ผู้บริหาร บมจ. เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2563 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2563 เนื่องจากพบว่า ลูกค้ากลับมาใช้บริการนั่งรับประทานในร้านอาหารมากขึ้นราว 80-85% สะท้อนว่า ภาพรวมธุรกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 2 ปี 2563 นอกจากนี้ธุรกิจร้านอาหารยังได้อานิสงส์จากมาตรการช้อปดีมีคืน
โดยผู้บริหารคาดว่า ในปีนี้บริษัทจะสามารถทำยอดขายในปีนี้ได้ 2.3-2.5 พันล้านบาท และในปี 2564 คาดไว้ที่ระดับ 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 40% จากปี 2563
นอกจากนี้บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรให้ดีขึ้น รวมถึงเดินหน้าขยายสาขาร้านอาหารทุกแบรนด์เป็น 340 สาขาภายในปีนี้
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น ZEN ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น 18.2%WoW สู่ระดับ 13.00 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 2.5%WoW สู่ระดับ 1,369.42 จุด (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2563 ของ ZEN โดยหลักๆ จะได้ปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและมีวันหยุดพิเศษ รวมถึงมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง
โดยในช่วงที่ผ่านมา ZEN ได้มีการปรับโครงสร้างสัดส่วนพนักงาน Part-Time เพิ่มขึ้นเป็น 30% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด จากเดิมที่ระดับ 10% นอกจากนี้การควบคุมค่าเช่าให้ต่ำลง 15-10% จะช่วยให้จุดคุ้มทุนของระดับกำไรสุทธิต่ำลงจากเดิมที่ต้องมีรายได้ประมาณ 250-300 ล้านบาทต่อเดือน เหลือเพียง 200 ล้านบาทต่อเดือน
มุมมองระยะยาว:
ในปี 2564 ZEN ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 100-130 แห่ง โดยหลักๆ จะขยายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์เขียงประมาณ 75 สาขา ด้วยการขยายสาขาที่มุ่งเน้นในร้านแฟรนไชส์ ทำให้ ZEN ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2564 ที่ 10% ซึ่ง SCBS มองว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์จะส่งผลดีต่อทิศทางกำไร เนื่องจากร้านแฟรนไชส์มีอัตรากำไรที่สูงกว่าปกติ
สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และการเปลี่ยนแปลงความชื่นชอบของผู้บริโภค
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล