×

มัดหัวใจยัยซุปตาร์ พระเอกน่ารักแต่ละครมัดหัวใจไว้ไม่อยู่

08.12.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MIN READ
  • งานนี้ได้ผู้จัดอย่าง ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา จากค่ายเลิฟดราม่า และได้ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ที่ฝากผลงาน ‘เทสต์วัยรุ่น’ ของค่ายนี้อย่าง ตราบาปสีชมพู, ซ่อนเงารัก, และ พราวมุก มาร่วมกำกับ แต่ผลลัพธ์ออกมาผิดคาด เพราะภาพรวมกลับดูไม่ร่วมสมัยเหมือนบทประพันธ์
  • การเลือกฉากและสถานที่ในสไตล์หลุยส์เป็นส่วนใหญ่ก็ไม่น่าจะใช่สไตล์ที่เข้ากับคนดูยุคใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ผู้จัดอยากมัดหัวใจให้อยู่หมัด พอมารวมกับความพยายามใส่ความเป็นการ์ตูนเข้าไป ทั้งในฉากคิดในใจ หรือเล่าจินตนาการผ่านตัวการ์ตูนของตัวละครเพื่อเอาใจวัยรุ่น ทุกอย่างยิ่งไปคนละทิศละทาง
  • การแสดงของกลัฟก็ถือว่ายังคงมีเสน่ห์ตามเส้นเรื่องเท่าที่บทเขียนมาให้ ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายว่าถ้าเพิ่มมิติบางอย่างเข้าไป ก็น่าจะเป็นผลงานเดบิวต์ในฐานะพระเอกของช่อง 3 ที่น่าจดจำ ในส่วนของเจนี่ผู้เขียนคิดว่ายังติดอยู่ในกรอบความเป็นนางเอกแบบเก่ามากเกินไป ซึ่งถ้าหากทลายกำแพงนั้นลงไปได้บทนี้ก็จะทำให้เจนี่ไม่ใช่แค่สวย แต่มีความตลก เปิ่น โก๊ะ สมวัย และกลายเป็น ‘คุณแม่’ ของ ‘ลูกสาว’ ทั้งแท้และไม่แท้ได้เลยทีเดียว

 

มัดหัวใจยัยซุปตาร์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ช่อง 3 หวังจะมาโกยเรตติ้งในช่วงส่งท้ายปลายปี และก็มีแต้มต่ออยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการประเดิมงานละครเรื่องแรกของ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ในฐานะพระเอกช่อง 3, การกลับมาของเจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร รวมทั้งการนำนิยายระดับเบสต์เซลเลอร์ให้มาโลดแล่นบนจอทีวี แถมยังออกอากาศให้ดูกันแบบจุกๆ 5 วันต่อสัปดาห์  

 

ความน่าสนใจของบทประพันธ์เรื่อง มัดหัวใจยัยซุปตาร์ คือการเล่าเรื่องโรแมนติกคอเมดี้ที่มีกลิ่นอายความหลากหลายเรื่องเพศผสมอยู่ ทั้งเรื่องการเหมารวมภาพความเป็นชาย หรือเผยให้เห็นมุมมองของสาว ‘เชอร์รี’ (ผู้หญิงที่ชอบเกย์) ก็ได้เหมือนกัน ว่าด้วยเรื่องของ วา (เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร) ดาราสาวอันดับหนึ่งของเมืองไทยที่อกหักจากรชานนท์ (ป๊อป-ฐากูร การทิพย์) ไฮโซจอมเจ้าชู้ จนคืนหนึ่งเกิดเผลอไผลได้เสียกับ กั๊ต หรือ กั๊ตจัง (กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์) เด็กในบ้านที่ผันตัวเองเป็นช่างแต่งหน้ามือทอง โดยที่เธอคิดเสมอว่ากั๊ตเป็นเกย์ เรื่องราวยิ่งวุ่นวายเข้าไปใหญ่เมื่อวาตั้งท้อง ทำให้กั๊ตที่หลงรักวามาตลอดต้องพิสูจน์ตัวเองว่าแมน 100% และพร้อมจะเป็นพ่อและสามีที่ดีของครอบครัว ในขณะที่รชานนท์ก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้ได้วากลับคืนมา 

 

 

งานนี้ได้ผู้จัดอย่าง ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา จากค่ายเลิฟดราม่า และได้ สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร ที่ฝากผลงาน ‘เทสต์วัยรุ่น’ ของค่ายนี้อย่าง ตราบาปสีชมพู, ซ่อนเงารัก และ พราวมุก มาร่วมกำกับ แต่ผลลัพธ์ออกมาผิดคาด เพราะภาพรวมกลับดูไม่ร่วมสมัยเหมือนบทประพันธ์

 

ถ้ามองในรายละเอียด สิ่งแรกเลยคือเรื่ององค์ประกอบศิลป์ โดยเฉพาะเรื่องฉากที่เต็มไปด้วยลวดลาย แค่เฉพาะในห้องนอนของนางเอก ลวดลายผ้าม่าน ภาพวาดและภาพถ่าย (จำนวนมาก) หรือแม้กระทั่งลายของโซฟา ทุกอย่างดูสับสนวุ่นวายไม่ไปทางเดียวกัน หรือห้องทำงานของนันทพร แม่ของรชานนท์ (จริยา แอนโฟเน่) ก็มีภาพวาดที่ไม่ได้สะท้อนถึงบุคลิกของตัวละคร ยิ่งเมื่อรวมกับเสื้อผ้าของนักแสดงที่เน้นลายของทั้งนันทพรและรชานนท์ ก็ยิ่งทำให้เห็นความไม่ลงตัวเข้าไปใหญ่ หรือการเลือกฉากและสถานที่ในสไตล์หลุยส์เป็นส่วนใหญ่ก็ไม่น่าจะใช่สไตล์ที่เข้ากับคนดูยุคใหม่ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ผู้จัดอยากมัดหัวใจให้อยู่หมัด พอมารวมกับความพยายามใส่ความเป็นการ์ตูนเข้าไป ทั้งในฉากคิดในใจ หรือเล่าจินตนาการผ่านตัวการ์ตูนของตัวละครให้เพื่อเอาใจวัยรุ่น ทุกอย่างยิ่งไปคนละทิศละทาง

 

 

จริงๆ แล้วเรื่องนี้อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้ามันเด่นขึ้นมาจนรู้สึกได้ก็หมายความว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่ช่อง 3 หมายมั่นปั้นคอนเทนต์ส่งขายระดับนานาชาติด้วยแล้ว นี่คือรายละเอียดที่ทีมงานคงต้องทำการบ้านอย่างหนัก 

 

ในส่วนของบทละครที่ดัดแปลงจากนิยายก็เหมือนจะให้น้ำหนักไปทางโรแมนติกมากกว่าคอมเมดี้ อย่างเช่นตัวละคร ‘วา’ ที่มีความ ‘สวยแต่โก๊ะ’ และน่าจะมีความเป็น ‘ตัวแม่’ ได้มากกว่านี้ 

 

 

และเพราะผ่านประสบการณ์ความรักและวงการบันเทิงมาอย่างโชกโชน แต่ในละครกลับเป็นเพียงนางเอกที่ถูกกระทำ อ่อนไหว ไม่ใช่สาวมั่นอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่คาแรกเตอร์ของวาตอนเด็กในละครก็น่าจะไปในทิศทางนั้นได้สบายๆ พอสารตั้งต้นเป็นแบบนี้ก็ลามไปถึงตัวละคร ‘กั๊ต’ ที่มีลูกอ้อนผสมความยียวนกวนประสาทเป็นมวยคู่เอกของวา ก็ต้องลดโทนของตัวเองลงเหลือแค่ความขี้อ้อนและคอยประคับประคองนางเอก ตรงจุดนี้ก็ทำให้เสน่ห์ของตัวละครหายไปด้วยเหมือนกัน

 

 

อย่างไรก็ตามการแสดงของกลัฟก็ถือว่ายังคงมีเสน่ห์ตามเส้นเรื่องเท่าที่บทเขียนมาให้ ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายว่าถ้าเพิ่มมิติบางอย่างเข้าไป ก็น่าจะเป็นผลงานเดบิวต์ในฐานะพระเอกของช่อง 3 ที่น่าจดจำ ในส่วนของเจนี่ผู้เขียนคิดว่ายังติดอยู่ในกรอบความเป็นนางเอกแบบเก่ามากเกินไป ซึ่งถ้าหากทลายกำแพงนั้นลงไปได้บทนี้ก็จะทำให้เจนี่ไม่ใช่แค่สวย แต่มีความตลก เปิ่น โก๊ะ สมวัย และกลายเป็น ‘คุณแม่’ ของ ‘ลูกสาว’ ทั้งแท้และไม่แท้ได้เลยทีเดียว

 

อีกส่วนที่ค่อนข้างขัดใจคือสถานการณ์ต่างๆ ที่ยึดโยงกับโลกแฟชั่น บิวตี้ และวงการบันเทิง แต่ในละครทำออกมาได้ไม่ถึง และค่อนข้างพ้นสมัย อย่างเช่นเรื่องแฟชั่น และที่สำคัญคือเรื่องบิวตี้ ตามคาแรกเตอร์ของกั๊ตที่ต้องเป็นช่างแต่งหน้าฝีมือดี มีผลงาน ‘สวยประจักษ์’ ใครเห็นก็ต้องตะลึง แต่ผลงานในเรื่องกลับออกมาแนวแฟนซี และทำไม่ถึง จึงทำให้รู้สึกฝืนๆ ขัดๆ กันยังไงชอบกล

 

จริงๆ แล้วความคาดหวังของผู้เขียน ต้องการเพียงแค่มาตรฐานเดียวกับละครเรื่องเก่าๆ ของผู้จัดและผู้กำกับเจ้านี้ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วควรต้องออกมาดีกว่า สนุกกว่า ให้สมกับเป็นละครฟอร์มใหญ่ของช่อง ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอาการเกร็ง หรืออยากใส่อะไรแบบสุดๆ เข้าไป (เสื้อผ้า การแต่งหน้า การ์ตูน สีสัน) จนผลลัพธ์ออกมาขาดๆ เกินๆ แบบนี้ ซึ่งเท่าที่ดูมา 4 ตอน (4 ธันวาคม) ก็ต้องบอกว่า มัดหัวใจยัยซุปตาร์ ยังมัดหัวใจเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ

 

ภาพ: มัดหัวใจยัยซุปตาร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising