นับเป็นเหตุร้ายครั้งล่าสุดที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับชาวยะลาเป็นอย่างมาก สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นภายในตลาดสดพิมลชัย เขตเทศบาลนครยะลา อำเภอเมืองยะลา ที่มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดไปจอดหน้าเขียงขายหมู ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้อาคารในตลาดได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บเกือบ 20 ราย
ตำรวจ-ทหารตรึงกำลังตรวจตรา ตลาดเงียบเหงา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ บรรยากาศในตลาดพิมลชัย ทางเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจได้เข้าไปจัดระเบียบการเข้าออกตลาด โดยให้รถเข้าออกเพียงเส้นทางเดียว อีกทั้งยังมีทหาร ตำรวจ ตั้งด่านตรวจเข้มสำหรับยานพาหนะทุกคัน อีกทั้งตรวจสอบบัตรประชาชน คู่มือประจำรถ ส่วนภายในตลาดยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเท้าตรวจตราอย่างแน่นหนา เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน
ขณะเดียวกันบรรยากาศการจับจ่ายสินค้าเป็นไปด้วยความเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้าต่างบ่นเป็นเสียงเดียว คงต้องใช้เวลานับเดือนกว่าที่ผู้คนจะหายจากอาการหวาดผวา
คดีคืบ กล้องวงจรปิดพบตัวคนร้ายแล้ว แต่สวมหมวก
สำหรับความคืบหน้าของคดีในวันนี้ พล.ต.ต. กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าวถึงการติดตามหาตัวคนร้ายว่า ขณะนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบตัวคนร้ายแล้ว แต่สวมหมวก ต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในการติดตามบุคคลที่ปรากฏในภาพ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่วันน่าจะได้ตัวคนร้าย
ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางเข้ามาก่อเหตุและหลบหนี ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะที่คนร้ายเข้ามาดูลาดเลา และระหว่างการนำรถมาจอด แม้คนร้ายจะสวมหมวก แต่ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา จะนำภาพที่ได้ไปประสานการปฏิบัติงานกับผู้ชำนาญการด้านการตกแต่งภาพของกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 โดยใช้โปรแกรม SmartDeblur เพื่อให้เกิดความคมชัดมากยิ่งขึ้น และรู้ได้ถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ส่วนหน่วยการข่าวของฝ่ายความมั่นคง ได้ส่งกำลังชุดไล่ล่าไปประกบตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่อำเภอยะรัง เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าได้ตัวหรือยัง โดยก่อนหน้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วจำนวน 3 คน ซึ่งได้สั่งการให้มีการตรวจสอบขบวนการก่อเหตุเพิ่มเติมแล้ว
“ขอให้รอติดตามผลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ว่าการก่อเหตุมาจากสาเหตุใด เพราะต้องตรวจสอบทั้งประเด็นความมั่นคงและปัญหาแทรกซ้อน แต่ที่ผ่านมาถือว่าเหตุการณ์มีความสงบเรียบร้อยขึ้นตามลำดับ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้บาดเจ็บเล่านาทีระทึก รอดชีวิตหวุดหวิด
ที่ตึกยี่เกียว ชั้น 2 โรงพยาบาลศูนย์ยะลา นายวิชัย เจ๊ะมะ อายุ 42 ปี อาชีพขายผลไม้ นอนพักรักษาตัว เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณสะเอว สะเก็ดระเบิดฝังใน ต้องรอแพทย์ทำการผ่าตัด ได้เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า
ก่อนที่จะประสบเหตุกับระเบิดนั้น ตนได้ขับรถไปส่งภรรยาเพื่อไปซื้อผลไม้ที่ตลาดใหม่ยะลา หลังจากนั้น ได้ขับรถกลับมาตลาดพิมลชัย เพื่อจัดเตรียมสถานที่นำผลไม้มาวางขาย หลังจากนั้น ก็เดินไปรับร่มที่ฝากไว้กับร้านขายหมู แต่ทางเจ้าของร้าน ได้เก็บร่มไว้ในครัวหลังร้าน ขณะกำลังจะแบกร่มออกมา ได้เกิดระเบิดขึ้น มีเศษเหล็กจากประตูตู้เย็น กระเด็นกระดอนมาถูกตนเต็มๆ สักพักปรากฏว่าที่บริเวณสะเอวมีเลือดไหลออกมา โชคดีที่แรงดันของระเบิดมาติดกำแพงไว้ ทำให้สะเก็ดระเบิดไม่สามารถผ่านประตูเหล็กเข้ามาได้ทั้งหมด จนได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดเพียงชิ้นเดียว
ส่วนนายณรงค์รัฐ แก้วสุขศรี อายุ 32 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาซ้าย ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา เช่นกัน ได้กล่าวว่า ตนเปิดแผงขายของกับป้าในกลางตลาด ขณะเกิดเหตุ ได้ขับรถมาที่ร้านผ่านจุดเกิดเหตุ และกำลังจะกลับรถเพื่อไปจอด แต่เกิดระเบิดขึ้น จึงวิ่งไปหาป้า ในแผงของตัวเอง โดยไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองถูกแรงระเบิด สักพักมีเลือดไหลออกมา จึงรู้ว่าตัวเองถูกระเบิดด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาในเวลาต่อมา
กลุ่มประชาชนรวมตัว ประกาศไม่เอาความรุนแรง
ความเคลื่อนไหวทางฝั่งประชาชนในวันนี้ อาจารย์สมพร กิติสาธร ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาผดุงประชายะลา ได้นำนักเรียน นักศึกษาจำนวน 438 คน เดินรณรงค์ไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมวางดอกไม้และยืนสงบนิ่งเพื่อสื่อว่ากลุ่มประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการความรุนแรง โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรี เทศบาลนครยะลา ให้การต้อนรับ อีกทั้งยังมีประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมกว่า 200 คนมาร่วมสมทบแสดงพลังในครั้งนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลายังได้เดินทางมาพบปะและปลอบขวัญประชาชนที่มาร่วมรณรงค์ พร้อมยืนยันว่าตนเองเป็นห่วงผู้ประสบเหตุ และได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทุกคนแล้ว นอกจากนี้ยังได้อัญเชิญกระเช้าพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10 มามอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย
บทความและภาพ: อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
อ้างอิง: