องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่าเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจเปลี่ยนทิศทางของการระบาด โดยเวลานี้ยังยากที่จะรู้ผลกระทบที่แท้จริงของมัน ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังศึกษาว่าไวรัสกลายพันธุ์นี้เป็นอันตรายถึงชีวิตมากน้อยแค่ไหน
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ระบุว่า จากคุณสมบัติบางอย่างของโอไมครอน ซึ่งรวมถึงการระบาดไปทั่วโลกและการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งนั้น อาจส่งผลกระทบที่สำคัญต่อทิศทางการระบาดหลังจากนี้
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของไวรัสส่งผลต่อความรุนแรงของไวรัส และบ่งชี้ว่าไวรัสสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า โดยมาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ เจ้าหน้าที่ WHO กล่าวว่า หลักฐานเบื้องต้นจากแอฟริกาใต้บ่งชี้ว่าโอไมครอนอาจรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม เธอเตือนว่า ผู้สูงอายุ ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะเกิดโรครุนแรงหากติดเชื้อนี้
ปัจจุบันมีรายงานการพบเชื้อโอไมครอนแล้วใน 57 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย ขณะที่ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ติดเชื้อเพื่อดูว่าวัคซีนที่มีอยู่มีประสิทธิภาพมากเพียงใดเมื่อเจอกับโอไมครอน และดูว่าอาการป่วยมีแนวโน้มรุนแรงแค่ไหน ขณะที่ Pfizer เผยผลการวิจัยเบื้องต้นว่าวัคซีนอาจมีประสิทธิภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ รวมถึงผลการศึกษาจากผู้ผลิตวัคซีนและบริษัทยาค่ายอื่นอย่าง Moderna, AstraZeneca, Merck และ Johnson & Johnson ด้วย
ภาพ: Jaber Abdulkhaleg / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: