ในยุคดิจิทัลที่การทำงานจากระยะไกลและการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์เป็นเรื่องธรรมดา คนส่วนใหญ่จึงเชื่อว่า การมีเครื่องพิมพ์ในธุรกิจหรือสำนักงานเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว 

 

เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ ‘ยุคไร้กระดาษ’ หรือ Paperless ซึ่งนอกจากความสะดวกแล้ว ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยคาร์บอนฟุตพรินต์ที่น้อยลงอีกด้วย

 

จุดนี้เองทำให้ธุรกิจจำนวนมากกำลังประเมินความต้องการอุปกรณ์สำนักงานแบบเดิมเสียใหม่ ทว่า คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ ‘เครื่องพิมพ์’ ยังจำเป็นสำหรับธุรกิจสมัยใหม่หรือไม่

 

ด้วยเหตุนี้ เราจึงอยากชวนมาดำดิ่งสู่เหตุผลอันน่าอัศจรรย์ว่า ทำไมเครื่องพิมพ์ยังคงเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลในปัจจุบัน

 

 

กระดาษยังจำเป็นต่อธุรกิจ!

อย่างแรกคือ แม้ธุรกิจของคุณเข้าสู่ยุคไร้กระดาษ ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจอื่นๆ จะเป็น Paperless ด้วยเหตุนี้เอกสารที่เป็นกระดาษจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อธุรกิจ โดยเฉพาะเอกสารทางกฎหมายจำนวนที่ต้องใช้ลายเซ็นจริง เพื่อยืนยันความถูกต้อง

 

ซึ่งหากคุณยังไม่รู้ว่าเครื่องพิมพ์แบบไหนจะเหมาะกับธุรกิจ เราขอแนะนำ ‘HP LaserJet Managed ซีรีส์ E800/E700’ ที่มาพร้อมประสิทธิภาพอันทรงพลังที่ให้การทำงานคล่องตัวยิ่งขึ้น

 

 

ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์อันทรงพลังของโปรเซสเซอร์ Quad-core ของ HP เช่น FCOT (First Copy Out Time – ความเร็วของพิมพ์เอกสารหน้าแรก) การสแกนที่รวดเร็วและความเร็วในการพิมพ์สูงสุดถึง 70 หน้าต่อนาที

 

ฟีเจอร์ Flow มีทั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับอัตโนมัติ การแก้ไขงานดิจิทัลบนหน้าจอ และการสแกน / ส่งออกไปได้หลายจุดหมายปลายทาง โดยสามารถสแกนภาพแบบดูเพล็กซ์ได้เร็วถึง 300 หน้าต่อนาที และความเร็ว OCR ที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นอีก รวมทั้งเทคโนโลยีย้อนกลับและส่งคำขอซ้ำ (Reverse and Retry) สำหรับการป้อนครั้งละหลายงาน

 

 

ปลอดภัยด้วยพิมพ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม

ขณะเดียวกันแม้โลกดิจิทัลนั้นยอดเยี่ยม ทำให้เราสามารถทำงานบน Google Docs หรือ Microsoft Office 365 ลดความจำเป็นในการใช้เอกสารจริงลงอย่างมาก แต่ในทางกลับกัน หากไม่ระวังให้ดีก็อาจถูกเข้าถึงข้อมูลจากแฮกเกอร์

 

ดังนั้นสำเนาเอกสารจึงปลอดจากการจากแฮ็ก เทียบให้เห็นภาพก็เหมือนคุณมีเสื้อคลุมซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำจากกระดาษ ที่เข้ามาปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณจากอันตรายของจักรวาลออนไลน์

 

 

แต่หากคุณใช้ HP LaserJet Managed ซีรีส์ E800/E700 คุณก็จะได้รับการเสริมด้วยความปลอดภัยการพิมพ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรมจาก HP Wolf Security ที่จะเข้ามาปกป้ององค์กรและอุปกรณ์ต่างๆ จากการโจมตีทางไซเบอร์ได้เหนือชั้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหน เมื่อไร หรืออย่างไร

 

โดยมีการป้องกันมัลแวร์ด้วยการดำเนินการจาก CPU หยุดการโจมตีแบบฟิชชิ่ง (โจรกรรมทางข้อมูล) และแรนซัมแวร์ได้ พร้อมกับลดจำนวนการแจ้งเตือนโดยรวม ตลอดจนค้นหาตำแหน่ง ล็อก และล้างข้อมูล PC ที่สูญหายหรือถูกขโมยจากระยะไกล HP Protect and Trace ปกป้องข้อมูล ลดภาระในการดำเนินงาน และสามารถกำจัดการแจ้งเตือนการรั่วไหลของข้อมูล ระบบยังได้ตรวจสอบอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาพฤติการณ์ที่ผิดปกติและซ่อมแซมตนเอง

 

 

ฉะนั้นเราจึงหายห่วง เพราะมี HP Wolf Security ช่วยให้เราอุ่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

 

เสน่ห์ที่ยั่งยืนของหมึกและกระดาษ!

บนโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ ความพึงพอใจของลูกค้าคือกุญแจสู่ธุรกิจที่เจริญรุ่งเรือง…จริงไหม? ซึ่งหากลูกค้าต้องการเอกสารที่จับต้องได้มากกว่า PDF การมีเครื่องพิมพ์จะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามารองรับความต้องการของลูกค้า

 

 

ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รายงาน โบรชัวร์ หรือข้อเสนอต่างๆ ที่สื่อสิ่งพิมพ์สามารถสร้างความประทับใจได้มากขึ้น

 

แม้หลายคนอาจจะมองว่า เฉย! กับเอกสารที่เป็นกระดาษ แต่บางครั้งเราก็ต้องยอมรับว่า เอกสารที่พิมพ์ออกมาสามารถช่วยสร้างสรรค์ในแบบที่ดิจิทัลก็ให้ไม่ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นเสน่ห์ที่ยั่งยืนของหมึกและกระดาษ!

 

แน่นอนว่าบางคนอาจมองหมึกและกระดาษเป็นสิ่งของสิ้นเปลือง แต่ความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นที่เครื่องพิมพ์มีให้นั้นมีค่ามากกว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ซึ่ง HP เองก็อุดช่องว่างด้วยผงหมึกแท้ ที่แม้เหลือน้อยก็พิมพ์ได้โดยไม่สะดุด ด้วยฟีเจอร์ Toner Reserve ตัวเลือกตลับหมึกพิมพ์ความจุสูงสำหรับการพิมพ์งานที่หนักหน่วง

 

 

สู่ความยั่งยืน

ในส่วนของความยั่งยืนที่กำลังเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจต่างให้ความสนใจ ซึ่งเรื่องนี้สบายใจได้หากใช้ HP เพราะบริการ Managed Print Service รายแรกของโลกที่ได้รับการรับรองว่า มีความเป็นกลางทางคาร์บอนครอบคลุมที่สุด

 

โดยมีการพิมพ์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ได้รับการรับรอง ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและวัดผลความคืบหน้าในการลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงแสดงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและให้การสนับสนุนแก่ชุมชน

 

 

ซึ่งจากการประเมินโดย Keypoint Intelligence พบว่า เครื่องพิมพ์ของ HP จำนวน 24 รุ่น มีการใช้พลังงานที่ลดลง 10% เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ทำให้ได้รับรางวัล BLI Most Energy Efficient Laser A3

 

การใช้พลังงานที่ลดลงนั้นจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศได้อีกด้วย

 

ทั้งหมดสะท้อนได้ว่า แม้ยุคดิจิทัลจะทำให้การพึ่งพาเครื่องพิมพ์โดยรวมลดลง แต่เครื่องพิมพ์ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าสำหรับธุรกิจ จากการตอบโจทย์ในหลายๆ เรื่อง ซึ่งนี่เปรียบเสมือน ‘ฮีโร่’ ของออฟฟิศยุคใหม่เลยก็ว่าได้!