โยชิฮิเดะ ซูงะ มือขวาอาเบะ ร่วมชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

วานนี้ (30 สิงหาคม) สำนักข่าวท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานว่า โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ผู้เป็นมือขวาของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ มาตลอดเกือบ 8 ปี จะร่วมชิงตำแหน่งผู้นำพรรคลิเบอร์รัล เดโมเครติก (LDP) และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่จะมีการลงคะแนนเสียงในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ หลังจากที่ ชินโซ อาเบะ ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ยุติบทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ทางด้าน โทชิฮิโระ นากาอิ เลขาธิการพรรค LDP เผยว่า ซูงะมีความประสงค์จะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลญี่ปุ่นต่อจากอาเบะ นอกจากซูงะแล้ว ยังมี ฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศในคณะรัฐมนตรีอาเบะระหว่างปี 2012-2017 ชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะร่วมชิงตำแหน่งสำคัญนี้ด้วย

ซูงะเป็นที่รู้จักในฐานะมือขวาของอาเบะ มีความสามารถในการจัดการวิกฤตต่างๆ มีความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรร่วมรัฐบาลของพรรค LDP อย่างพรรค Nikai และพรรค Komeito ทั้งยังได้รับการจดจำในฉายา ‘คุณลุงเรวะ’ หลังเป็นผู้ประกาศชื่อของรัชสมัยใหม่ของแผ่นดินญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมา

โดยเขาได้เขียนข้อความผ่านบล็อกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (29 สิงหาคม) ระบุว่า “สำหรับผู้ที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจทำให้ท่านทั้งหลายเศร้าใจ ผมจะปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด จะต้องปกป้องชีวิตผู้คนและความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นให้ได้”

พรรค LDP จะจัดการประชุมใหญ่ขึ้นในวันพรุ่งนี้ (1 กันยายน) ว่าจะมีการจัดลงคะแนนเสียงเลือกผู้นำคนใหม่อย่างไร โดยผู้สมัครแต่ละคนจะต้องได้รับการรับรองจากสมาชิกสภาไดเอตอย่างน้อย 20 เสียง คาดว่าจะลงคะแนนในวันที่ 15 กันยายนนี้ พร้อมเสนอชื่อผู้นำพรรคและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ราววันที่ 17 กันยายน

หากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งต่ออาเบะจนครบวาระ มีการเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นก่อนกำหนด พรรค LDP จะต้องเลือกผู้นำคนใหม่อีกครั้ง และมีความเป็นไปได้สูงมากที่ผู้ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการจะมีโอกาสนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในระยะยาว โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดล่าสุดจะหมดวาระในเดือนตุลาคมปี 2021

โดยทั่วไปการเลือกผู้นำพรรค LDP ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องใช้ระยะเวลาหาเสียงราว 12 วัน ผู้ที่ได้รับเสียงส่วนใหญ่จากทั้งหมด 788 เสียง (สมาชิกสภาไดเอต 394 เสียง และสมาชิกคนสำคัญของพรรค 394 เสียง) จะได้รับเลือก แต่ในกรณีฉุกเฉินอาจลงคะแนนเสียงเฉพาะสมาชิกสภาไดเอตและตัวแทน 47 จังหวัด จังหวัดละ 3 คน เพื่อย่นระยะเวลาและป้องกันการเกิดสุญญากาศทางการเมืองท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

ภาพ: Issei Kato / Reuters

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: