เงินเยนยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ (13 มิถุนายน) ได้ปรับตัวลดลงอีกราว 0.5% ไปสู่ระดับ 135.19 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับการอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 24 ปี ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่ารวมไปแล้วถึง 15% หากนับจากต้นปี
ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ในวันศุกร์ (10 มิถุนายน) ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วและแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสวนทางกับค่าเงินเยน
การอ่อนค่าของเงินเยนกำลังส่งผลกระทบเศรษฐกิจญี่ปุ่นในหลายมุม ในมุมหนึ่งก็ทำให้ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่ในอีกมุมก็กำลังส่งผลดีต่อภาคส่งออก โดยหากเงินเยนยังอ่อนค่าต่อไปประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคจะยิ่งสูญเสียการแข่งขันทางการส่งออกเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น
“แม้ว่าหน่วยงานต่างๆ ของญี่ปุ่นจะออกมาเตือนถึงการอ่อนค่าของเงินเยน แต่มันก็มีเครื่องมือไม่มากนักที่จะหยุดโมเมนตัมนี้ได้ การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังยืนกรานจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปทำให้เงินเยนยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีก” Akira Moroga ผู้จัดการฝ่ายอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร Aozora ในโตเกียว ระบุ
ขณะที่ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่ปรับทิศนโยบายการเงินจนกว่าเงินเยนจะอ่อนค่าหลุดจากกรอบ 140 เยนต่อดอลลาร์
นอกจากการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์แล้ว การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของออสเตรเลียรวมถึงการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ยังส่งผลให้เงินเยนทำสถิติอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 7 ปี เมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลียด้วย
อ้างอิง:
