“ปกติต้องต่อแถวนานกว่านี้นะ” หญิงสาวรายหนึ่ง กะเกณฑ์ด้วยสายตาน่าจะอยู่ในช่วงวัยนักศึกษา เอ่ยปากพูดกับเพื่อนของเธอระหว่างเดินผ่านหน้าเราไป ในมือมีถุงปลาหมึกย่างราดน้ำจิ้มซีฟู้ด
‘ถนนคนเดินเยาวราช’ นับเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศไทยที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน หรือแม้แต่คนไทยก็มักจะเลือกแวะเวียนมาฝากท้องคลายหิว ชิมสตรีทฟู้ดรสเด็ดทั้งคาวและหวาน บ้างก็เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศของถนนคนเดินในยามค่ำคืน
แต่ในวันที่หลายประเทศทั่วโลกหรือแม้แต่ประเทศไทยต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ เยาวราชที่เคยคึกคัก พลุกพล่านและแน่นขนัดไปด้วยผู้คน กลับดูเบาบางลงทันตา ทางเท้าทั้งสองข้างที่เคยต้องเบียดเสียดแย่งกันเงยหน้าหาอากาศหายใจในวันนี้กลับต่างออกไป
ทีมข่าว THE STANDARD มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในย่านเยาวราช ซึ่งทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้เล่นงานธุรกิจของพวกเขา ‘หนักมาก’ โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มรุนแรงขึ้น และทำให้ ‘ทัวร์จีน’ ซึ่งเคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของถนนคนเดินแห่งนี้หายไปแทบจะทันที
ตรงกับข้อมูลที่เราสำรวจจากการเดินตระเวนในย่านเยาวราช โดยพบว่าผู้คนที่เดินทางมาส่วนใหญ่มักจะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจากโซนตะวันตกเป็นหลัก มีบ้างที่เป็นคนไทย แต่หลักๆ แล้วจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือนักศึกษาที่ชวนเพื่อนหรือคนรักมาท่องเที่ยวมากกว่า
เจ้าของร้านสตรีทฟู้ดส่วนใหญ่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวตรงกันว่า รายรับและลูกค้าของพวกเขาหายไปมากถึง 50-70% หลังจากที่ข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการบางรายก็จำเป็นจะต้องปรับตัวด้วยการลดวัตถุดิบประกอบอาหารในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน บ้างก็ต้องเลือกลดจำนวนพนักงานให้บริการโดยใช้วิธีสลับกะประคับประคองต้นทุนการดำเนินการธุรกิจ
“อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรา และอยากให้นักท่องเที่ยวไทยมาเที่ยวกันเยอะๆ” นี่คือความในใจของ เจ๊ชิ้ง-วารุณี เกษมพงศ์พาณิชย์ เจ้าของร้านขนมหวาน Sweettime ที่บอกแทนใจผู้ประกอบการธุรกิจในย่านเยาวราชได้ทุกคน ทั้งยังบอกได้ถึงสถานการณ์ความย่ำแย่ที่เจ้าของธุรกิจไทยต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า