หากพูดถึงการเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นระดับผู้บริหาร ผู้ชายยังได้เปรียบกว่าผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อผู้หญิงขึ้นมามีบทบาทเป็นผู้นำก็มักจะมีแนวโน้มลาออก เพราะไม่มีความสุขในการทำงาน หรือได้รับแรงกดดันมากขึ้นกว่าเดิม
ตามรายงาน Women in the Workplace ปี 2022 ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับพนักงานผู้หญิง พบว่า ในบรรดาผู้ประกอบการเผยว่า พนักงานชาย 60% ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากพนักงานระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับผู้จัดการ ขณะที่พนักงานหญิงมีเพียง 40% ที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เพราะไม่อยากจ่ายค่าชดเชย? Quiet Firing การทำให้พนักงานดิ่งจนถึงขีดสุดและยอมลาออกไปเอง
- ไม่มีข้อแก้ตัว! ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ออกมาบอกว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีควรมี ‘ผู้หญิง’ ในการทำงานมากกว่านี้
- ‘ภาระในการเลี้ยงลูก’ ทำให้ภาวะเจริญพันธุ์ของเกาหลีใต้ต่ำที่สุดในโลก แม้แต่ อีลอน มัสก์ ยังมองว่าเป็นสถานการณ์ที่ ‘เลวร้าย’
นับเป็นปีที่ 8 แล้วที่ผู้หญิงไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกอันดับแรกๆ ในการเลื่อนตำแหน่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตำแหน่งระดับผู้จัดการไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงยังคงเป็นผู้ชายและมีผิวขาว และมีเพียง 1 ใน 4 ของผู้หญิงที่จะได้รับเลือก โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีจะมีบทบาทน้อยมากในองค์กรสหรัฐอเมริกา หรืออาจมีเพียง 1 ใน 20 คน ที่จะเลือกผู้หญิงผิวสีขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูง
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันผู้หญิงมีแนวโน้มมองหาบทบาทใหม่สูงขึ้นพอๆ กับผู้ชาย แต่สุดท้ายต้องจบลงด้วยการบ่อนทำลายความเชื่อมั่น จึงทำให้มีโอกาสก้าวหน้าได้ยาก
จากการศึกษาของ McKinsey และ LeanIn.Org อิงจากการสำรวจพนักงานมากกว่า 40,000 คน จากบริษัท 55 แห่ง มีการสัมภาษณ์ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่า 12 ล้านคนในสหรัฐฯ และแคนาดา
พบว่า ผู้หญิงในระดับผู้จัดการ 37% ทำแบบสำรวจว่า มีเพื่อนร่วมงานที่เห็นด้วยกับความคิดของเขา 27% ถ้าเทียบกับผู้ชาย ผู้หญิงมีโอกาสกว่า 2 เท่า ส่วนผู้หญิงผิวสีจะถูกมองว่าไม่มีคุณสมบัติขึ้นมาเป็นผู้นำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันตำแหน่งผู้นำหญิงมีแนวโน้มใช้เวลาและพลังงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพนักงานและส่งเสริมความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ดี
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้หญิงมีแนวโน้มหางานใหม่มากกว่าผู้ชาย 1.5 เท่า โดยถ้าหากที่ทำงานใหม่มีความยืดหยุ่นก็จะพิจารณาในทันที และในบรรดาพนักงานหญิงอายุต่ำกว่า 30 ปี มีความสนใจที่จะก้าวหน้าในที่ทำงานใหม่มากขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว หากองค์กรไม่สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำหญิงไว้ได้ อาจทำให้บริษัทถึงขั้นพังลงได้
อ้างอิง: