน้าหยกเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของโคลอมเบีย ทีมที่มีโอกาสเป็น ‘ม้ามืด’ ของฟุตบอลโลกในครั้งนี้
เนย์มาร์
อายุ: 26 ปี
ทีมชาติ: บราซิล
ผลงานกับทีมชาติ: 84 นัด/54 ประตู
สโมสร: ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
เจ้าชายลูกหนังของชาวบราซิลผู้อกหักและหักอกแฟนฟุตบอลทั้งชาติที่เฝ้ารอโอกาสในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกบนแผ่นดินของตัวเอง เมื่อโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักจนลงช่วยทีมไม่ไหว มาในครั้งนี้เนย์มาร์ก็มีอาการบาดเจ็บหนักในช่วงก่อนฟุตบอลโลกอีก แต่สามารถกลับมาเรียกความฟิตได้ทันเวลา และอยู่ในฟอร์มที่ถือว่าใกล้เคียงกับฟอร์มที่ดีที่สุด
ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือโอกาสดีที่สุดที่เนย์มาร์จะได้ก้าวจากเจ้าชายสู่สถานะ ‘ราชัน’ เหมือนโรนัลโด, โรมาริโอ, การ์รินชา และเหนืออื่นใดคือการเข้าใกล้สถานะของเปเล่ ราชาลูกหนังตลอดกาล รวมถึงนี่เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะได้ก้าวพ้นเงาของลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด
หากพาทีมคว้าแชมป์โลกได้ ย่อมหมายถึงการที่เนย์มาร์จะได้ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกคนใหม่อย่างเป็นทางการ
คริสเตียโน โรนัลโด
อายุ: 33 ปี
ทีมชาติ: โปรตุเกส
ผลงานกับทีมชาติ: 150 นัด/81 ประตู
สโมสร: เรอัล มาดริด
หนึ่งในสองสุดยอดนักเตะแห่งยุคผู้เป็นอมตะอยู่เหนือกาลเวลามานานกว่า 10 ปี แต่ คริสเตียโน โรนัลโด ไม่เคยพาทีมไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศเหมือนในฟุตบอลโลกปี 2006 อีกเลย โดยครั้งก่อนหน้าที่บราซิล โปรตุเกสก็ทำได้เพียงตกรอบแรกเท่านั้น
แต่จากความสำเร็จที่มหัศจรรย์ เมื่อโปรตุเกสสร้างเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส ทำให้โรนัลโดซึ่งมีอาการบาดเจ็บในนัดชิงชนะเลิศแบบโชคร้ายหวังจะสร้างตำนานของตัวเองต่อกับฟุตบอลโลกครั้งนี้ ซึ่งอาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขา
ฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ CR7 จะใส่เต็มร้อยอย่างแน่นอน
ลิโอเนล เมสซี
อายุ: 30 ปี
ทีมชาติ: อาร์เจนตินา
ผลงานกับทีมชาติ: 124 นัด/64 นัด
สโมสร: บาร์เซโลนา
ในเกียรติประวัติมากมายตลอดชีวิตของ ลิโอเนล เมสซี ราชาลูกหนังยุคนี้ยังขาด ‘มงกุฎ’ ที่จะทำให้เขาได้เป็นราชาอย่างสมบูรณ์แบบ และมงกุฎนั้นคือแชมป์ฟุตบอลโลก รางวัลสุดท้ายที่เมสซีต้องการ
ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือโอกาสสุดท้ายของเมสซี
โอกาสที่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อนแน่นอน