×

คุยกับ William Malek ว่าด้วยเรื่อง Design Thinking ที่ไม่ต้องตีตั๋วไปเรียนไกลถึง Stanford [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
05.02.2019
  • LOADING...

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในหัวหน้างาน ผู้บริหารองค์กร หรือเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง เชื่อแน่ว่าคุณต้องเคยได้ยินคำว่า Design Thinking ซึ่งเป็นกระบวนการทางนวัตกรรมที่สอนเราเกี่ยวกับความสร้างสรรค์และการออกแบบเชิงนวัตกรรมที่มาแรงที่สุดแห่งยุค และเป็นที่รู้กันว่าบางส่วนของทฤษฎี Design Thinking เกิดขึ้นจากการค้นพบของศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่สร้างผลสำเร็จอย่างมากมายในเรื่องผลิตภัณฑ์ โดยมีหลักฐานเป็นความสำเร็จระดับมหภาคขององค์กรระดับโลกหลายแห่งอย่าง Apple, IBM, Nike, P&G ฯลฯ ที่นำแนวคิด Design Thinking ไปปรับใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และกลยุทธ์ทางธุรกิจ จนสามารถช่วงชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในโลกธุรกิจที่มีความผันผวนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

แบบนี้แปลว่าหากทีมจากองค์กรไทยต้องการเข้าถึงหลักสูตร Design Thinking ก็ต้องลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลไปลงทะเบียนเรียนกันถึงถิ่นสแตนฟอร์ดเพื่อนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาบริษัทเลยหรือ

 

ข่าวดีคือคุณไม่ต้องลงทุนเดินทางไกลขนาดนั้น เพราะตอนนี้ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน หรือ SEAC (Southeast Asia Center) ได้นำเข้าหลักสูตร Design Thinking มาเสิร์ฟผู้นำ นักออกแบบ และนักนวัตกรรมสัญชาติไทยโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือไม่ได้มาแค่ตัวหลักสูตร แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญตัวจริงเรื่อง Design Thinking อย่าง วิลเลียม มาเหล็ก มาเป็นวิทยากรด้วยตัวเอง

 

อ่านมาถึงตรงนี้คงมี 3 คำถามที่คุณสงสัยว่าอะไรคือ Design Thinking อะไรคือ SEAC ใครคือวิลเลียม มาเหล็ก และ 3 สิ่งนี้มีความสำคัญและมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรบ้าง

 

เริ่มกันที่ SEAC (Southeast Asia Center) หรือศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ถือเป็นองค์กรชั้นนำแห่งอาเซียนที่มาพร้อมวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าให้องค์กรต่างๆ ที่เน้นการสร้างทักษะผู้นำ นวัตกรรม และการเปลี่ยนแปลงมาสู่องค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล

 

โดยส่วนประกอบสำคัญคือการนำประสบการณ์การบริหารองค์กรระดับโลกมาสร้างเป็นเนื้อหาที่ดีที่สุดและประยุกต์เข้ากับบริบทของอาเซียน โดยวิทยากรและนักคิดผู้เชี่ยวชาญในประเทศของ SEAC

 

มากไปกว่านั้น SEAC ได้รวบรวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ การประเมินผล และกรอบความคิดในการบริหารธุรกิจหลายแขนงจากทั่วโลกมาปรับปรุงคอร์สและโปรแกรมที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าได้ยกระดับความสามารถ ทักษะ และความเข้าใจเชิงลึกในการเป็นผู้นำ นักนวัตกรรม และผู้ขับเคลื่อนธุรกิจได้จริงในบริบทขององค์กรและธุรกิจนั้นๆ

 

และด้วยประสบการณ์อย่างยาวนานของ SEAC ในการออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้และการประยุกต์เอาความรู้มาใช้ บริษัทและองค์กรจะสามารถเพิ่มศักยภาพไปจนถึงสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันที่รวดเร็วมากขึ้น และประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

หนึ่งในนักคิดและวิทยากรแถวหน้าในโลกธุรกิจคนสำคัญก็คือ วิลเลียม มาเหล็ก อดีตซีอีโอและที่ปรึกษาทางธุรกิจ ทั้งยังเป็นอาจารย์ที่มีประสบการณ์ในโลกธุรกิจที่เกี่ยวกับนวัตกรรม Disruptive หรือนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในตลอดประสบการณ์การทำงาน วิลเลียมสั่งสมความชำนาญผ่านชั่วโมงบินในการเป็นวิทยากรที่เน้นไปที่การสอนกลุ่มผู้บริหารระดับสูง โดยเนื้อหาที่วิลเลียมสอนมักจะเกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์และโครงการที่ซับซ้อนทางด้านนี้มามากกว่า 10,000 ชั่วโมง ทั้งยังเคยเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินแผนงานสู่การปฏิบัติจริง เป็นเจ้าของหนังสือที่จัดพิมพ์โดย Harvard Business เกี่ยวกับเรื่องกลยุทธ์และการปฏิบัติ เขาเคยร่วมงานกับผู้บริหารในบริษัทชั้นนำของ Fortune 500 ในสายงานธุรกิจต่างๆ มามากกว่า 45 บริษัท ครอบคลุม 5 ทวีป ใน 12 ประเภทอุตสาหกรรม อาทิ Chevron, IBM, Qualcomm, Cisco ฯลฯ ที่สำคัญคือวิลเลียมเคยดำรงตำแหน่ง Program Director ให้กับหลักสูตร Stanford Advanced Project Management (SAPM) แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พร้อมทั้งเคยนำหลักสูตร Design Thinking มาใช้สำหรับผู้จัดการโครงการโดยผ่านหลักสูตร SAPM และได้ประยุกต์หลักการความคิดของหลักสูตรนี้ในหลายๆ วิธีที่แตกต่างกันไปใช้กับการทำงานจนประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย

 

 

นอกจากนี้วิลเลียมยังเคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Instructor อันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ผู้รับหน้าที่ถ่ายทอดวิชาในหลายๆ หลักสูตร เช่น Converting Strategy into Action, Mastering the Project Portfolio, Leadership for Strategic Execution ฯลฯ พร้อมๆ กับการเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพหลายต่อหลายแห่ง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการวางแผนกลยุทธ์ผ่าน Online Marketing Technology & Service เท่ากับว่าไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่แค่ไหน วิลเลียมก็เอาอยู่ด้วยทุกแผนงาน Design Thinking ที่มีในมือตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของเขาจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของเจ้าตัว และเป็นโอกาสอันดีของผู้บริหารองค์กรชาวไทยที่มีโอกาสได้เรียนรู้จากกูรูตัวจริงคนนี้ผ่านหลักสูตร Design Thinking ที่จะมอบความสำเร็จทางธุรกิจเป็นผลลัพธ์ในท้ายที่สุด และหวังว่าคุณจะได้ค้นพบว่าทำไม Design Thinking ถึงได้เป็นอะไรที่คนทั่วโลกประทับใจอย่างมากมาย

 

Design Thinking เป็นองค์ประกอบลับที่หลายๆ องค์กรนิยม เพราะหลายคนเชื่อว่า Design Thinking เป็นกระบวนการนวัตกรรมและความคิดที่สามารถปฏิวัติอุตสาหกรรมหรือธุรกิจได้ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการทางความคิดเชิงวิทยาศาสตร์ของศตวรรษที่ 21 เลยด้วยซ้ำ เพราะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกระบวนการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดี โดยเฉพาะถ้าปัญหานั้นเกี่ยวกับเรื่องคน (Human Centric Problem) ดังนั้นผู้ที่นำ Design Thinking มาใช้อย่างแท้จริงจะเริ่มจากการตั้งคำถามที่ถูกต้องได้ตั้งแต่เริ่มต้น หลายๆ ธุรกิจอาจจะไม่มีคำตอบเลย เพราะตั้งคำถามผิด เราจึงต้องแก้วิธีการตั้งคำถามโดยเน้นไปที่ปัญหาจริงๆ ของลูกค้า แล้วจึงพัฒนาต่อยอดให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีขึ้น ก่อนที่วิลเลียมจะเล่าต่อถึงการจับคู่สถานการณ์ในบ้านเมืองไทยกับการนำหลักสูตร Design Thinking มาประยุกต์ใช้

 

 

“ยกตัวอย่างเมื่อสิบปีที่แล้ว ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของโลกค่อนข้างคงที่ แต่ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า 55% ของแรงงานไทยอาจจะไม่มีงานทำ เพราะโรงงานส่วนใหญ่จะใช้สมองกลหรือแขนกลในการทำงานเป็นหลัก และ 70% ของเด็กที่จบใหม่จะตกงาน เพราะทักษะที่เรียนในหลักสูตรของมหาวิทยาลัยไม่สามารถนำมาใช้กับการทำงานได้จริง เมื่อเราเจอปัญหาทั้งเด็กจบใหม่และแรงงานที่ไม่มีงานทำก็จะเกิดปัญหาสังคมตามมามากมาย ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการศึกษา อุตสาหกรรม ธุรกิจ ฯลฯ ดังนั้นก็ต้องกลับมาถามประเทศไทยว่ามีแผนจะรับมือกับปัญหา รวมถึงปรับปรุงและรักษาคนเก่งอย่างไร” ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบของหลายๆ ปัญหาก็คือการนำกลยุทธ์ต่างๆ ในหลักสูตร Design Thinking มาปรับใช้นั่นเอง แต่การรู้จักเพียงหลักสูตรอาจจะไม่สามารถนำมาใช้ได้โดยตรง คุณต้องทำได้มากกว่านั้น คือต้องหัดที่จะเป็นองค์กรชั้นนำในการประยุกต์นวัตกรรม และที่สำคัญคือการปฏิบัติ เอาความคิดสร้างสรรค์มาใช้ได้จริง และนี่เองคือจุดต่างที่ทำให้หลักสูตร Design Thinking ของ SEAC นำโดยวิทยากรอย่าง วิลเลียม มาเหล็ก จึงแตกต่าง มีเอกลักษณ์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้

 

“ทำไม Design Thinking ของที่นี่ถึงพิเศษกว่าเจ้าอื่น เพราะเรามีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ Flipped Classroom หรือ ห้องเรียนกลับด้าน ปกติเรามักเห็นอาจารย์เป็นผู้สอนฝ่ายเดียว แต่ที่นี่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้จริงในห้องเรียน โดยวิทยากรจาก Stanford d.school โดยอาจารย์จะคอยตั้งคำถามชวนคิดและมีกิจกรรมให้กับนักเรียนที่เข้าอบรม และมีทั้งวิทยากรที่สอนได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กันไป นอกจากนี้เราไม่ได้สอนแค่ทฤษฎีเชิงวิชาการเท่านั้น แต่เทรนเนอร์แต่ละคนของเราล้วนเป็นผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ในหลากหลายวงการที่พร้อมจะแชร์ทั้งความรู้และประสบการณ์ในการทำงานจริงสู่กันฟัง ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่ทรงพลังมาก ที่สำคัญคือไม่ได้ยกมาเฉพาะตัวอย่างของต่างชาติเท่านั้น แต่ยังนำเคสที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมาแชร์เพื่อให้นำไปประยุกต์ใช้ในบริบทเมืองไทยได้จริงด้วย

 

“ความพิเศษในการคัดสรรวิทยากร Design Thinking ของที่นี่คือต้องรู้ลึกถึง 3 ระดับชั้น เพราะวิทยากรที่มีประสบการณ์และรู้ลึกเนื้อหานั้นถึง 3 ชั้นจะทำให้ผู้เข้าอบรมรู้สึกว่า ว้าว! อาจารย์ไม่ได้เป็นแค่ด็อกเตอร์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นคนที่รู้ลึกและรู้จริง สามารถสอนแบบประยุกต์ให้เข้ากับบริบทของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยมีวิธีการตั้งคำถามที่ชวนคิด เมื่อวิทยากรแต่ละคนเป็นเทพของวิชานั้นๆ ผู้มาเรียนจะยิ่งมั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่ได้เป็นเพียงผู้โง่เขลาที่เอาแต่ถือเครื่องมืออย่างแน่นอน

 

“Design Thinking เป็นเรื่องของมุมมอง ทัศนคติ และกระบวนการผสมผสานคู่กันไป เราเริ่มจากขั้นตอนแรกที่ในท้องตลาดไม่มีคือ Deep Dive ซึ่งหากผู้บริหารหรือผู้นำองค์กรไม่เข้าใจกรอบความคิดนี้ รับประกันได้ว่าคุณเสียเงินฟรี ลงทุนเรียนไปก็ไม่เกิดผลประโยชน์กับองค์กรอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรมหรือกลยุทธ์เชิงนวัตกรรม เพราะว่า Design Thinking สอนให้เราทดสอบ และที่สำคัญคือหัดล้มเหลวให้เป็น แต่ไม่ใช่ล้มเหลวเพียงอย่างเดียว ต้องเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในความล้มเหลวของตัวเองด้วย เจ็บแล้วจำ ขั้นต่อไปคือลงมือทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

 

 

สุดท้ายสิ่งสำคัญที่กูรูประจำหลักสูตรอย่าง วิลเลียม มาเหล็ก อยากทิ้งท้ายให้ได้คิดก็คือความรู้ต้องมาคู่กับทัศนคติที่ดี เพราะว่า Design Thinking คือทัศนคติบวกกับมุมมอง เป็นการผสมผสานสองสิ่งนี้เพื่อให้เกิดกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นสิ่งจะทำให้ทีมในองค์กรของคุณสร้างนวัตกรรมขึ้นได้

 

เกริ่นคร่าวๆ เพียงเท่านี้ หาก Design Thinking หลักสูตรไม่นิ่งที่สามารถนำไปใช้ขับเคลื่อนองค์กรและวิถีชีวิตที่จะมุ่งไปข้างหน้าในโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่าพลาดโอกาสสำคัญในการเรียนรู้

 

โอกาสพิเศษสุดสำหรับองค์กรที่กำลังมองหาแนวทางในการสร้างนวัตกรรม แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร วิลเลียม มาเหล็ก Executive Academic Director แห่ง SEAC พร้อมจัด Exclusive Design Thinking Deep Dive เพื่อบรรยายและร่วมเสวนากับองค์กรที่สนใจ โดยสามารถลงทะเบียนหรืออ่านรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/seacdt2 หรือติดต่อคุณปุณณมา โทร. 09 6065 1647

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

FYI

วิลเลียม มาเหล็ก

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Strategic Planning Process มีความชำนาญในวงการ Innovation & Execution การคิดและการวางแผนกลยุทธ์ในด้านการสร้างนวัตกรรมในองค์กร เป็นที่ปรึกษาให้กับการวางแผน Strategy Design มีการทำงานร่วมกับผู้บริหารบริษัทชั้นนำ Fortune 500 ในสายงานธุรกิจต่างๆ มากกว่า 45 บริษัทที่ครอบคลุม 5 ทวีปของอุตสาหกรรมประเภท Chevron, IBM, Cisco และเคยดำรงตำแหน่ง Program Director ให้กับหลักสูตร Stanford Advanced Project Management Program ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มีประสบการณ์ทำงานด้านอุตสาหกรรมผลิตแก๊สและพลังงานมากกว่า 15 ปี  ได้รับรางวัลในด้านการปรับปรุงนวัตกรรมในการประหยัดพลังงานจาก Edison Electric Institute Innovation of the Year Award ในด้านการผลิตและการทำตลาดกับระบบเชื้อเพลิงที่ใช้ Natural Gas Vehicle (NGV)

อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Instructor อันดับต้นๆ ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในหลักสูตร Converting Strategy into Action, Mastering the Project Portfolio, Leadership for Strategic Execution และเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในการดำเนินแผนธุรกิจ Online Marketing Technology & Service ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนหนังสือวิชาการ Executing Your Strategy: How to Break it Down & Get it Done ซึ่งถูกตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ The Harvard Business School Press ในปี 2008

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising