×

Willkommen Zurück! ต้อนรับการกลับมาของบุนเดสลีกา ที่น่าตื่นเต้นกว่าเดิม

16.05.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • การกลับมาก่อนใครเพื่อนในครั้งนี้ทำให้บุนเดสลีกาเป็นที่น่าจับตามองอย่างมากจากคนทั้งโลก
  • บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2019-20 เป็นฤดูกาลที่ค่อนข้างสนุกตื่นเต้นอย่างมาก โดยเฉพาะการลุ้นแชมป์ที่เบียดกันมันหยด 3 ทีมคือบาเยิร์น มิวนิก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแอร์เบ ไลป์ซิก
  • เราจะได้ดูฟอร์มของเหล่า Wunderkinds มากมาย อาทิ จาดอน ซานโช, เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์, ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่มีข่าวกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทุกคน
  • Geisterspiele หรือเกมที่ไม่มีคนดู และความปกติใหม่อีกมากมายของเกมฟุตบอลคือสิ่งที่เราจะได้เห็น

Willkommen Zurück! หลังการรอคอยอย่างอดทนและยาวนานร่วม 2 เดือนในที่สุด ‘ฟุตบอลยุโรป’ ก็กลับมาอีกครั้ง โดยเป็นศึกลูกหนังบุนเดสลีกา เยอรมนี เป็นลีกระดับท็อป 5 ของโลกแห่งแรกที่กลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคมนี้ หลังจากในสัปดาห์ที่แล้วเราได้เห็นลีกรองอย่างฟุตบอลเค-ลีก เกาหลีใต้ กลับมาทำการแข่งขัน (ไม่นับประเทศที่ไม่ได้หยุดพักอย่างเบลารุส หรือนิการากัว) กลับมาก่อนแล้ว

 

การกลับมาก่อนใครเพื่อนในครั้งนี้ทำให้บุนเดสลีกาเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก ข่าวคราวความเคลื่อนไหวถูกจับจ้องทุกย่างก้าว และเกมการแข่งขันของพวกเขาได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพราะแฟนๆ กีฬาไม่มี Live Sport ให้ดูมานานกว่า 2 เดือน แม้กระทั่งในอังกฤษเองสถานีโทรทัศน์ BT Sport ก็ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันบุนเดสลีกาให้สมาชิกได้ติดตามทุกนัดที่เหลือจนจบฤดูกาล

 

สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ติดตามบุนเดสลีกามาก่อน นี่คือเรื่องราวที่น่ารู้ไว้เหมือนได้อ่านเรื่องย่อบางส่วน แต่ถ้าใครที่เป็นคอบอลเมืองเบียร์อยู่แล้วก็ถือว่ามาทบทวนไปด้วยกันอีกสักครั้ง ก่อนที่ฟุตบอลจะกลับมา ‘คิกออฟ’ กันอีกหนในคืนนี้! (16 พฤษภาคม)

 

ภาพจาก: https://thestandard.co/bundesliga-approved-by-government-to-reopen-first-league/

 

ฤดูกาลที่สุดเข้มข้น

บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2019-20 เป็นฤดูกาลที่ค่อนข้างสนุกตื่นเต้นอย่างมาก เพราะในปีนี้ทีมที่เป็นเต็งหามตลอดกาลอย่างบาเยิร์น มิวนิก นั้นมีอาการแผ่วไปบ้างขณะที่คู่แข่งอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และแอร์เบ ไลป์ซิก นั้นทำผลงานดีขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงอีกทีมในฤดูกาลนี้

 

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนที่โควิด-19 จะระบาดหนัก บาเยิร์น มิวนิก ภายใต้การนำของกุนซือหน้าใหม่อย่าง ฮันซี ฟลิก ที่ได้ทำหน้าที่แทน นิโค โควัช เมื่อเดือนพฤศจิกายนเริ่มทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ค่อยๆ เก็บแต้มจากไล่ตามหลังจนกลับขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง และทำให้ได้รางวัลตอบแทนเป็นสัญญาการคุมทีมยาวถึงปี 2023

 

สิ่งที่น่าสนใจคือบาเยิร์น ภายใต้การนำของฟลิก เริ่มค้นพบความลงตัวทั้งสไตล์และระบบการเล่น นักเตะรุ่นใหม่อย่าง แซร์ช นาบรี, อัลฟอนโซ เดวีส์ ผสมผสานกับตัวเก๋าอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หรือโธมัส มุลเลอร์ ที่เคยถูกมองว่าหมดสภาพไปแล้วได้อย่างลงตัว

 

แต่ถึงกระนั้นงานของบาเยิร์นก็ไม่ง่ายนัก เมื่อดอร์ทมุนด์ที่กระท่อนกระแท่นอยู่พักใหญ่ ทั้งๆ ที่ลงทุนเสริมทัพมากมายในฤดูกาลนี้ ได้ทีเด็ดอย่าง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ไอ้หนูมหัศจรรย์ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาในแนวรุก และยิงประตูได้อย่างถล่มทลายนับตั้งแต่ย้ายมาจากเรดบูล ซัลซ์บวร์ก 

 

ส่วนไลป์ซิก ภายใต้การนำของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ กุนซือมือใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองที่สุดในยุคนี้ก็ประมาทไม่ได้ ด้วยสไตล์การเล่นที่เร้าใจ แถมมีกองหน้าไฟพะเนียงอย่าง ติโม แวร์เนอร์ อยู่ในทีม ถ้าเป็นวันที่เข้าฝักอะไรก็หยุดไม่อยู่ 

 

และถ้ามองสถิติค่า xG (Expected Goals) แล้วไลป์ซิกมีค่าเฉลี่ยดีเป็นลำดับที่ 2 ของบุนเดสลีกา และมีค่าเฉลี่ย xGA (Expected Goals Against) ต่ำที่สุดด้วย ดังนั้นถึงจะมีฟอร์มแกว่งไปบ้าง แต่ถ้ายึดสถิติแล้วตัวเลขมักจะไม่หลอกกัน

 

อื่นๆ ก็มีให้ลุ้นอีกมากมาย

ขณะที่กลุ่มลุ้นไปแชมเปียนส์ลีก ‘สิงห์หนุ่ม’ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ทีมอันดับ 4 และ ‘ห้างขายยา’ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ทีมอันดับ 5 มีคะแนนห่างกันแค่ 2 แต้ม ดังนั้นบี้กันเดือดแน่นอน และเอาเข้าจริงทั้งสองทีมก็ถือว่ามีลุ้นแชมป์แบบห่างๆ อย่างห่วงๆ ด้วย

 

ส่วนในโซนตกชั้นยิ่งมันกว่า นอกจาก พาเดอร์บอน และ แวร์เดอร์ เบรเมน 2 อันดับสุดท้ายที่อาการหนักกว่าเพื่อน โควตาสุดท้ายที่จะต้องเพลย์ออฟกับทีมจากบุนเดสลีกา 2 มีอีกหลายทีมที่ไม่ต้องการมัน โดยระยะห่างระหว่างฟอร์ทูนา ดุสเซลดอร์ฟ อันดับ 16 กับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ในอันดับ 12 ห่างกันแค่ 6 แต้มเท่านั้น ทุกอย่างยังเป็นไปได้

 

ภาพจาก: https://thestandard.co/liverpool-and-timo-werner/

บรรยาย: ติโม แวร์เนอร์ หนึ่งในดาวเด่นที่น่าจับตามองที่สุดเวลานี้

 

Wunderkinds มากมี

หลายปีที่ผ่านมา บุนเดสลีกากลายเป็นลีกแจ้งเกิดของซูเปอร์สตาร์อนาคตไกลมากมาย ซึ่งในปีนี้นอกจาก จาดอน ซานโช เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้วของดอร์ทมุนด์แล้ว ยังมี ‘Wunderkinds’ หรือเด็กมหัศจรรย์อีกหลายคนที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ เครื่องจักรถล่มประตูชาวนอร์เวย์ที่ยิงไป 11 ประตูจาก 11 นัดแรก และที่อยากแนะนำส่วนตัวคือ อัชราฟ ฮาคิมี แบ็กขวาที่สะแด่วแห้วที่สุดของยุโรปในเวลานี้

 

ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวเก่งของเลเวอร์คูเซนวัย 20 ปี ก็เป็นอีกหนึ่งซูเปอร์สตาร์ดาวรุ่งที่ถูกจับตามองอย่างมาก มีสโมสรยักษ์ใหญ่ที่อยากได้ตัวไปร่วมทีม และมีการประเมินค่าตัวเอาไว้ก่อนโควิด-19 ว่าอยู่ในหลัก 100 ล้านยูโร

 

ไลป์ซิก เป็นอีกทีมที่ปั้นนักเตะได้ยอดเยี่ยม โดยปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายของติโม แวร์เนอร์ จิ้งจอกล่าตาข่ายและ ดาโยต์ อูปาเมกาโน ปราการหลังที่หลายทีมยักษ์ใหญ่อยากได้ตัวไปร่วมทัพ ซึ่งก็ชวนติดตามผลงานของทั้งสองคน รวมถึงไลป์ซิกทั้งทีมอย่างยิ่งว่า เล่นอย่างไรถึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวได้

 

นอกจากนี้ยังมี อัลฟอนโซ เดวีส์ แบ็กซ้ายบาเยิร์น มิวนิก ที่อนาคตน่าจะเก่งที่สุดในโลก, เวสตัน แม็กเคนซี กัปตันทีมชาติสหรัฐอเมริกาของชาลเก้ 04 ที่อายุแค่ 21 ปี, มาร์คัส ตูราม กองหน้าลูกชายของ ลิลิยอง ตูราม นักเตะในตำนานและ จิโอ เรย์นา ลูกชาย เคลาดิโอ เรย์นา มิดฟิลด์ในตำนานเมืองลุงแซม ว่าที่ซูเปอร์สตาร์คนต่อไปของดอร์ทมุนด์ต่อจาก คริสเตียน พูลิซิช และซานโช

 

บรรยาย: ซิกนัล อิดูนา พาร์ก ที่ไม่เคยว่าง…จะว่างแบบนี้ไปอีกนาน

 

Das Geisterspiele และความปกติใหม่ในเกมฟุตบอล

Geisterspiele คือ Ghost Game เกมที่ไม่มีคนดู ในตอนแรกเป็นของแปลกใหม่โดยคำคำนี้ถูกหยิบมาใช้เป็นครั้งแรกในเกมบุนเดสลีกานัดระหว่างโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค กับเอฟซี โคโลญจน์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม แต่จากนี้ไปจะกลายเป็นเรื่องปกติแล้วจนกว่ามนุษย์จะหาวิธีชนะหรือป้องกันโควิด-19 ได้อย่างสมบูรณ์

 

โดยจะมีคนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสนามแค่ 213 คน แบ่งเป็น 98 คนในสนาม (นักฟุตบอล, โค้ช, เด็กเก็บบอล, ช่างภาพ) และอีก 115 คนบนอัฒจันทร์ (รวมเจ้าหน้าที่และสื่อ) ส่วนอีกไม่เกิน 100 คนจะได้รับอนุญาตให้อยู่ข้างนอกสนามตามแต่ภาระหน้าที่ที่ต้องทำ

 

และเพราะโควิด-19 เราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ เช่น การที่นักฟุตบอลห้ามจับมือกัน, ไม่มีการถ่ายภาพหมู่, ไม่มีมาสคอตเดินนำลงสนาม, ห้ามถ่มน้ำลายลงบนพื้นสนาม, ภาพการนั่งห่างกันบนม้านั่งสำรอง, ภาพการฉลองประตูที่ห้ามมารวมตัวกัน จะเฮก็เฮไปคนเดียว, ภาพที่นักฟุตบอลและโค้ชต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาที่อยู่ข้างสนาม, ภาพนักฟุตบอลใช้เจลล้างมือก่อนแข่ง หลังแข่ง หรืออาจจะระหว่างแข่ง, ขวดน้ำที่มีชื่อของใครของมัน

 

นอกจากนี้ อาจจะได้เห็นนวัตกรรมการเชียร์แบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ด้วยการกดเฮ กดโห่ หรือกดร้องเพลงกันผ่านแอปพลิเคชันในอนาคตด้วย

 

ภาพจาก: https://thestandard.co/5-new-normal-for-sport-style-in-coronavirus-era/

 

Pappkamerad ตัวแทนของแฟนบอล

อีกหนึ่งภาพที่รอคอยจะได้เห็นในการกลับมาของบุนเดสลีกา คือภาพแฟนบอลจำลองที่พิมพ์จากกระดาษแข็งไปติดไว้ที่เก้าอี้บนอัฒจันทร์ ซึ่งเป็นไอเดียของทีมโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค โดยมีทั้งการติดไว้ที่สนามซ้อมในช่วงเดือนที่แล้ว เพื่อให้กำลังใจนักเตะ

 

และล่าสุดคือการสั่งพิมพ์จำนวนมากเพื่อนำไปติดที่สนามแข่งโบรุสเซีย-พาร์ก ซึ่งมีการติดตั้งไปแล้ว 4,500 คน และยังมีออร์เดอร์อีกนับหมื่นคนที่สั่งทำอยู่ ซึ่งรายได้จากการผลิตภาพจำลองของแฟนๆ นี้ก็เพื่อจุนเจือธุรกิจสิ่งพิมพ์ท้องถิ่นที่ประสบปัญหาจากโควิด-19 ด้วย เรียกว่าสโมสรได้เชื่อมโยงกับชุมชน แฟนบอลได้ส่งกำลังใจ และธุรกิจก็ได้ไปต่อด้วย สุดยอดไอเดียจริงๆ

 

ภาพนี้เราจะได้เห็นในสัปดาห์หน้าในวันที่กลัดบัคจะได้เปิดบ้านรับมือเลเวอร์คูเซน และเชื่อว่าจะเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน และน่าคิดว่าจะมีทีมอื่นที่อยากทำตามบ้างหรือไม่

 

ความหวังของทุกคน

โควิด-19 ทำให้คนทั้งโลกตกอยู่ในสภาพเดียวกัน ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าใครก็ต้องดูแลตัวเอง รักษาระยะห่างกันมาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว และยังไม่รู้ว่ามันจะจบจริงๆ ตอนไหน ซึ่งในระหว่างนี้การที่เกมฟุตบอลกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งก็นำไปสู่คำถามมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของความเหมาะสมว่ามัน ‘ใช่เวลา’ ที่จะมาเตะฟุตบอลกันไหม

 

แต่ในอีกด้านหนึ่งแล้ว ฟุตบอลคือหนึ่งในความสุขของมนุษย์ และเชื่ออย่างยิ่งว่าการกลับมาของเกมฟุตบอลจะช่วยจุดประกายความหวังให้กับทุกคน ให้กลับมาลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง เพราะมันคือสัญญาณว่า ‘ชีวิตปกติ’ แบบเดิมๆ ของเรากำลังสู้อย่างเต็มที่เพื่อที่จะกลับมาเหมือนเดิมให้ได้

 

การกลับมาของบุนเดสลีกาครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของบุนเดสลีกา หรือเรื่องของคนเยอรมัน และไม่ใช่เรื่องเหตุผลทางธุรกิจอย่างเดียว (แม้จะเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักก็ตาม) มันคือสิ่งที่คนทั้งโลกจับตามอง

 

หากทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เราก็มีความหวังที่จะกลับมาได้ อาจจะไวขึ้นกว่าที่คิดด้วย 🙂

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

 


 

ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum

 

FYI
  • หากไม่มีอะไรกระทบรุนแรง คาดว่าบุนเดสลีกาจะปิดฉากได้ในวันที่ 30 มิถุนายน
  • บริษัทข้อมูล Gracenote ฟันธงว่าบาเยิร์น มิวนิก มีโอกาสเป็นแชมป์ 84% ส่วนดอร์ทมุนด์มีโอกาสแค่ 8% และไลป์ซิกมีโอกาส 7%
  • การกลับมานัดแรกมีเกมที่น่าตื่นเต้นมากๆ คือดอร์ทมุนด์พบชาลเก้ 04 ซึ่งเป็นเกมดาร์บี้แห่งแคว้นรูร์ โดยมีถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี PPTV ส่วนใครที่อยากติดตามเกมอื่นๆ ด้วย เกาะติดได้ช่อง Fox Sports ทางทรูวิชั่นส์ และ AIS PLAY 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising