×

หนังสือ 10 เล่มโยงประวัติศาสตร์ที่ ‘ออเจ้า’ เฝ้ารอรื้อฟื้น

02.04.2018
  • LOADING...

ความสำเร็จของละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส อาจจะทำให้คนสนใจประวัติศาสตร์และโหยหาตัวตนของบรรพบุรุษในครั้งอดีต นอกจากอยุธยาจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนรุ่นเก่าใหม่แต่งชุดไทยไปย้อนยุคสร้างบรรยากาศโบราณที่น่าชื่นใจ โลกของวรรณกรรมยังได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ แต่เล่มเก่าน่าอ่านไม่ได้มีเฉพาะ จินดามณี ที่กลายเป็นหนังสือขายดีผิดยุคเท่านั้น THE STANDARD ขอคัดกรอง 10 เล่มที่มีเนื้อหาสาระเหมาะสำหรับให้ผู้อ่านพาตัวเองไปสู่โลกในกาลก่อนแบบมีภูมิ

 

Photo: happybanana-online.com

 

บุพเพสันนิวาส

ผู้เขียน รอมแพง

สำนักพิมพ์ แฮปปี้ บานานา

ราคา 285 บาท

 

บุพเพสันนิวาส นิยายแนวโรแมนติกคอเมดี้ย้อนยุคของ รอมแพง หรือ อุ้ย-จันทร์ยวีร์ สมปรีดา ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2553 และเคยได้รับรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดในปีเดียวกัน กลายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมรักความเป็นไทยในอดีตกาลอีกครั้ง เมื่อนิยายเล่มนี้กลายเป็นละครทางช่อง 3 และแน่นอนว่าหนอนหนังสือส่วนใหญ่น่าจะซื้อหาติดประจำบ้านกันก่อนงานหนังสือครั้งนี้แล้ว เพราะตีพิมพ์ไปแล้วถึง 73 ครั้ง

 

นิยายเล่มนี้ถือเป็นเรื่องแรกที่รอมแพงเลือกเขียนประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยใช้เวลาหาข้อมูลประวัติศาสตร์จากหอสมุดแห่งชาติและหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยศิลปากร นานกว่า 3 ปี จากนั้นคัดเลือกตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มาร้อยเรียงเข้ากับพล็อตที่วางไว้ และใช้เวลาเขียนเพียงเดือนเดียว ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของรอมแพงคือหวังว่าจะช่วยต่อยอดให้ผู้อ่านเกิดความสนใจใคร่รู้ในประวัติศาสตร์และไปค้นหาข้อมูลกันต่อมากขึ้น และเป้าหมายของเธอก็ประสบความสำเร็จแล้ว เมื่องานหนังสือครั้งนี้ หนังสือประวัติศาสตร์หลายเล่มเป็นหนึ่งในหมุดหมายของผู้อ่านจำนวนมากไปแล้ว  

 

Photo: ฐานิส สุดโต

 

จินดามณี เล่ม ๑ และจินดามณี ฉบับใหญ่ บริบูรณ์

ผู้เขียน พระโหราธิบดี และสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

สำนักพิมพ์ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร

ราคา 270 บาท

 

แบบเรียนภาษาไทยเล่มแรกที่แต่งขึ้นในสมัยอยุธยา (และอีกหนึ่งเล่มในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์) ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ผู้ศึกษาได้ศึกษาลักษณะของหนังสือเรียนไทยในอดีต เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ของงานหนังสือครั้งนี้ที่สามารถจำหน่ายได้หมดภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งหากใครไปซื้อไม่ทันอาจต้องลองไปหาอ่านตามหอสมุดไปก่อน

 

นอกจากสองฉบับที่ว่า แบบเรียนของไทยในยุคต่อๆ มาหลายเล่มยังคงใช้คำว่า จินดามณี เป็นคำเรียกอีกหลายฉบับ เช่น ฉบับความแปลก, ฉบับพระเจ้าบรมโกศ, ฉบับกรมหลวงวงษาธิราชสนิท, ฉบับพิมพ์ของหมอสมิท และฉบับพิมพ์ของหมอบรัดเล

 

 

ศิลปะอยุธยา: งานช่างหลวงแห่งแผ่นดิน

ผู้เขียน ศ.ดร.สันติ เล็กสุขุม

สำนักพิมพ์เมืองโบราณ

ราคา 300 บาท

 

หากละครเรื่องดังทำให้คนไทยหันมาแต่งชุดไทยเที่ยวโบราณสถานสำคัญในอยุธยาตามท้องเรื่องในนิยายได้ จะดีแค่ไหนถ้าแต่ละคนไปแบบมีองค์ความรู้อยู่ในหัว ศ.ดร.สันติ เล็กสุขุม เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี มีความรอบรู้เรื่องศิลปะอยุธยาแบบที่จะทำให้การเที่ยวชมวัดวังและโบราณสถานต่างๆ เป็นไปอย่างได้อรรถรส เล่มนี้อธิบายที่มาของศิลปะอยุธยา ก่อนจะสาธยายแยกย่อย 3 สาขาคือ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม ในยุคต้น ยุคกลาง และยุคปลาย อ่านแล้วเข้าใจภาพรวมของศิลปะสมัยอยุธยาได้ในเล่มเดียว

 

Photo: www.nanmeebooks.com

 

ฟอลคอนแห่งอยุธยา

ผู้เขียน แคลร์ คีฟ-ฟอกซ์

ผู้แปล กล้วยไม้ แก้วสนธิ

สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์

ราคา 375 บาท  

 

คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือพระยาวิไชเยนทร์ มีบทบาทสำคัญในเรื่องการเมืองการปกครองในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอย่างไร แฟนละครคงได้รับทราบกันพอสมควร แต่หากเราเชื่อว่าประวัติศาสตร์ย่อมมีหลายด้านหลากมุมมอง ลองมาพิจารณาตัวตนอีกแง่หนึ่งของบุรุษลูกผสมที่ร่อนเร่ไปกับเรือสินค้า ผ่านอาชีพเสมียนสู่การเป็นพ่อค้า และลงเอยด้วยการเป็นขุนนางคนโปรด ถวายรับใช้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชอย่างใกล้ชิด ทั้งหมดนี้มีผลประโยชน์ของอยุธยาหรือของตนเองเป็นที่ตั้ง นวนิยายชีวิตของเจ้าพระยาวิไชเยนทร์จากปลายปากกาของผู้แต่งชาวฝรั่งเศสอาจจะมีคำตอบซ่อนอยู่

 

Photo: www.se-ed.com

 

รุกสยามในนามพระเจ้า

ผู้เขียน มอร์แกน สปอร์เตส

ผู้แปล กรรณิกา จรรย์แสง

สำนักพิมพ์มติชน

ราคา 450 บาท

 

นวนิยายประวัติศาสตร์สะท้อนภาพการเมืองในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่สมณทูตจากดินแดนตะวันตกเดินทางมาดินแดนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมสารพัดวิธีที่หวังจะได้สยามเป็นอาณานิคม พร้อมตัวละครชื่อดังมากมายจาก บุพเพสันนิวาส ทั้งคอนสแตนติน ฟอลคอน, ท้าวทองกีบม้า, พระยาโกษาธิบดี (ปาน), ราชทูต เดอ ลาลูแบร์, บาทหลวงกีย์ ตาชาร์ด และสมเด็จพระเพทราชา ต่างห้ำหั่นกันในสมรภูมินี้

 

 Photo: www.kledthai.com

 

พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐ, คำให้การชาวกรุงเก่า, คำให้การขุนหลวงหาวัด

ผู้เขียน –

สำนักพิมพ์ศรีปัญญา

ราคา 625 บาท

 

พระราชพงศาวดารไม่ใช่หนังสืออ่านเล่นทั่วไป แต่ควรพูดถึงหากต้องการศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยาอย่างเจาะลึก เพราะแม้แต่รอมแพงเองก็ได้ใช้เพื่อศึกษาในการเขียนเรื่องราวในสมัยอยุธยาด้วย เนื้อหาพระราชพงศาวดารได้รวมหลายฉบับเข้าด้วยกันคือ


พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ถือเป็นหนังสือรวบรวมเอกสารประวัติศาสตร์หลักเล่มหนึ่ง ต้นฉบับเดิมเป็นสมุดไทย เขียนขึ้นในสมัยกรุงธนบุรีและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีเนื้อหาตั้งแต่การสถาปนากรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยามาจนกระทั่งสมัยกรุงแตก สิ้นสมัยอยุธยา รวมเวลาหลายร้อยปี


พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหลวงประเสริฐ เป็นเอกสารร่วมสมัยที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งถือว่ามีการบันทึกศักราชไว้ถูกต้องแม่นยำที่สุด จึงมักจะนำไปใช้เป็นฉบับสอบเทียบกับฉบับอื่นๆ


คำให้การชาวกรุงเก่า และคำให้การขุนหลวงหาวัด คือบันทึกคำบอกเล่าเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาโดยผู้คนในสมัยอยุธยา เป็นเอกสารสำคัญในการศึกษาเรื่องราวสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

 

Photo: readery.co

 

ผู้หญิงอยุธยา  

ผู้เขียน บินหลา สันกาลาคีรี

สำนักพิมพ์ The Writer’s Secret

ราคา 310 บาท


เวลาเราพูดถึงประวัติศาสตร์ เรามักจะมองจากราชสำนัก กษัตริย์ ขุนนาง พ่อค้า ศิลปวัฒนธรรม หรือสงคราม กล่าวให้ชัดคือเป็นเรื่องราวของผู้ชายโดยส่วนใหญ่ แต่การมองผ่านเรื่องราวของผู้หญิงจะทำให้ได้เห็นมุมมองประวัติศาสตร์อีกมิติหนึ่ง ซึ่งบินหลา สันกาลาคีรี ได้รวบรวมจากเอกสารและหลักฐานในสมัยกรุงศรีอยุธยาเพื่อบันทึกเรื่องราวของผู้หญิงที่ไม่ใช่มีเพียงแค่คนดังอย่างท้าวทองกีบม้า, พระสุริโยทัย, ท้าวศรีสุดาจันทร์, พระสุพรรณกัลยา แต่เป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยได้พูดถึงหรือถูกมองข้ามไป เช่น เรื่องราวของอีเกิด อำแดงอุ่น ยายสา นางหินลอย เรื่องของสตรีชาวต่างชาติอย่างพระนางสร้อยดอกหมาก (จีน) หรือแม้แต่เรื่องของพระชายาในสมเด็จพระนเรศวรที่ไม่ปรากฏในพงศาวดารไทย แต่ไปปรากฏในพงศาวดารพม่าอย่างเจ้าหญิงมังตรานะมะโค เป็นเล่มที่อ่านสนุกมากเล่มหนึ่ง

 

Photo: www.kledthai.com

 

จดหมายเหตุลา ลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม

ผู้เขียน มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์

ผู้แปล สันต์ ท. โกมลบุตร

สำนักพิมพ์ศรีปัญญา

ราคา 600 บาท

 

บันทึกประวัติศาสตร์ด้วยสายตาของชาวต่างชาติที่มองสยาม เป็นมุมมองทางประวัติศาสตร์อีกด้านหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าบ้านเมืองเรากับบ้านเมืองเขามันต่างกันอย่างไร และบันทึกที่เขียนโดยคนไทยส่วนใหญ่ส่วนมากก็ถูกทำลายไปตอนเสียกรุง บันทึกของ มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ จึงเป็นเอกสารชั้นต้นในการทำความเข้าใจคนกรุงเก่าได้ดีที่สุดเล่มหนึ่ง


มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ คือเอกอัครราชทูตจากชาติฝรั่งเศส ซึ่งเขียนขึ้นในปี 2331 ได้บันทึกสภาพสังคมของกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างครอบคลุมและมีเนื้อหาเยอะที่สุดเล่มหนึ่ง แบ่งได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ ส่วนแรกเล่าถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ ผลผลิตของชาวสยาม ส่วนที่สองคือขนบธรรมเนียม การศึกษา การแต่งกาย การละเล่น บุคลิกนิสัยของชาวสยาม และส่วนที่สามคือระบบธรรมเนียมและจารีตในราชสำนัก การต่างประเทศ และการเผยแผ่ศาสนาของชาวตะวันตก

 

Photo: www.tlcthai.com

 

ท้าวทองกีบม้า

ผู้เขียน คึกเดช กันตามระ

สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ราคา –

 

เรื่องราวของท้าวทองกีบม้า หรือมารีอา กูโยมาร์ เด ปิญญา ภรรยาลูกครึ่งโปรตุเกส-ญี่ปุ่น ของคอนสแตนติน ฟอลคอน อยู่ในช่วงราวปี 2225-2229 มีความน่าสนใจตรงที่เธอมีความสามารถในการทำอาหารถึงขั้นเป็นเจ้าตำรับการทำขนมไทย มีบุคลิกหน้าตาดี และยังเก่งในเรื่องภาษา แต่ชีวิตกลับต้องพลิกผันเพราะการกระทำของสามี


ท้าวทองกีบม้ามีชีวิตยืนยาวถึง 4 รัชกาล คือสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระเพทราชา สมเด็จพระเจ้าเสือ และสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ จึงได้มีผู้เขียนเป็นนิยายประวัติศาสตร์เอาไว้ หากก็เป็นหนังสือเก่ามากแล้ว ผู้อ่านอาจจะต้องไปตามหาในร้านหนังสือเก่าหรือหอสมุด นอกจากนี้ยังมีหนังสืออีกเล่มที่พูดถึงท้าวทองกีบม้าเช่นกัน คือ การเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” ของสำนักพิมพ์มติชน ซึ่งจำหน่ายในรูปแบบไฟล์ PDF

 

 

ฟอลคอน

ผู้เขียน วิลเลียม ดัลตัน

ผู้แปล เสฐียรโกเศศ

สำนักพิมพ์ศยาม

ราคา 295 บาท  

คอนสแตนติน ฟอลคอน จากเกาะเซฟาโลเนีย ชาวกรีกที่มุ่งมั่นจะก้าวไปสู่จุดสูงสุด ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง เขาตัดสินใจออกเผชิญภัยในโลกกว้างและเดินทางมาสู่ประเทศสยามสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ ชายหนุ่มใช้สติปัญญาและความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมดจนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ แต่ความทะเยอทะยานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดทำให้เขาร่วมมือกับนายพล เดส์ฟาร์จ ชาวฝรั่งเศส ให้นำกองทหารฝรั่งเศสเข้ามาบุกยึดประเทศสยาม ทว่าไม่ทันสำเร็จดี พระเพทราชาและออกหลวงสรศักดิ์ (ต่อมาคือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ) ก่อกบฏและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ เป็นการปิดฉากชีวิตในสยามของคอนสแตนติน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising