ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน เตรียมเริ่มต้นทริปเดินทางเยือนต่างประเทศในวันนี้ (14 กันยายน) ซึ่งถือเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ระบาดของโควิดในช่วงต้นปี 2020 โดยมีกำหนดการสำคัญที่นานาชาติจับตามอง คือการพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย
กำหนดการของสีจะเริ่มต้นทริปด้วยการเยือนคาซัคสถาน ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation: SCO) ที่นครซามาร์คานด์ ในอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน โดยมีผู้นำประเทศในแถบเอเชียกลาง รวมถึงรัสเซีย อิหร่าน อินเดีย และปากีสถาน เข้าร่วมประชุม
การพูดคุยระหว่างสีและปูตินจะมีขึ้นนอกรอบในระหว่างการประชุมวันพรุ่งนี้ (15 กันยายน) ซึ่งถือเป็นการหารือของผู้นำ 2 ประเทศ ที่กำลังเผชิญความท้าทายในช่วงเวลาที่สำคัญ ทั้งกรณีสงครามยูเครนและความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก ในขณะที่สีเตรียมสร้างประวัติศาสตร์รับตำแหน่งสมัยที่ 3 ในเดือนหน้า
ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลเครมลิน เปิดเผยต่อสื่อว่า ปูตินและสีจะหารือกันในหลายประเด็น ทั้งระดับทวิภาคีภูมิภาคและระดับนานาชาติ ซึ่งรวมถึงเรื่องยูเครนและไต้หวัน ซึ่งเครมลินมองว่ามี ‘ความสำคัญเป็นพิเศษ’ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์
“ประธานาธิบดีทั้งสองจะหารือทั้งในวาระทวิภาคีและประเด็นหลักระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาจะให้การประเมินเชิงบวกสำหรับความไว้วางใจในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคี” เขากล่าว
ความร่วมมือแบบ ‘ไม่จำกัด’ ที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ระหว่างมหาอำนาจที่กำลังเติบโตและขยายอิทธิพลอย่างจีน และยักษ์ใหญ่ด้านทรัพยากรธรรมชาติอย่างรัสเซีย ถือเป็นการพัฒนาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ชาติตะวันตกจับตามองด้วยความกังวล
โดยการพบปะกันของทั้งสอง จะทำให้สีมีโอกาสได้เน้นย้ำถึงอิทธิพลของจีน ในขณะที่ปูตินสามารถแสดงให้นานาชาติเห็นถึงท่าทีของรัสเซียที่โน้มเอียงเข้าหาเอเชีย ในขณะเดียวกัน สองผู้นำยังสามารถแสดงท่าทีต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐฯ และท่าทีของชาติตะวันตก ที่พยายามลงโทษรัสเซียจากการทำสงครามในยูเครน ซึ่งรัฐบาลเครมลินเรียกว่าเป็น ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร’
ทั้งนี้ อูชาคอฟชี้ว่า รัสเซียให้ความสำคัญกับท่าทีและจุดยืนของจีนที่มีต่อ ‘วิกฤตการณ์ในยูเครน’ โดยระบุว่า รัฐบาลปักกิ่งได้ใช้ ‘แนวทางที่สมดุล’ ต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
“จีนเข้าใจอย่างชัดเจนถึงเหตุผลที่บีบบังคับให้รัสเซียต้องเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหาร แน่นอนว่าปัญหานี้จะมีการหารืออย่างละเอียดในระหว่างการประชุมที่จะเกิดขึ้น” อูชาคอฟกล่าว
ภาพ: Mikhail Svetlov / Getty Images
อ้างอิง: