คน Gen Z กำลังถูกจับตามองในฐานะ Snowflake Generation หรือคนรุ่นที่เปราะบาง อ่อนไหว และรับมือกับความท้าทายในชีวิตได้ยาก พวกเขามักถูกมองว่าไม่สามารถทนต่อคำพูดหรือความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับตัวเอง ไม่ชอบการถูกวิพากษ์วิจารณ์ และขาดความมุ่งมั่นในการทำงาน ซึ่งภาพลักษณ์นี้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการเติบโตในสายอาชีพของคนรุ่นใหม่
จากผลสำรวจของ Intelligent.com ในเดือนสิงหาคม 2024 พบว่า 75% ของบริษัทในสหรัฐฯ รายงานว่าบัณฑิตที่เพิ่งจบการศึกษาบางส่วนหรือทั้งหมดที่พวกเขาจ้างมาในปีนี้ไม่น่าพอใจ และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ 6 ใน 10 บริษัทต้องเลิกจ้างบัณฑิตจบใหม่ภายใน 1 ปี
สถานการณ์นี้ส่งผลให้ 1 ใน 6 ของผู้จัดการฝ่ายรับสมัครงานเกิดความลังเลที่จะจ้างคนจากกลุ่มนี้ และ 1 ใน 7 บริษัทอาจพิจารณางดจ้างบัณฑิตที่เพิ่งจบการศึกษาในปีหน้า
สาเหตุหลักๆ ของปัญหานี้คือ ผู้จัดการฝ่ายรับสมัครงานพบว่าบัณฑิตที่เพิ่งจบการศึกษาไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการทำงาน ไม่สามารถรับมือกับปริมาณงาน และขาดความเป็นมืออาชีพ
นอกจากนี้ พนักงานรุ่นใหม่ยังมักไม่เต็มใจทำงานเต็มเวลา ต้องการเริ่มงานสาย และมีทักษะการสื่อสารที่ไม่ดีพอ ปัญหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างการศึกษาและความต้องการของตลาดแรงงานอย่างชัดเจน
ทัศนคติของคน Gen Z ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความไม่พอใจของนายจ้าง พวกเขามักมองว่าตัวเองมีสิทธิ์ได้รับสิ่งต่างๆ ง่ายๆ ขาดความอดทนต่อความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ตอบสนองต่อคำติชมอย่างเหมาะสม
อีกทั้งยังมีความวิตกกังวลในการสัมภาษณ์งาน เช่น กลัวการคุยโทรศัพท์กับนายจ้าง หรือถึงขั้นพาพ่อแม่ไปด้วยเพื่อเป็นกำลังใจในการสัมภาษณ์ ซึ่งสะท้อนถึงการขาดความเป็นผู้ใหญ่และความเป็นมืออาชีพ
ปัญหาเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิธีการเลี้ยงดูและการศึกษาที่ทำให้คน Gen Z ขาดความยืดหยุ่นและความรับผิดชอบ พวกเขาเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเกินไป ไม่ได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความล้มเหลว และถูกเลี้ยงดูมาแบบ ‘ทุกคนชนะ’ ทำให้พวกเขาขาดทักษะในการจัดการกับความผิดหวังและความพ่ายแพ้
คน Gen Z มักถูกจำกัดให้อยู่แต่ในบ้านหรือโรงเรียน ไม่ได้มีโอกาสได้เผชิญโลกกว้างและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ทำให้พวกเขาขาดทักษะในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ
การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งตัวบัณฑิตเอง สถาบันการศึกษา และนายจ้าง สำหรับคน Gen Z ควรพัฒนา Soft Skills โดยเฉพาะทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหา และการคิดวิเคราะห์ รวมถึงปรับทัศนคติให้มองโลกในแง่บวก เปิดรับความคิดเห็น และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
พวกเขาควรสร้างความยืดหยุ่นโดยฝึกฝนตนเองให้สามารถรับมือกับความกดดันและความล้มเหลวได้ และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีด้วยการฝึกการสื่อสารแบบตัวต่อตัว และใช้เวลาในโลกความเป็นจริงมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ควรปรับตัวเพื่อรองรับคนรุ่นใหม่เช่นกัน โดยปรับปรุงกระบวนการสรรหาให้เน้นการประเมินศักยภาพและทัศนคติของผู้สมัคร มากกว่าประสบการณ์การทำงาน จัดโปรแกรมปฐมนิเทศที่ให้ข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร ความคาดหวัง และวิธีการทำงาน
ควรจัดหาพี่เลี้ยงเพื่อให้คำแนะนำและการสนับสนุนแก่พนักงาน Gen Z และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเรียนรู้ สนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พัฒนาทักษะ และเติบโตในหน้าที่การงาน
ที่น่าสนใจคือ 9 ใน 10 ของผู้จัดการฝ่ายรับสมัครงานเห็นว่าบัณฑิตที่เพิ่งจบการศึกษาควรได้รับการอบรมมารยาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะทางสังคมและการวางตัวอย่างเหมาะสมในที่ทำงาน สถาบันการศึกษาอาจต้องพิจารณาเพิ่มหลักสูตรหรือกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะเหล่านี้ให้กับนักศึกษาก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน
ท้ายที่สุดแล้ว การเข้าใจและยอมรับความแตกต่างระหว่างรุ่นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าคน Gen Z อาจมีคุณลักษณะบางอย่างที่ท้าทายต่อรูปแบบการทำงานแบบดั้งเดิม แต่พวกเขาก็นำมาซึ่งมุมมองใหม่ๆ ทักษะด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย และความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถเป็นประโยชน์อย่างมากต่อองค์กร
การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาทักษะที่จำเป็นของคน Gen Z และการปรับตัวขององค์กรเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของคนรุ่นใหม่ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ก้าวหน้าและยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง:
- https://nypost.com/2024/10/03/lifestyle/gen-z-cant-cope-with-life-blame-lazy-gen-x-parenting/
- https://www.news.com.au/finance/work/careers/difficult-trend-getting-gen-zers-fired/news-story/7823f2d96ae3734dae9a49d8080fa2e1
- https://www.intelligent.com/1-in-6-companies-are-hesitant-to-hire-recent-college-graduates/