×

ยิ่งสูง ยิ่งเขียว! Whizdom Asoke-Sukhumvit พาไปรู้จักเทรนด์การอยู่อาศัยยุคใหม่ ที่หยอดสีเขียวเข้าไปอยู่ในทุกไลฟ์สไตล์ [Advertorial]

โดย THE STANDARD TEAM
02.11.2018
  • LOADING...

ความพยายามในการออกแบบเมืองหรือที่อยู่อาศัยในแบบ Green Living ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหลายๆ ประเทศในโลกได้พยายามผลักดันและลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมกันมานานหลายปีแล้ว ยกตัวอย่างประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ก็ต้องยกนิ้วให้ประเทศสิงคโปร์ ที่แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ก็สามารถจัดสรรให้มีพื้นที่สีเขียวได้มากถึง 50% ของพื้นที่ทั้งหมด บนพื้นฐานของแนวคิด ‘เมืองในสวน’ (City in the Garden) ที่เน้นการออกแบบสถาปัตยกรรมให้อิงไปกับภูมิทัศน์ของเมืองได้ร่มรื่นอย่างกลมกลืน

 

 

จีนเองก็ยิ่งน่าทึ่ง เพราะถ้าสิงคโปร์จัดการพื้นที่สีเขียวได้ง่ายด้วยขนาดของประเทศที่เล็ก เจ้าของอาณาจักรอันไพศาลอย่างจีนก็น่าจะต้องกุมขมับ เพราะทั้งจำนวนประชากรและขนาดพื้นที่อันมโหฬารนั้นยากเกินจะควบคุม แต่ด้วยนโยบายเมืองสีเขียวที่เคร่งครัด เห็นได้จากการตั้งเป้าปลูกป่าระดับชาติ 300 แห่ง ตามนโยบายสร้างระบบนิเวศของประเทศภายในปี 2025 ทำให้หลายๆ เมืองพร้อมใจกันเนรมิตบ้านของตนให้กลายเป็นเมืองสีเขียว อาทิ เมืองนานกิงที่เปิดตัวโครงการ Nanjing Vertical Forest ไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสีเขียวให้ปกคลุมทั้งเมือง ไม่ใช่แค่ตึกเพียงไม่กี่แห่ง

 

 

หันกลับมามองที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยกันบ้าง ที่นับวันจะยิ่งมีคอนโดมิเนียมแข่งกันแจ้งเกิดตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้นทุกปี แต่การจะหาที่พักอาศัยดีๆ ที่มีสีเขียวสบายตาเป็นของแถมด้วยนั้น ดูเหมือนจะไม่ได้หาง่ายๆ ตัวเลือกของคอนโดฯ ที่แทรกต้นไม้ไว้เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร กับทำเลที่ตั้งที่มองไปแล้วเห็นพื้นที่เขียวขจีผืนใหญ่สบายตา จึงเป็นทางออกที่หลายๆ คนกำลังมองหา และ Whizdom Asoke-Sukhumvit เตรียมคำตอบนั้นไว้ให้คุณ

 

ประเดิมด้วยทำเลที่ตั้งที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าอโศกเพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่กลับให้ความรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมไว้ด้วยสวนสาธารณะใจกลางเมืองถึง 3 แห่ง โดย Whizdom Asoke-Sukhumvit ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสวนป่าเบญจกิติ ที่มีเนื้อที่กว่า 450 ไร่ ร่มรื่นสบายตาและเย็นใจด้วยเส้นทางวิ่งและปั่นจักรยานสีเขียวที่ล้อมรอบทะเลสาบขนาดใหญ่ ถัดไปไม่กี่ร้อยเมตรเป็นที่ตั้งของอุทยานเบญจสิริ ที่แม้จะเป็นสวนสาธารณะขนาดย่อม แต่ก็ยิ่งใหญ่ในทำเล ด้วยอยู่ติดกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์

 

และเมื่อมองจาก Sky Lounge หรือ Sky Fitness บนชั้น 36 ของ Whizdom Asoke-Sukhumvit คุณก็จะได้เป็นเจ้าของท็อปวิวในการมองมุมต่างๆ ของมหานครกรุงเทพฯ แบบที่เห็นทั้งตึกสูงสลับซับซ้อน ไปพร้อมๆ กับความเขียวขจีของสวนป่าเบญจกิติและสวนลุมพินี ปอดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่แทรกตัวเสริมบรรยากาศรื่นรมย์ให้กรุงเทพฯ ในคราวเดียว

 

 

ไม่เฉพาะการมอบรางวัลทางสายตาให้กับผู้พักอาศัยเท่านั้น ด้วยมาตรฐานการออกแบบของ Whizdom ที่ควบคุมคุณภาพในทุกรายละเอียด จึงเน้นการออกแบบพื้นที่สีเขียว เพื่อลดมลภาวะทางเสียง (Sound Absorption) และมลภาวะทางอากาศ (Air Filtration) รอบโครงการ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและใส่ใจต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยตั้งแต่เริ่มย่างเท้าเข้ามาในโครงการ

 

 

คุณภาพดังกล่าวก็ไล่มาตั้งแต่การออกแบบรูปทรงอาคาร ที่เลือกใช้วัสดุที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความร้อนและการระบายอากาศตามธรรมชาติที่ดี รวมถึงการใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดปริมาณการใช้น้ำทั้งโครงการ ที่เมื่อมารวมเข้ากับการนำเกณฑ์การออกแบบจากสถาบันอาคารเขียว ที่ได้รับความน่าเชื่อถือมาอ้างอิง เพื่อคุณภาพของโครงการตามมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย (TREES-NC) ของสถาบันอาคารเขียวไทย ยิ่งทำให้ Whizdom Asoke-Sukhumvit เข้าใกล้นิยามของคำว่า Green Living อย่างสมบูรณ์

 

 

มาดูกันที่ความใส่ใจของการออกแบบภายในตัวอาคารกันบ้าง Whizdom Asoke-Sukhumvit ยังเน้นการออกแบบเพื่อสุขภาพ (Design for Health) ด้วยการเลือกวัสดุต่างๆ ที่ปลอดภัย เช่น การเลือกใช้สีที่ไม่ก่อมลพิษ (Low-VOCs and Non Toxic) ในบริเวณพื้นที่ประกอบอาหาร เลือกใช้วัสดุที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน National Sanitation Foundation (NSF) การกำหนดมาตรฐานค่าการกันลื่นในพื้นที่ทุกจุดของโครงการ เพื่อความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้

 

 

นอกจากนี้ ในส่วนของระบบปรับอากาศ Whizdom Asoke-Sukhumvit ยังเลือกใช้ระบบทำความเย็นด้วยท่อน้ำเย็น (Water-Cooled Chiller System) แทนการใช้ท่อลม จึงลดการสะสมของฝุ่นและการเกิดเชื้อราได้เป็นอย่างดี ทั้งยังติดตั้งเครื่อง Energy Recovery Ventilation (ERV) และการออกแบบช่องเปิดด้านเดียว (Single-Sided Ventilation) เพื่อช่วยให้อากาศมีการหมุนเวียนได้มากยิ่งขึ้น

 

การออกแบบระบบท่อน้ำต่างๆ ก็ไม่ควรมองข้าม Whizdom Asoke-Sukhumvit จึงต่อท่อออกจากสุขภัณฑ์ไปที่ผนังด้านหลังโดยตรง เพื่อลดปัญหาน้ำรั่วและท่ออุดตัน แถมยังสะดวกแก่การบำรุงรักษา โดยไม่รบกวนผู้พักอาศัยห้องอื่นๆ เรียกว่าใส่ใจตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายในจริงๆ

 

 

แต่ก็ใช่ว่าหายใจง่าย สบายตา แล้วจะทำให้ ‘อยู่’ สบาย ฟังก์ชันในการใช้งานของผู้อยู่อาศัยในแต่ละห้องพักจึงเป็นเรื่องที่ Whizdom Asoke-Sukhumvit ให้ความสำคัญที่สุด ที่นี่จึงเน้นเรื่องของการออกแบบพื้นที่ตามสัดส่วน (Human Dimension) ซึ่งก็หมายถึงการออกแบบระยะต่างๆ ภายในห้องให้เหมาะสมกับสัดส่วนของร่างกาย เช่น การกำหนดพื้นที่รอบเตียง ตู้เสื้อผ้า ระเบียง ให้มีระยะการใช้งานได้อย่างสะดวกและถูกสุขลักษณะ

 

 

อีกอย่างที่เป็นจุดเด่นของคอนโดฯ แห่งนี้ ซึ่งสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวเข้ามาสู่ Grand Lobby แล้วก็คือ ความโอ่โถงของพื้นที่ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ของการออกแบบเพื่อการรับรู้ที่ดี (Psychology and Human Perception) จึงมีการกำหนดความสูงของฝ้าเพดานของห้องพักอาศัยที่ทำให้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่อึดอัดตามการรับรู้ทางสายตา รวมไปถึงการวางประตูห้องนอนที่ไม่ใช่ว่าเปิดเข้าไปแล้วชนกับเตียงเลย หรือต้องเบี่ยงตัวทุกครั้งถึงจะเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำได้ Whizdom Asoke-Sukhumvit ไม่ทำให้เรื่องของการอยู่อาศัยที่ควรสบายกลายเป็นเรื่องยุ่งยากแบบนั้นแน่นอน

 

 

และไม่ใช่แค่อยู่คอนโดฯ แล้วจะพักผ่อนสบายแค่ในห้องของตัวเอง พื้นที่ส่วนกลางก็ควรจะต้องน่าเอกเขนกไม่แพ้กัน การเลือกให้มี Garden Lounge ที่มีระเบียงสำหรับบาร์บีคิวอยู่บนชั้น 32 หรือตั้งใจกำหนดให้ Sky Lounge และ Sky Fitness อยู่บนชั้น 36 จึงไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพียงแค่ให้ผู้อาศัยทุกคนมีสิทธิ์ใช้วิวสีเขียวทางสายตาร่วมกันเท่านั้น Whizdom Asoke-Sukhumvit ยังเน้นการออกแบบสำหรับทุกคน (Universal Design) ที่เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกวัย ในทุกพื้นที่ส่วนกลางอีกด้วย

 

สะดวกสบายในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิตที่อัดแน่นด้วยคำว่า ‘คุณภาพ’ อย่างแท้จริงขนาดนี้ เราจึงอยากชวนคุณมาพิสูจน์ทุกตารางเมตรของมิติแห่งไลฟ์สไตล์สีเขียวที่ Whizdom Asoke-Sukhumvit ด้วยตัวเอง

สนใจโครงการคลิก bit.ly/2P1TUBA หรือ โทร. 1265

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising