วันนี้ (9 ตุลาคม) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือคนล่าสุด แถลงนโยบายรับตำแหน่ง เตรียมกำกับดูแลการทำประชาสัมพันธ์และปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ของกองทัพเรือ เพื่อให้ประชาชนเกิดความรู้สึกที่ดีต่อหน่วยงาน
โดยวิโรจน์กล่าวว่า เบื้องต้นต้องทำความเข้าใจปฏิบัติการข่าวสารหรือการประชาสัมพันธ์ให้ตรงกันก่อน หากเป็นการประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริง เปิดเผยข้อมูล หรือมีการชี้แจงเพื่อคลายความกังวลต่อสาธารณะ ในส่วนนี้ตนเห็นด้วย และไม่มีปัญหาหากหน่วยงานรัฐจะดำเนินการ และในคณะกรรมาธิการการทหารที่ตนเป็นประธาน ก็พร้อมสนับสนุนการทำงานของกองทัพเรือด้วย
แต่หากปฏิบัติการ IO ที่ว่าเป็นการทำโฆษณาชวนเชื่อ เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะยุแยงตะแคงรั่ว หรือทำให้ประชาชนรับข้อมูลข่าวสารด้านเดียวของกองทัพ ไม่ได้มุ่งหมายเพื่อเผยแพร่ข้อเท็จจริง แต่มุ่งให้ประชาชนเห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่เหมาะสม ในส่วนนี้ตนมองว่าเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน และไม่เป็นผลดีกับกองทัพทั้งในระยะสั้นจนถึงระยะยาว
วิโรจน์ยังกล่าวอีกว่า กรณีที่มีการขึ้นสไลด์นำเสนอระบุว่า ผบ.ทร. จะดำเนินการเข้ามากำกับดูแลปฏิบัติการ IO เอง นั่นหมายความว่า หากปฏิบัติการ IO นั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผบ.ทร. จะเป็นผู้รับผิดและรับชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญาด้วยหรือไม่ ตนขอความชัดเจนในส่วนนี้
ทั้งนี้ ขอให้ ผบ.ทร. กลับไปย้อนดูคู่มือราชการสนามว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ (รส. 100-20) ที่กล่าวถึงการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารในลักษณะการสร้างการรับรู้ข้างเดียว การสร้างข่าวลวงและข่าวเท็จ รวมถึงการใส่ร้ายป้ายสีนั้น จะต้องใช้กับฝ่ายตรงข้ามและใช้ในสภาวะสงครามเท่านั้น นอกจากนี้ คู่มือฯ ยังระบุชัดเจนว่า ห้ามใช้ปฏิบัติการดังกล่าวกับฝ่ายเดียวกัน เช่น ฝ่ายพลเรือน
ดังนั้น ขอให้ ผบ.ทร. ย้อนดูคู่มือดังกล่าวว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และตนหวังอย่างยิ่งว่า ผบ.ทร. ซึ่งเป็นทหารอาชีพ น่าจะมีความคุ้นชินคู่มือดังกล่าวมากกว่าใคร
วิโรจน์กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าสิ่งที่ ผบ.ทร. ต้องการทำคือการคืนความเชื่อมั่นที่มีต่อกองทัพเรือและความเชื่อใจจากภาคประชาชน ตนเห็นด้วย แต่สิ่งที่จะเรียกความไว้ใจจากภาคประชาชนได้ ตนมองว่ามีเพียงการเปิดเผยข้อมูลของกองทัพอย่างโปร่งใสต่อสาธารณะจนประชาชนสิ้นความกังวล
“การจะกู้ศักดิ์ศรีและเกียรติศักดิ์ของกองทัพกลับมา แนวทางที่ดีที่สุดคือการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส การชี้แจงต่อสาธารณะจนสิ้นข้อสงสัย จนประชาชนเกิดความมั่นใจว่างบประมาณและภาษีที่มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของประชาชนทุกหยด ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่มีเงินทอน ไม่มีการคอร์รัปชัน“ วิโรจน์กล่าว
