ตลอดปี 2019 เชื่อว่าแฟนซีรีส์เกาหลีต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับนักแสดงหนุ่ม ยอจินกู (Yeo Jin Goo) กันเป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม กับซีรีส์พีเรียดสะเทือนอารมณ์ที่เขาต้องรับบทที่แตกต่างกันสุดขั้วในซีรีส์ The Crowned Clown ก่อนจะต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม กับการรับบทหุ่นยนต์แฟนหนุ่มในซีรีส์รักกุ๊กกิ๊ก My Absolute Boyfriend และส่งท้ายปลายปีไปกับซีรีส์แฟนตาซีที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น Hotel Del Luna
THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยกับ ยอจินกู เนื่องในโอกาสที่เขาเดินทางมาจัดงานแฟนมีตติ้ง 2019 Yeo Jin Goo Fan Meeting ‘Moon Light’ in Bangkok ครั้งแรกในประเทศไทย ที่นอกจากความรู้สึกพิเศษที่เขามีต่อประเทศไทยแล้ว เรายังได้พูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องราวตลอดปี 2019 ตั้งแต่การทำงานในฐานะนักแสดง ความสนใจในวงการบันเทิง ไปจนถึงเป้าหมายสูงสุดในฐานะของผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ยอจินกู
ปี 2019 เราได้เห็นผลงานซีรีส์ของคุณถึง 3 เรื่องในหลากหลายบทบาท คุณมีเกณฑ์ในการรับเล่นซีรีส์อย่างไร
ก่อนอื่นเลยคือผมมักจะสนใจในคาแรกเตอร์หรือบทบาทที่ผมไม่เคยแสดงมาก่อนครับ อาจจะเป็นคาแรกเตอร์ที่ตรงข้ามกับนิสัย หรืออาชีพที่ผมไม่สามารถเป็นได้ อย่างในปีนี้ซีรีส์ที่ผมแสดงทั้ง 3 เรื่อง (The Crowned Clown, My Absolute Boyfriend และ Hotel Del Luna) ก็ไม่เหมือนกันเลย ซึ่งผมก็จะพยายามถามตัวเองว่า ถ้าผมจะต้องแสดงในคาแรกเตอร์นี้ผมจะทำอย่างไร จะคิดอย่างไร และในอนาคตผมก็อยากแสดงให้คนดูได้เห็นในหลายๆ คาแรกเตอร์ครับ
แล้วแต่ละครั้งคุณมีการทำการบ้านอย่างไรบ้าง อย่างในซีรีส์ The Crowned Clown ที่ต้องรับบทบาทที่ต่างกันสุดขั้ว คุณต้องฝึกฝนด้านไหนเพิ่มเติมบ้าง
ในซีรีส์ The Crowned Clown ผมต้องแสดงสองบทบาทเลยใช่ไหมครับ นั่นทำให้ผมต้องฝึกซ้อมมากขึ้นเป็นสองเท่าเลยครับ แต่ผมค่อนข้างโชคดีที่เคยแสดงซีรีส์พีเรียดมาหลายเรื่องตั้งแต่ผมยังเด็ก ดังนั้นเรื่องการออกเสียงหรืออะไรต่างๆ ผมก็ค่อนข้างจะชินอยู่แล้ว แต่ว่ามันก็จะมีส่วนหนึ่งที่ยากเหมือนกัน คือตอนที่ทั้งสองคาแรกเตอร์ต้องมาเจอกันในฉากครับ อันนี้ค่อนข้างยากเพราะผมไม่สามารถเช็กหน้างานได้ ต้องเช็กจากผลงานตอนออนแอร์เลยครับ
Hotel Del Luna ที่เป็นซีรีส์แฟนตาซี สำหรับนักแสดงที่ต้องทำงานกับ Green Screen มีความยากลำบากอย่างไรบ้างไหม
จริงๆ แล้วการแสดงกับ Green Screen ไม่ค่อยยากเท่าไรนะครับ เพราะฉากส่วนใหญ่ในซีรีส์จะมีการเซตขึ้นมาเพื่อถ่ายทำ ตอนที่ถ่ายทำกับ Green Screen ก็มักจะเป็นฉากเมืองหรือบรรยากาศข้างนอกครับ แต่ไม่ได้ยากมากเท่าไร ผมรู้สึกสนุกมากกว่าครับ เพราะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย
มีบทบาทหรือคาแรกเตอร์แบบไหนที่คุณอยากแสดงแต่ยังไม่ได้แสดงบ้างไหม
จริงๆ แล้วมีหลายบทบาทที่ผมยังไม่เคยลองนะครับ อย่างในซีรีส์ Hotel Del Luna ผมต้องรับบทเป็นผู้จัดการโรงแรม ซึ่งเป็นอาชีพที่เฉพาะเจาะจง สำหรับผมมันสนุกมากๆ ครับ ที่ได้รับความรู้ใหม่ๆ ซึ่งยากจะหาได้จากชีวิตจริง รวมถึงความสนุกที่ต้องสวมบทอย่างไรให้ดูเป็นนิสัยของผม ในอนาคต ผมคิดว่าน่าจะสนุกดีถ้าผมจะได้รับบทเป็นหมอ, ทนาย, อัยการ หรือผู้พิพากษา ฯลฯ ซึ่งเป็นอาชีพเฉพาะที่ผมไม่สามารถเป็นในชีวิตจริงได้ครับ
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา คุณรับเล่นซีรีส์มาตลอด มีแพลนจะกลับไปรับเล่นภาพยนตร์เร็วๆ นี้ไหม
ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจรับงานภาพยนตร์ครับ แต่ว่าจริงๆ แล้วผมก็อยากถ่ายทำทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ เพราะเป็นสิ่งที่ผมชอบทั้งคู่เลยครับ
นอกจากการแสดงแล้ว มีอะไรในวงการบันเทิงที่คุณสนใจอยากทำอีกไหม
จริงๆ แล้วผมยังโฟกัสที่งานแสดงเป็นหลักครับ ในอนาคตผมก็ยังไม่มีด้านไหนที่อยากทำเป็นพิเศษ เพราะผมชอบการแสดงครับ ก็เลยอยากแสดงซีรีส์หรือภาพยนตร์ไปเรื่อยๆ เลยทำให้ตอนนี้ผมยังไม่มีสิ่งที่อยากลงมือทำครับ แต่ก็อาจจะมีด้านอื่นที่เข้ามาช่วยบ้างอย่างการฟังเพลง ที่จะเข้ามาช่วยในการแสดงของผมนิดหน่อยครับ
นักแสดงที่เป็น Role Model ของคุณคือใคร ทำไมคุณถึงชื่นชอบเขา
จริงๆ ตั้งแต่เด็กผมได้เห็นการทำงานในหลายๆ รูปแบบ ทำให้ผมเคารพรุ่นพี่ทุกคนเท่าๆ กันและรู้สึกอยากเก่งแบบนั้นบ้างครับ จึงทำให้ผมไม่ได้ตั้ง Role Model เอาไว้เป็นคนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ตั้ง Role Model ผมก็อยากให้เป็นตัวของผมเองครับ เพราะการคอนโทรลและดีลกับตัวเองเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ก็เลยอยากจะตั้งตัวเองไว้เป็น Role Model แล้วก็พยายามเป็นคนที่เหมาะสมกับ Role Model ของตัวเองครับ
ก่อนหน้านี้เห็นคุณลงคลิปเล่นเปียโนในอินสตาแกรม ตอนนี้ยังเล่นอยู่ไหม
จริงๆ ผมไม่ได้เล่นบ่อยนะครับ แต่ถ้ามีเวลาว่างก็จะหาเพลงที่ชอบมาลองคัฟเวอร์ดูครับ ผมไม่ได้เล่นเก่งมากนะครับ เป็นเหมือนงานอดิเรกของผมมากกว่า ทั้งเปียโนและกีตาร์ครับ
แล้วงานอดิเรกช่วงนี้ของคุณคืออะไร กำลังอินกับอะไรอยู่บ้าง
ตอนนี้งานอดิเรกของผมคือการดูหนังครับ ตอนที่พักผ่อนอยู่บ้านผมก็ดูหนังอยู่เรื่อยๆ เลยครับ
อยากให้คุณพูดถึง 5 สิ่งที่ประทับใจในปีนี้ให้ฟังหน่อย
ข้อแรกคือการที่ผมมีโอกาสจัดงานแฟนมีตติ้งในต่างประเทศครับ ประทับใจมากๆ เลย ข้อสองคือการได้โอกาสแสดงซีรีส์ถึง 3 เรื่องในปีเดียวครับ ข้อสามคือทุกเรื่องที่แสดงจะมีความรักที่ไม่เหมือนกันเลยครับ ทำให้รู้สึกใจสั่นบ้าง และทำให้ผมเรียนรู้ได้มากขึ้นครับ ข้อสี่และข้อห้า หลังจากถ่ายซีรีส์ Hotel Del Luna เสร็จ ผมมีโอกาสได้มาเที่ยวประเทศไทยกับทีมงานและนักแสดงทุกคน เป็นการพักร้อนครั้งแรกของผม และเป็นที่ประเทศไทยด้วย สนุกมากเลยครับ แล้วหลังจากนั้นผมก็มีแฟนมีตติ้งในประเทศไทยอีกครับ ประเทศไทยทำให้ผมรู้สึกพิเศษยิ่งขึ้นในปีนี้ครับ
แล้วคุณมองตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างไร คิดว่าตัวเองจะอยู่ตรงจุดไหนของวงการบันเทิง
อีก 5 ปีข้างหน้าผมก็อยากจะมีผลงานใหม่ๆ ออกมาให้ทุกคนได้ชมกันเรื่อยๆ ครับ ถึงจะเป็นสิ่งที่ยาก แต่ก็อยากจะลองไปเรื่อยๆ อยากแสดงอยู่เรื่อยๆ ครับ
เป้าหมายสูงสุดของคุณในฐานะ ยอจินกู คืออะไร
ผมมีความฝันอยากเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้รู้สึกโชคดีมากที่ผมได้เป็นนักแสดงครับ ในอนาคตผมก็อยากที่จะเป็นนักแสดงต่อไป แต่ถ้าเป็นเป้าหมายในชีวิตของผม ก็คงจะเป็นการมีภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่เกี่ยวกับชีวิตของผม ชีวิตของยอจินกู ไม่ใช่แค่การแสดงอย่างเดียวนะครับ แต่ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นชีวิตของผมทั้งแบบส่วนตัวและในฐานะนักแสดงครับ
อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยที่ติดตามผลงานของคุณมาตลอดสักหน่อยไหม ก่อนเราจะจบคำถามสุดท้าย
ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีแฟนมีตติ้งและได้เจอแฟนๆ ชาวไทยในครั้งนี้ครับ ถึงจะอยู่ห่างไกลกัน แต่ทุกคนก็ยังคอยสนับสนุนผมเสมอ ขอบคุณมากๆ เลยครับ ผมจะไม่ลืมความรักและกำลังใจที่แฟนๆ ชาวไทยทุกคนมอบให้ ผลจะแสดงภาพลักษณ์ที่ดี ทำผลงานและแสดงบทบาทให้ดียิ่งขึ้นเพื่อแฟนๆ ทุกคนนะครับ ตอนนี้ใกล้จะปีใหม่แล้ว และในเร็วๆ นี้ก็จะกลับมากับผลงานที่ดีและบทบาทที่ดีนะครับ ตอนนี้ใกล้จะปีใหม่แล้ว ผมอยากให้ทุกคนมีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง และมีแต่วันที่ดีนะครับ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์