×

Standard อยู่ตรงไหน? ระหว่างใบแดงของซาลิบากับใบเหลืองของโตซิน

21.10.2024
  • LOADING...

ในเกมพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ตุลาคม) เกิดเหตุการณ์ที่น่าสนใจเมื่อ โตซิน อดาราบิโอโย ปราการหลังจอมแกร่งของเชลซี ทำฟาวล์ตัดเกม ดีโอโก โชตา หัวหอกลิเวอร์พูลที่กำลังจะได้หลุดไปจากกลางสนาม

 

จังหวะนี้ผู้ตัดสิน จอห์น บรูกส์ แจกใบเหลืองให้แก่โตซิน เป็นการลงโทษฐานที่ทำโปรเฟสชันนัลฟาวล์

 

ตรงนี้เองที่เป็นประเด็น เพราะในขณะที่โตซินโดนแค่ใบเหลือง แต่ วิลเลียม ซาลิบา กลับโดนใบแดงในจังหวะลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นกองหลังตัวสุดท้ายที่ไปตัดฟาวล์ใส่เอวานิลสันกองหน้าของบอร์นมัธ จนอาร์เซนอลต้องเหลือ 10 ตัวผู่เล่น และแพ้ต่อเดอะเชอร์รีส์ 2-0 เป็นความปราชัยนัดแรกของฤดูกาล

 

คำถามที่ไม่สงวนเฉพาะชาวกูนเนอร์สคือ ทำไมซาลิบาถึงโดนอัปเกรดโทษเป็นใบแดง (ตอนแรกโดนแค่เหลืองเหมือนกัน) แต่โตซินโดนแค่ใบเหลือง

 

มาตรฐานการตัดสินอยู่ตรงไหน?

 

และภาพของ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ประธาน PGMOL หน่วยงานที่กำกับดูแลการตัดสินที่เหมือนโทรศัพท์คุยกับใครหรือเปล่าในจังหวะของซาลิบา และมีนอกมีในอะไรหรือไม่?

 

 

2-0 สำหรับผู้ตัดสิน คือเสียงร้องตะโกนสาปแช่งของแฟนอาร์เซนอลที่ตามไปเชียร์ทีมรักอยู่บนอัฒจันทร์ของ Vitality Stadium ของบอร์นมัธ ซึ่งเป็นการแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการตัดสินของ โรเบิร์ต โจนส์

 

เพราะการตัดสินของโจนส์ส่งผลเสียร้ายแรงต่อพวกเขา ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าความพ่ายแพ้เกมแรกของฤดูกาลหลังผ่านมาถึงนัดที่ 8 จะส่งผลกระทบต่อความหวังในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในบั้นปลายฤดูกาลแค่ไหน เพราะแค่ตอนนี้ก็ตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูลแล้ว 4 คะแนน โดยจะรอพบกันเองด้วยในสัปดาห์หน้าที่เหมือนเป็นแต้มไปกลับถึง 6 คะแนน

 

แต่ถ้าเราบิดเข็มนาฬิกาย้อนเวลากลับไปในจังหวะนาทีที่ 30 ของการแข่งขัน ความจริงแล้วคนที่ก่อความผิดพลาดคนแรกคือ เลอันโดร ทรอสซาร์ด ที่ส่งคืนหลังกลับพลาดเอง ทำให้เป็นโอกาสของเอวานิลสัน กองหน้าชาวบราซิลของบอร์นมัธ ซึ่งมีทั้งความเร็วและความแข็งแกร่งและยังจมูกไวด้วย

 

เอวานิลสันชิงจังหวะออกตัวไปถึงบอลก่อน และทำให้เป็นงานหยาบสำหรับกองหลังอย่างซาลิบาที่ต้องไล่กวดตามกลับไป ซึ่งแม้กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสจะเป็นนักเตะที่มีความเร็วพอตัว แต่จังหวะนี้เขาช้าเกินไปแล้ว โดยเพื่อนๆ ก็ดันสูงและอยู่ห่างเกินกว่าจะไล่กวดได้

 

หากปล่อยไปกองหน้าบอร์นมัธมีโอกาสจะเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ดาบิด รายา ซึ่งมีโอกาสจะเสียประตูสูง

 

การตัดสินใจของซาลิบาคือการเหนี่ยวจากด้านหลังเพื่อให้เสียจังหวะล้มลงไป เป็นการตัดฟาวล์แบบจำใจพร้อมรับบทลงโทษ ในจังหวะที่เรียกว่า Denial of a Goal Scoring Opportunity (DOGSO) หรือการขัดขวางโอกาสในการทำประตู

 

ประเด็นอยู่ที่ทีแรกผู้ตัดสิน โรเบิร์ต โจนส์ ให้แค่ใบเหลืองกับซาลิบาก่อน แต่มีการให้ความเห็นจาก VAR และทำให้มีการเพิ่มโทษจากใบเหลืองเป็นใบแดงโดยตรง ตามกฎว่าด้วยการเป็นกองหลังตัวสุดท้ายที่ทำโปรเฟสชันนัลฟาวล์ใส่คู่แข่งที่กำลังจะหลุดไปมีโอกาสในการทำประตู

 

การตัดสินนี้ลำพังก็ทำให้กูนเนอร์สทั่วโลกไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ที่ทำให้หลายคนเดือดขึ้นไปใหญ่คือภาพของ ฮาเวิร์ด เว็บบ์ ประธาน PGMOL ที่กำกับดูแลผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก ทำให้เกิดการตั้งคำถามบนโลกโซเชียลมีเดียว่า มีการโทรไปบอกอะไรใครหรือเปล่าถึงมีการเปลี่ยนการตัดสินจังหวะนี้

 

โตซิน

 

เว็บบ์คุยกับใคร?

 

หลายคนอยากรู้ว่าภาพของเว็บบ์ที่เหมือนต่อสายโทรศัพท์นั้น ปลายสายที่ว่าคือใคร?

เรื่องนี้ข้อเท็จจริงคือประธาน PGMOL ไม่ได้คุยกับใครทั้งนั้น

สิ่งที่เว็บบ์​ – ซึ่งนั่งดูเกมอยู่ด้วยที่ Vitality Stadium – ไม่ใช่การคุยโทรศัพท์ แต่เป็นการฟังการสื่อสารระหว่างผู้ตัดสินในสนามคือโจนส์ กับผู้ตัดสิน VAR เกี่ยวกับการพิจารณาในจังหวะนี้เท่านั้น ไม่ได้มีการแทรกแซงการทำงานของผู้ตัดสินทั้งในสนามและผู้ตัดสิน VAR แต่อย่างใด

 

โดยการฟังการสื่อสารนั้นในฐานะประธาน PGMOL เว็บบ์ทำเพื่อตรวจสอบการทำงานเพื่อจะประเมินในภายหลังนั่นเอง

 

 

ทำไมคนนี้แดงแต่คนนั้นเหลือง?

 

ความจริงถ้ามีเหตุการณ์ของซาลิบาแค่เหตุการณ์เดียวก็อาจไม่ได้ถึงกับเป็นประเด็นมากนัก เพราะในแง่ของเกมฟุตบอลแล้วการทำฟาวล์ตัวสุดท้ายต้องโดนใบแดงก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ (ต่อให้จะไม่พอใจก็เถอะ)

 

แต่เรื่องนี้มีเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ขึ้นมาทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์คล้ายกันแต่ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน

 

ในเกมที่แอนฟิลด์ โตซิน อดาราบิโอโย ปราการหลังของเชลซีก็ทำฟาวล์ตัดเกม ดีโอโก โชตา คล้ายๆ กับที่ซาลิบาทำฟาวล์ใส่เอวานิลสัน ในจุดที่ใกล้กันด้วยคือเลยครึ่งสนามมาไม่ได้มากนัก

 

ผู้ตัดสิน จอห์น บรูกส์ มองว่าจังหวะนี้เป็นใบเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับโจนส์ที่ให้ใบเหลืองกับซาลิบาเช่นกัน แต่ความต่างกันคือไม่มีการแทรกแซงจาก VAR ว่าจังหวะนี้ถือเป็นการทำฟาวล์ตัดเกมอันตรายที่ควรจะเป็นใบแดง

 

เรื่องนี้เป็นคำถามสำหรับแฟนอาร์เซนอลว่า ทำไมการตัดสินถึงมีมาตรฐานที่ไม่เหมือนกัน? Standard ของการตัดสินอยู่ตรงไหน

 

อย่างไรก็ดีในมุมผู้เชี่ยวชาญแล้ว สองเหตุการณ์ของซาลิบากับโตซินถึงจะคล้ายกันแต่ก็ไม่เหมือนกัน

 

ความต่างอยู่ที่จังหวะของซาลิบานั้น เอวานิลสันฉีกตัวไปแล้วโดยที่กองหลังชาวฝรั่งเศสเป็นคนที่ใกล้ที่สุดและเป็นคนสุดท้ายที่จะถึงตัวได้ โดยเพื่อนร่วมทีมของเขาอยู่ห่างจากบอลและกองหน้าชาวบราซิลมาก มีการวัดระยะห่างระหว่าง เบน ไวท์ กับดาวยิงบอร์นมัธได้ราว 30 หลาด้วยกัน

ขณะที่จังหวะของโตซินนั้น โชตายังไม่ถึงกับฉีกตัวไปอย่างชัดเจนนัก ทั้งคู่มีจังหวะชิงเหลี่ยมกันเล็กน้อย และไม่ห่างกันมากยังมี ลีวาย โคลวิลล์ อีกหนึ่งกองหลังเชลซีที่มีโอกาสจะตามมาช่วยได้ทัน

 

“เป็นความทะเล่อทะล่าของโตซินเอง จังหวะนี้โคลวิลล์อยู่ไม่ไกลแล้วในจังหวะที่บอลกำลังจะกระเด้งหนีไป” ไมค์ ดีน อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีกร่วมอภิปรายด้วย

 

แต่สำหรับมุมมองของ มาร์ค ฮัลซีย์ อดีตผู้ตัดสินเช่นกัน มองว่าใบแดงของซาลิบาที่ได้รับนั้นถือว่าใจร้ายไปสักหน่อย บางทีการตัดสินในครั้งแรกของโจนส์ที่ให้เป็นแค่ใบเหลืองอาจจะถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมมากกว่า เพราะมองว่าตาม DOGSO แล้ว จังหวะนี้เอวานิลสันอาจจะยังไม่ถึงกับมีโอกาสลุ้นทำประตูชัดเจนขนาดนั้น

 

โตซิน

ปืนใหญ่หัวร้อนต้องระวัง?

 

จุดที่น่าสนใจอีกเรื่องนอกจากคำถามและความสงสัยในระหว่างใบแดงของซาลิบากับใบเหลืองของโตซินคือ เรื่องการโดนใบแดงของอาร์เซนอล

 

ใบแดงของซาลิบา ซึ่งเป็นใบแดงแรกในชีวิตการเป็นนักเตะกับอาร์เซนอล ถือเป็นใบแดงที่ 3 แล้วสำหรับทีมของมิเกล อาร์เตตา ในฤดูกาลนี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดฉากฤดูกาลมาได้เพียงแค่ 8 นัดเท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ

2 ใบแดงก่อนหน้านี้มาจากเกมที่พบกับไบรท์ตันแอนด์โฮฟอัลเบียน เมื่อ ดีแคลน ไรซ์ โดนใบเหลืองและแดงไล่ออกจากสนามในช่วงต้นครึ่งหลัง จากจังหวะที่หลายคนเห็นใจเพราะไปสะกิดบอลทิ้งนิดเดียวที่ริมสนาม

 

อีกใบเกิดขึ้นในเกมที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงท้ายครึ่งแรกเมื่อ เลอันโดร ทรอสซาด์ ก็โดนใบเหลืองและแดงไล่ออกจากสนามเพราะจังหวะไปหวดบอลทิ้งแบบเสียท่าเหมือนกัน

 

ใน 2 เกมดังกล่าวอาร์เซนอลยังประคองตัวเก็บ 1 แต้มได้ แต่ในเกมกับบอร์นมัธซึ่งพวกเขาต้องเล่น 10 คนนานถึง 60 นาที ทีมของอาร์เตตาต้านทานเอาไว้ไม่ไหว มาเสียท่าเจ้าบ้านในช่วงครึ่งหลังจากประตูของ มัลคอล์ม คริสตี ที่ย้อนเกล็ดด้วยการเล่นสูตรเตะมุมใส่ทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นจ้าวแห่งลูกตั้งเตะ และอีกประตูจากความผิดพลาดในการจ่ายคืนหลังไม่ดีจนทำให้เสียจุดโทษ จัสติน ไคลเวิร์ต ลูกชายอดีตหัวหอกทีมชาติเนเธอร์แลนด์สังหารเข้าไป

 

เท่ากับ 3 นัดที่เหลือ 10 ตัวอาร์เซนอลเก็บได้แค่ 2 จาก 9 คะแนนเต็ม และดูมีปัญหาไม่น้อยเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

 

นี่คือสิ่งที่อาร์เตตาและลูกทีมต้องพยายามเลี่ยงให้มากขึ้นในช่วงหลังจากนี้ หากยังหวังที่จะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่

 

จริงอยู่ที่อาร์เซนอลเคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้โดยที่เคยโดนใบแดงถึง 6 ใบในฤดูกาล 2001/02 ในสมัยของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่ฟุตบอลในยุคนั้นแตกต่างจากยุคนี้มาก การขับเคี่ยวกับคู่แข่งที่ผิดพลาดน้อยและตายยากอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (และอาจรวมถึงลิเวอร์พูล) การผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยสามารถส่งผลได้มากมาย

 

โดยเป็นครั้งแรกนับจากฤดูกาล 2011/12 ที่อาร์เซนอลมีผู้เล่นโดนไล่ออกจากสนาม 3 คนจาก 8 นัดแรกของฤดูกาล

 

อลัน เชียเรอร์ ตำนานศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษให้ความเห็นเรื่องนี้ในรายการ Match of the Day ว่า “พวกเขาต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ ตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขาจะเก็บแต้มได้ไม่พอแน่ๆ ถ้ายังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้”

 

สิ่งที่เสียหายอย่างมากสำหรับใบแดงของซาลิบาคือ เขาจะพลาดเกมกับลิเวอร์พูลในวันอาทิตย์นี้ และจะเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับทีมของอาร์เตตา

 

เพราะเกมนี้จะพลาดอีกไม่ได้แล้ว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X