เว็บไซต์ Global Times ของทางการจีนรายงานว่า บริษัท Suzano SA ซึ่งเป็นผู้ผลิตเยื่อไม้เนื้อแข็งรายใหญ่ที่สุดของโลกในบราซิล อาจยอมรับการใช้สกุลเงินหยวนสำหรับการส่งออกสินค้าของบริษัทไปยังจีน ถือเป็นสัญญาณเพิ่มเติมว่าความเป็นสากลของเงินหยวนได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐกำลังสูญเสียอิทธิพลในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
Walter Schalka ซีอีโอของบริษัทระบุว่า จีนเป็นผู้ซื้อสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 43% ของสินค้าเยื่อกระดาษทั้งหมดของบริษัท โดยแม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงมีอิทธิพลเหนือกว่าเงินหยวน แต่การใช้เงินหยวนในสัญญาซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงแร่นิกเกิลก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นเช่นกัน
บรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่าความเคลื่อนไหวของ Suzano SA มีขึ้นหลังจากที่ทางประธานาธิบดี Luiz Inácio Lula da Silva ของบราซิลได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในจีน ผู้นำบราซิลยังได้สนับสนุนให้กลุ่มประเทศ BRICS ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ใช้เงินสกุลของประเทศตนเองเป็นตัวกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ
ทั้งนี้ ซีอีโอของ Suzano SA กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (9 พฤษภาคม) ว่าสกุลเงินหยวนของจีนเริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น และบรรดารายย่อยต่างเริ่มแสดงความต้องการที่จะทำข้อตกลงซื้อขายกับจีนโดยใช้เงินหยวนเป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างกันโดยตรง
ก่อนหน้านี้ในช่วงวันที่ 12 เมษายน ทาง Industrial and Commercial Bank of China ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ได้ดำเนินการชำระเงินหยวนข้ามพรมแดนครั้งแรกที่สาขาท้องถิ่นในบราซิล ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนอย่างมั่นคง ตลาดการเงินแบบเปิด และการก่อสร้างระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนของเงินหยวนอย่างต่อเนื่อง
Wang Peng นักวิจัยจาก Beijing Academy of Social Sciences กล่าวว่า ประเทศต่างๆ ตลอดจนองค์กรทางเศรษฐกิจ และองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะชำระการค้ากับจีนด้วยเงินหยวนมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ผันผวนตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed)
รายงานระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแนวโน้มของการลดการพึ่งพาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในระบบการเงินระหว่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยสาเหตุหลักมาจากการใช้อำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐในทางที่ผิดของสหรัฐฯ และการใช้สกุลเงินและระบบการชำระเงินเป็นอาวุธอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ความผันผวนของนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ได้ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบอย่างรุนแรงจนกลายเป็นปัญหาหลายประการในหลายประเทศ เช่น ความวุ่นวายในตลาดการเงิน วิกฤตหนี้ที่เลวร้ายลง และอัตราเงินเฟ้อที่รุนแรง
ด้านนักวิเคราะห์มองว่าอิทธิพลและบทบาทของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้นำไปสู่ความต้องการสำหรับสกุลเงินที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ เช่น หยวน ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการทำให้สกุลเงินจีนได้รับการยอมรับในระดับสากล
เมื่อไม่นานมานี้หนังสือพิมพ์ The News International ของปากีสถานรายงานว่า รัฐบาลปากีสถานเตรียมจะทดสอบจ่ายค่าน้ำมันจำนวน 750,000 บาร์เรล ที่จะนำเข้าจากรัสเซียด้วยเงินหยวน ขณะที่ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ธนาคารกลางอิรักประกาศพิจารณาทำการค้ากับจีนในสกุลเงินหยวน ส่วนในเดือนเมษายน รัฐบาลอาร์เจนตินาก็ประกาศว่าจะเริ่มชำระค่าสินค้านำเข้าจากจีนในสกุลเงินหยวนแทนที่จะเป็นดอลลาร์สหรัฐ
ด้านข้อมูลองค์ประกอบสกุลเงินของข้อมูลทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอย่างเป็นทางการ (Currency Composition of Official Foreign Exchange Reserves) ที่เผยแพร่โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงให้เห็นว่า ณ ไตรมาส 4 ปี 2022 เงินหยวนมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 2.7% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 5 ของสกุลเงินสำรองหลัก
ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่า ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องของการทำให้หยวนเป็นสากลจะเอื้อต่อการยกระดับสถานะและเสียงของจีนในด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ และทำให้โลกได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หนุ่มสาวชาวจีนปล่อยวาง ‘เรื่องความสำเร็จ’ ไม่ต้องการงานรายได้สูง หันมาทำงานก๊อกแก๊กเท่าที่หาได้เลี้ยงตัวเองไปวันๆ โดยไม่คิดอะไร
- หนุ่มสาวจีนแห่สอบเข้ารับราชการ หวังพึ่งความมั่นคงหนีพิษเศรษฐกิจ ปีนี้ยอดผู้สมัครสูงถึง 7.7 ล้านคน แต่รับจริง 2 แสนตำแหน่ง
- ท่องเที่ยวโลกน่าห่วง? ผลสำรวจพบ นักเดินทางชาวจีนมากกว่าครึ่งไม่มีแผนออกนอกประเทศปีนี้
อ้างอิง: