ผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ของจีน มีมติเป็นเอกฉันท์ทั้ง 2,970 เสียง รับรองสีจิ้นผิงให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนเป็นสมัยที่ 2 ตามความคาดหมาย หลังจากก่อนหน้านี้ที่ประชุมสภาได้โหวตเห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้สีจิ้นผิงสามารถสืบอำนาจได้ต่อไปหลังปี 2023
แต่ไฮไลต์สำคัญของการโหวตในที่ประชุมสภาเต็มคณะสมัยที่ 13 ในวันนี้ (17 มีนาคม) คือการเลือกหวังฉีซาน มือขวาของสีจิ้นผิงและอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกลางฝ่ายตรวจสอบวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นกลไกปราบคอร์รัปชัน ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจีน สะท้อนให้เห็นว่า สีจิ้นผิงต้องการเดินหน้ากวาดล้างปัญหาคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด
เคอร์รี บราวน์ ผู้อำนวยการสถาบัน Lau China แห่งราชวิทยาลัยแห่งลอนดอน แสดงความเห็นว่า การที่สีจิ้นผิงเลือกหวังฉีซานให้กลับมามีบทบาททางการเมืองหลังจากที่เขาเกษียณอายุจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของหวังฉีซาน และการเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองคนสำคัญที่สีจิ้นผิงไว้วางใจและขาดไม่ได้”
ภายหลังได้รับเลือก ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้ขึ้นกล่าวให้คำสัตย์ปฏิญาณว่าจะปกป้องรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนให้คำสัตย์ปฏิญาณต่อรัฐธรรมนูญหลังรับตำแหน่ง
“ผมให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อประเทศชาติและประชาชนจีน พร้อมยึดมั่นและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ยอมรับการตรวจสอบจากประชาชนและทำงานเพื่อสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ เจริญรุ่งเรือง เข้มแข็ง เป็นประชาธิปไตย มีวัฒนธรรม ก้าวหน้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และงดงาม” สีจิ้นผิงกล่าว
นอกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว ในที่ประชุมสภา NPC ณ มหาศาลาประชาชนจีนในกรุงปักกิ่ง ยังโหวตรับรองสีจิ้นผิงให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการทหารส่วนกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มีอำนาจควบคุมกองทัพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (เมื่อวัดจากกำลังพล) และมีงบประมาณกลาโหมสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
Photo: AFP
อ้างอิง:
