วานนี้ (22 ธันวาคม) สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำลังทำการสอบสวนกรณีที่ เชฟเซเลบริตี้ชื่อดังอย่าง ซอลต์ เบ หรือ นูสเรต โกคเช เจ้าของภัตตาคารชื่อดังระดับโลก ได้ถือวิสาสะในการเดินลงไปในสนามลูเซลหลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศ และได้ถือโอกาสในการสัมผัสกับถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก หลังจบการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กาตาร์
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่อาร์เจนตินาเอาชนะทีมชาติฝรั่งเศสการดวลจุดโทษไป 4-2 หลังทั้งสองทีมเสมอกันเมื่อจบช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-3 ส่งให้อาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ และนับเป็นแชมป์โลกสมัยแรกของ ลิโอเนล เมสซี ศูนย์หน้าของอาร์เจนตินาวัย 35 ปี
แต่เกิดเสียงวิจารณ์ขึ้นอย่างหนัก หลังจากที่มีภาพของ ซอลต์ เบ ลงไปในสนามระหว่างที่ทีมชาติอาร์เจนตินากำลังฉลองแชมป์โลก พร้อมมีภาพการสัมผัสถ้วย ‘FIFA World Cup Trophy’ ซึ่งกฎของฟีฟ่าระบุว่า มีเพียงแค่คนบางกลุ่มที่ได้รับเลือกเท่านั้น ที่จะสามารถสัมผัสถ้วยแชมป์โลกได้ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นมีเพียงนักเตะชุดแชมป์โลก เจ้าหน้าที่ของฟีฟ่า และผู้นำประเทศ
ล่าสุดทางฟีฟ่าได้แถลงผ่านโฆษกมายัง BBC Sport ว่า
“หลังจากที่ได้รีวิวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฟีฟ่ากำลังหาสาเหตุที่บุคคลดังกล่าวสามารถลงไปในพื้นที่สนามหลังพิธีปิดการแข่งขันที่สนามลูเซล เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม
“การดำเนินการที่เหมาะสมจะถูกบังคับใช้หลังจากนี้”
สำหรับ ซอลต์ เบ หรือ นูสเรต โกคเช เจ้าของภัตตาคารชื่อดังระดับโลก ก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงเมื่อปี 2017 จากเทคนิคการโรยเกลือที่กลายเป็นมีมในโลกออนไลน์
ที่ผ่านมานักฟุตบอลระดับโลกทั้งในอดีตและปัจจุบัน ตั้งแต่ ลิโอเนล เมสซี, คริสเตียโน โรนัลโด และ เดวิด แบ็คแฮม รวมถึง จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่าคนปัจจุบัน ต่างก็เคยรับประทานอาหารที่ร้านอาหารของซอลต์ เบ มาแล้ว
สำหรับ FIFA World Cup Trophy หรือถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก ทำจากทองคำ 18 กะรัต มีส่วนสูง 36.8 เซนติเมตร น้ำหนัก 6.175 กิโลกรัม โดยเป็นผลงานออกแบบของบริษัท Stabilimento Artistico Bertoni จากประเทศอิตาลี
อ้างอิง: