แม้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมตลอดทั้งปี 2562 ที่ผ่านมา ไม่สู้ดีนัก แต่สำหรับบริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจดังกล่าวไม่มากอย่างที่คิด โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,144.2 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 6% (รายรับรวม 2561: 2,964.7 ล้านบาท)
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ZEN มีรายรับรวมเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการขยายสาขาใหม่รวม 100 สาขา ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินธุรกิจ (แบ่งเป็นสาขาที่เป็นเจ้าของเอง 71 แห่ง และแฟรนไชส์ซึ่งรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ 29 แห่ง) ในจำนวนนี้เป็นจำนวนสาขาของ ‘เขียง’ ร้านอาหารในเครือรวม 48 แห่ง
นอกจากนี้อีกปัจจัยบวกของ ZEN ยังมาจากการที่ยอดขายเดลิเวอรีของบริษัทเติบโตมากขึ้นถึง 8 เท่า สอดรับกับเทรนด์สั่งอาหารทางออนไลน์ที่เติบโตขึ้น โดยมียอดขายเดลิเวอรีในปีที่ผ่านมา 102 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 685% นอกจากนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารค้าปลีก เช่น น้ำปลาร้าปรุงรส, แจ่วบอง (น้ำพริกปลาร้า) ก็มียอดขายเติบโตเช่นกัน
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารค้าปลีกยังคงขยายตัวได้ดี โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของบริษัทมากกว่า 96.3% มาจากการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ตามมาด้วยรายได้จากการให้สิทธิ์แฟรนไชส์ และรายได้อื่นๆ อีก 2.4% และ 1.3% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2562 กลับลดลงถึง 24% จากปีก่อน โดยอยู่ที่ 106.2 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดขึ้น 2 รายการ คือ การกลับรายการประมาณการหนี้สินจากการรื้อถอนในปี 2561 และการตั้งสำรองผลขาดทุนจากการปิด 2 สาขา ในปี 2562 จะทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิลดลง 7%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิของ ZEN ลดลง เป็นผลมาจากอัตราการเติบโตของรายได้ธุรกิจร้านอาหารของสาขาเดิม (SSSG) ที่ติดลบจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงได้รับผลกระทบจากสภาวะตลาดและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมร้านอาหารญี่ปุ่น
โดยในปี 2563 นี้ ZEN ยังคงชูโมเดลการขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มเติม เพื่อช่วยลดงบลงทุน พร้อมวางแผนพัฒนาระบบไอทีและเพิ่มศักยภาพในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยวางงบลงทุนรวมเหลือ 200 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 100 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นวางแผนขยายร้านอาหารตามสั่งแบรนด์ ‘เขียง’ ผ่านโมเดลแฟรนไชส์ผ่านการจับมือกับพาร์ตเนอร์ในภูมิภาค (Regional Partner) มากกว่าการลงทุนขยายสาขาเอง โดยคาดว่าจะเปิดร้านอาหารภายใต้โมเดลแฟรนไชส์รวม 100-150 สาขา
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล