Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ ได้ถูกถอดออกจากดัชนี S&P 500 ESG ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเดตประจำปี แต่ในทางกลับกัน Apple, Microsoft, Amazon และแม้แต่บริษัทข้ามชาติน้ำมันและก๊าซอย่าง ExxonMobil ก็ยังติดในทำเทียบได้
ดัชนี S&P 500 ESG ใช้ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล เพื่อจัดอันดับและแนะนำบริษัทต่างๆ ให้กับนักลงทุน เกณฑ์ดังกล่าวบอกถึงวิธีที่ธุรกิจส่งผลกระทบต่อโลกและปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียนอกเหนือจากผู้ถือหุ้น ซึ่งรวมถึงลูกค้า พนักงาน ผู้ขาย คู่ค้า
การเปลี่ยนแปลงดัชนีมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม โดย S&P ให้เหตุผลที่ Tesla ถูกถอดมาจาก ‘การขาดกลยุทธ์คาร์บอนต่ำ’ และ ‘หลักจรรยาบรรณทางธุรกิจ’ และยังอ้างถึงข้อกล่าวหาเรื่องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและสภาพการทำงานที่ย่ำแย่ที่โรงงานของ Tesla ในเมืองฟรีมอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจาะเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืนผ่าน ESG Stock
- ESG เมกะเทรนด์แห่งโลกการลงทุน
- Tesla โชว์ผลดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2021 โตกว่า 900 ล้านดอลลาร์ แต่ห่วงปัญหาชิปขาดแคลน ทำให้ปีนี้อาจไม่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่
เชื่อว่าการหลุดอันดับครั้งนี้ยังได้รับอิทธิพลจากการจัดการสอบสวนจากองค์การบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ หลังจากการเสียชีวิตและการบาดเจ็บหลายครั้งเชื่อมโยงกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ของ Tesla หรือที่เรียกว่า Autopilot
Tesla เป็นหุ้นที่มีน้ำหนักมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ในดัชนี ก่อนที่จะถูกลบออก โดยเป็นรองจาก Apple, Microsoft และ Amazon ขณะที่ในปีนี้ ExxonMobil ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ได้ติดอยู่ในอันดับที่ 9
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกลายเป็นการจุดระเบิดให้กับมัสก์ซึ่งออกมากล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “Exxon ติดอันดับท็อป 10 ของโลกในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) โดย S&P 500 ในขณะที่ Tesla ไม่ได้ติดอันดับ!
“ESG เป็นการหลอกลวง นี่เป็นความยุติธรรมทางสังคมจอมปลอม” มัสก์กล่าว โดยรายงานจาก The New York Times ระบุว่า S&P ไม่ได้ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นทันทีว่าทำไม Exxon ถึงติดอันดับ และ Tesla หลุดออกมา
โดย Tesla โต้แย้งว่า ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นสามารถได้รับการจัดอันดับ ESG ที่สูงขึ้น แม้ว่าพวกเขาแทบจะไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และดำเนินการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป
ก่อนหน้านี้ Tesla ต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากนักลงทุนที่กล่าวว่า ได้เปิดเผยข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับผลกระทบของการผลิตหรือแนวทางปฏิบัติด้านแรงงาน
ในขณะที่ภารกิจของ Tesla คือเร่งการเปลี่ยนผ่านของโลกไปสู่พลังงานที่ยั่งยืน ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ Tesla ได้ตกลงกับสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมหลังจากละเมิดพระราชบัญญัติอากาศสะอาดมาหลายปี และละเลยการติดตามการปล่อยมลพิษของตนเอง
Tesla ยังเปิดเผยว่ากำลังถูกสอบสวนเรื่องการจัดการขยะในรัฐแคลิฟอร์เนีย และต้องจ่ายค่าปรับในเยอรมนีหากไม่สามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่ ‘รับคืน’ แบตเตอรี่ที่ใช้แล้วในประเทศได้
อย่างไรก็ตามนอกจาก Tesla แล้วยังมียักษ์ใหญ่อื่นๆ ที่หลุดออกจากดัชนี S&P 500 ESG ไม่ว่าจะเป็น Chevron, Delta Air Lines, Home Depot และ News Corp เป็นต้น
อ้างอิง: