สำนักข่าว Bloomberg รายงานการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า เจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ทั้งนี้ ไบเดนเคยสัญญาว่า จะเลือกคณะรัฐมนตรีที่มีความหลากหลาย ซึ่งหมายความว่า เขาอาจเลือกรัฐมนตรีคลังที่เป็นคนผิวสีหรือเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Bloomberg รายงานว่า คณะทำงานของไบเดนยังได้พิจารณาตัวเลือกอย่าง เลล เบรนาร์ด ผู้ว่าการ Fed รวมถึง โรเจอร์ เฟอร์กูสัน อดีตรองประธาน Fed
สำหรับเยลเลน ซึ่งปัจจุบันทำงานให้กับสถาบันวิจัย Brookings นั้นได้รับเลือกเป็นประธาน Fed ผู้หญิงคนแรกในสมัยประธานาธิบดี บารัก โอบามา ก่อนที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะแต่งตั้ง เจอโรม พาวเวลล์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธาน Fed คนปัจจุบัน
โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ไบเดนยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เยลเลนได้เป็นหนึ่งในกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำรายงานสรุปเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจให้ไบเดนรับทราบ
นับแต่ก้าวลงจากตำแหน่งประธาน Fed ก่อนหน้านี้ เยลเลนได้ร่วมทำงานกับสถาบันการเงินหลายแห่ง เช่น JPMorgan Chase & Co., Goldman Sachs Group Inc., รวมถึงบริษัทน้ำมันอย่าง Exxon Mobil Corp., ConocoPhillips และ Shale Oil., เพื่อกระตุ้นผู้กำหนดนโยบายให้พิจารณาภาษีที่เกี่ยวเนื่องกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
“ในมุมของนักเศรษฐศาสตร์ แนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อจัดการกับปัญหา Climate Change คือการเก็บภาษีการปล่อยมลพิษ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้บริษัทไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” เยลเลนเคยกล่าวไว้เมื่อปี 2561
ขณะที่ไบเดนเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาจะพิจารณาสร้างหน่วยงานพิเศษเพื่อดูแลด้านสภาพอากาศโดยเฉพาะ เพื่อต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน โดยหนึ่งในแผนที่ไบเดนให้น้ำหนักคือ การให้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงกระทรงการคลัง มีบทบาทมากขึ้นในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
