×

เช็กความพร้อมก่อนลุยนัดเปิดสนามบอลโลก 2018 เจ้าภาพรัสเซียปะทะซาอุดีอาระเบีย

14.06.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • แมตช์ในคืนนี้นอกจากจะเป็นนัดตัดเชือกประเดิมทัวร์นาเมนต์บอลโลกระหว่าง ‘ทัพหมีขาว’ ทีมชาติรัสเซียและ ‘เหยี่ยวเขียว’ ยังเป็นการโคจรมาเจอกันเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 25 ปีของทั้งคู่ โดยครั้งล่าสุดที่พบกันต้องย้อนกลับไปไกลถึงปี 1993 ผลคือฝ่ายหลังเอาชนะไปได้ถึง 4-2
  • ฟอร์ม ณ ปัจจุบันของทั้งสองทีมไม่สู้ดีนัก เพราะรัสเซียก็ไม่ชนะเกมนัดอุ่นเครื่อง 7 นัดติดต่อกัน ส่วนซาอุดีอาระเบียก็แพ้ติดต่อกันมา 3 นัดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
  • ความกดดันที่รัสเซียต้องแบกรับคือการลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในถิ่นของตัวเอง และสถิติที่บ่งชี้ว่าชาติเจ้าภาพที่ลงเล่นในนัดเปิดสนามก่อนหน้านี้ทั้ง 9 ชาติ ไม่เคยมีทีมไหนแพ้ในนัดเปิดสนามมาก่อน!

เป็นระยะเวลาเกือบ 1,432 วันแล้ว นับตั้งแต่ที่ มาริโอ เกิทเซ เพลย์เมกเกอร์พรสวรรค์สูงทีมชาติเยอรมนีได้ส่งบอลเข้าไปจูบก้นตาข่าย ‘ทัพฟ้าขาว’ อาร์เจนตินา ณ​ สนามกีฬามาราคานา กรุงรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล พาอินทรีเหล็กคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ไปครองได้อย่างภาคภูมิ (เกิทเซไม่ติดทีมชาติชุดปัจจุบัน เพราะฟอร์มตกและถูกปัญหาอาการบาดเจ็บตามเล่นงาน)

 

ผ่านมาจนถึงวันนี้ (14 มิ.ย.) มหกรรมที่คนทั้งโลกตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อตลอด 4 ปีก็จะเปิดฉากดวลแข้งกันเป็นวันแรกแล้ว!

 

ถึงกระแสบอลโลกปีนี้ดูจะเงียบเหงาไปบ้าง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลการประชาสัมพันธ์ในบ้านเราที่ไม่ครึกครื้นเหมือนเก่า หรือการขาดหายไปของสองชาติดังอย่างอิตาลีและเนเธอร์แลนด์

 

แต่ทันทีที่สเปนประกาศปลดโค้ช ‘ยูเลน โลเปเตกี’ ได้แค่ 2 วันก่อนบอลโลกเปิดฉาก พร้อมๆ กับช่วงเวลาเดียวกันที่ฟีฟ่าได้ประกาศให้ 3 ชาติจากอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา เป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลก 2026 กระแสความตื่นตัวก็ค่อยๆ ฟื้นกลับขึ้นมาทีละเล็กละน้อย และต่อจากวันนี้เป็นต้นไปก็น่าจะเริ่มครื้นเครงกันไปยาวๆ แน่นอน

 

 

การโคจรมาพบกันครั้งที่ 2 ในรอบ 25 ปีของหมีขาวและเหยี่ยวเขียว

แมตช์คืนนี้นอกจากจะเป็นนัดตัดเชือกเปิดทัวร์นาเมนต์ระหว่าง ‘ทัพหมีขาว’ ทีมชาติรัสเซียและ ‘เหยี่ยวเขียว’ ทีมชาติซาอุดีอาระเบียแล้วยังนับเป็นการโคจรมาเจอกันเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 25 ปีของทั้งคู่อีกด้วย

 

การพบกันครั้งล่าสุดของรัสเซียและซาอุดีอาระเบียต้องย้อนกลับไปไกลถึงเดือนตุลาคม ปี 1993 ในเกมนัดอุ่นเครื่อง โดยเป็นฝ่ายหลังที่เอาชนะไปได้ถึง 4-2

 

แต่นั่นคือเมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้ว ถ้าวัดฟอร์ม ณ ปัจจุบันต้องบอกว่าผลงานของทั้งสองชาติเข้าขั้น ‘แย่’ สูสีกันทั้งคู่ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา รัสเซียไม่สามารถชนะเกมนัดอุ่นเครื่องเลยถึง 7 นัดติดต่อกัน แพ้ถึง 4 นัด และเสมอ 3 นัด ด้านซาอุดีอาระเบียก็แพ้ติดต่อกันมา 3 นัดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม

 

รัสเซียดูจะมีภาษีเป็นต่อชาติจากเอเชียอยู่เล็กน้อยจากการได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลที่พร้อมจะหนุนหลังให้กำลังใจพวกเขาเต็มที่ ที่สำคัญศึกนี้ยังมีเดิมพันใหญ่อยู่ที่การประเดิมคว้า 3 แต้มแรกมากอดไว้ในอ้อมอกให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นทั้งคู่คงจะต้องไปลุ้นเหนื่อยหนักกับทีมอย่างอุรุกวัยและอียิปต์แน่นอน

 

 

ความคาดหวังที่นักเตะรัสเซียทั้ง 23 คนต้องแบกรับ โค้ชซาอุฯ ชี้ไม่กดดัน กระสันวัดศักยภาพเต็มทน!

อีกหนึ่งความกดดันที่ทัพนักเตะรัสเซียและสตาฟฟ์โค้ชต้องแบกรับไว้คือฟุตบอลโลกครั้งก่อนหน้านี้ ฟีฟ่าได้ระบุไว้ว่าไม่มีทีมเจ้าภาพฟุตบอลโลกรายไหนที่แพ้ในนัดเปิดสนามของตัวเองมาก่อนเลย โดยแบ่งเป็นการชนะทั้งหมด 6 ครั้งและเสมอ 3 ครั้ง

 

ฟีโอดอร์ สโมลอฟ ศูนย์หน้าทีมชาติรัสเซีย วัย 28 ปี ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับเว็บไซต์ฟีฟ่าไว้ว่า นี่คือมหกรรมสุดพิเศษไม่ว่าจะสำหรับประเทศไหนก็ตามที่ได้มายืน ณ จุดนี้ (ในฐานะชาติเจ้าภาพ) สนามทุกแห่งและโครงสร้างขั้นพื้นฐานภายในทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกสร้างขึ้นไว้สำหรับฟุตบอลโลก นี่จะเป็นมรดกที่ช่วยพัฒนาเด็กๆ รุ่นใหม่ และสอนพวกเขาให้รู้จักเกมลูกหนังและพัฒนาการกีฬาในประเทศของเรา

 

“พวกเราอยากให้ทัวร์นาเมนต์เริ่มได้แล้ว! แมตช์การแข่งขันนัดแรกสำคัญที่สุด คุณจะได้เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์เหมือนดังที่ตั้งใจไว้ เรามีเกมให้ลงแข่งแค่ 3 นัดเท่านั้นในรอบแบ่งกลุ่ม ไม่มีเวลาให้พิรี้พิไรวางแผนอะไรอีกต่อไปแล้ว พวกเราแค่ต้องทุ่มให้มันเต็ม 100% ตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขันเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ดีที่สุด”

 

ศูนย์หน้าจากครัสโนดาร์ยังกล่าวถึงทีมคู่แข่งในนัดเปิดสนามอีกด้วย โดยระบุว่านักเตะของซาอุดีอาระเบียเล่นฟุตบอลกันด้วยเทคนิคและทักษะที่สูง สามารถครองบอลและลำเลียงบอลขึ้นไปในแดนหน้าได้โดยปราศจากความกดดัน

 

“พวกเขาคือหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่มีคุณภาพและต่อกรด้วยยากอย่างแท้จริง เกมในนัดนี้จะต้องยากสำหรับเราแน่นอน”

 

 

ด้าน ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี โค้ชทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขุนพลทัพเหยี่ยวเขียวพร้อมกันมากๆ แล้ว และไม่เกรงกลัวใครอีกต่อไป

 

“เป้าหมายของเราคือการโค่นรัสเซีย พวกเราต้องการจะวัดตัวเองกับทีมที่ดีที่สุดในโลก

 

“ผมคิดว่าเกือบทุกทีมทั้งนั้นแหละที่ต้องลงเล่นพร้อมกับความกดดัน และบางครั้งเราก็สร้างความกดดันกันขึ้นมาเอง แล้วมันก็ช่วยให้เราทำผลงานกันได้ดี แน่นอน การที่เราต้องลงเล่นนัดเปิดสนามกับชาติเจ้าภาพก็คือข้อเท็จจริงข้อหนึ่ง แต่เมื่อไรก็ตามที่เราต้องลงแข่ง ผมไม่คิดว่าประเด็นนั้นจะมาสร้างความกดดันใดๆ เพิ่มเติมให้กับทั้งสองทีมนะ”

 

ต้องมาดูกันว่าเจ้าแมวน้อยอคิลลีสจะแม่นแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้มันได้ทำนายไว้แล้วว่ารัสเซียจะเอาชนะซาอุดีอาระเบียไปด้วยสกอร์ 1-0 โดยทำประตูได้ในช่วงครึ่งหลัง

 

ทันทีที่เสียงนกหวีดแรกจาก เนสเตอร์ พิทานา ผู้ตัดสินเกมนัดเปิดสนาม วัย 42 ปี ดังขึ้นคืนนี้ในเวลา 22.00 น. ความสนุกและมนต์ขลังของหนึ่งในรายการกีฬาที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จะได้ฤกษ์อุบัติขึ้นแล้ว!

อ้างอิง:

FYI
  • อันดับฟีฟ่าของซาอุดีอาระเบียอยู่ในลำดับที่ 67 ส่วนรัสเซียอยู่ในลำดับที่ 70
  • นัดเปิดสนามช่วงปี 1966-1978 เงียบเหงาเพราะทั้งสองทีมที่ลงแข่งไม่สามารถทำประตูได้เลย แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา คู่เปิดสนามก็ทำประตูกันได้ตลอด
  • จาก 13 นัดที่ซาอุดีอาระเบียลงเล่นในฟุตบอลโลกนัดสุดท้าย พวกเขาเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียวเท่านั้น และต้องย้อนกลับไปในปี 1994 ขณะที่ 7 นัดจาก 9 นัดหลังสุดในทัวร์นาเมนต์ ซาอุดีอาระเบียยิงประตูไม่ได้เลย!
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising