*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง Whisper of the Heart*
ในทุกเรื่องราวเหนือจินตนาการที่ถูกบอกเล่าผ่านลายเส้นอันมีเอกลักษณ์ของเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันจากสตูดิโอจิบลิ มักจะสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘ความรัก’ อยู่ในผลงานของพวกเขาเสมอ
เช่นเดียวกับ Whisper of the Heart (1995) ภาพยนตร์แอนิเมชันแนว Coming of Age ที่อบอวลไปด้วย ‘ความรัก’ ของเด็กหนุ่มนักล่าฝัน และเด็กสาวที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ โดยผู้กำกับผู้ล่วงลับอย่าง ยูชิฟูมิ คนโดะ และเขียนบทโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ
เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ THE STANDARD POP ถือโอกาสนี้ เชิญชวนผู้อ่านทุกท่าน มาร่วมย้อนชมเรื่องราว ‘ความรัก’ ของเขาและเธอ ที่ไม่ได้มีดีแค่ความโรแมนติก แต่ยังสามารถส่งมอบ ‘แรงบันดาลใจ’ ให้กับใครก็ตามที่ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่า ‘เป้าหมายของฉันคืออะไร’
Whisper of the Heart คือภาพยนตร์แอนิเมชันที่ดัดแปลงมาจากมังงะในชื่อเดียวกันของ อาโออิ ฮิอิรากิ ในปี 1989 บอกเล่าเรื่องราวของ ชิซูกุ เด็กสาวชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นผู้หลงใหลในการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ และมีพรสวรรค์ในการแต่งบทกลอน แต่ดูเหมือนว่าตัวเธอในตอนนี้ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ‘เป้าหมาย’ ของตัวเองคืออะไรกันแน่
จนกระทั่งวันหนึ่ง ชิซูกุได้พบกับ เซย์จิ เด็กหนุ่มมาดกวนเข้าโดยบังเอิญ อีกทั้งเธอยังพบว่า เซย์จิคือชายหนุ่มปริศนาที่เธอเฝ้าตามหามาตลอด และการพบเจอดั่งโชคชะตาในครั้งนี้จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ความรัก’ ที่จะมาช่วยให้ชิซูกุค้นหาคำตอบที่ยังค้างคาอยู่ในจิตใจ
เพราะได้พบเธอ ฉันจึงตั้งคำถาม
ความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เช่นเดียวกับ ชิซูกุ ที่ถูกเพื่อนสนิทอย่าง ยูโกะ ไหว้วานให้เธอแต่งเนื้อเพลง Take Me Home, Country Roads (โดยศิลปิน จอห์น เดนเวอร์) เป็นภาษาญี่ปุ่นให้ เพื่อนำไปใช้ในการแสดงของโรงเรียน
ซึ่งแม้ว่ายูโกะและเพื่อนๆ จะชื่นชอบ และกล่าวชมชิซูกุว่าแต่งเนื้อเพลงได้ไพเราะขนาดไหน แต่เธอกลับไม่มีความมั่นใจในสิ่งที่ทำ และมักจะตัดสินงานของตัวเองว่า ‘มันยังไม่ดีพอ’ อยู่เสมอ
จนกระทั่งวันหนึ่ง เซย์จิ เด็กหนุ่มที่ชิซูกุพบเข้าโดยบังเอิญ ได้พาเธอเข้าไปในร้านขายของเก่าของคุณตาอีกครั้ง เพื่อนั่งดูตุ๊กตาบารอนภายในร้าน ซึ่งวันนั้นเองที่ทำให้เธอรู้ว่า เซย์จิคือคนที่เช่าหนังสือเล่มเดียวกับเธอ และรู้ว่าเขามีความใฝ่ฝันที่อยากจะไปเรียนต่อที่อิตาลี เพื่อฝึกฝนเป็นช่างทำไวโอลิน
เมื่อได้รับฟังเรื่องราวของเซย์จิ ชิซูกุจึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ‘เป้าหมายของตัวเองคืออะไร’ เป็นครั้งแรก
เราเชื่อว่าเรื่องราวที่ชิซูกุกำลังเผชิญอยู่นี้ คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ใครหลายคนต่างเคยพบเจอ และมีผู้คนอีกมากมายที่ยังไม่พบคำตอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
บางครั้ง หากเรามีใครสักคนที่มองเห็น ‘ด้านดี’ ของเรา และลองเปิดใจรับฟังคำติชมของคนคนนั้น มันก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้เราได้ลองสำรวจตัวเองดูว่า ‘เราทำอะไรได้บ้าง’
อย่างที่เซย์จิและเพื่อนๆ มองเห็นความสามารถในการแต่งกลอนของชิซูกุ และคอยชื่นชมเธอมาโดยตลอด
เพราะเธอรักฉัน ฉันจึงลงมือทำ
ในระหว่างที่ชิซูกุกำลังสับสนกับคำถามในจิตใจ เซย์จิได้เดินมาพบเธอที่ห้องเรียน เพื่อบอกเรื่องสำคัญกับเธอว่า เขากำลังจะบินไปฝึกงานเป็นช่างทำไวโอลินที่อิตาลีเป็นเวลา 2 เดือน พร้อมทั้งตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อชิซูกุออกไปตรงๆ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่า เขาจะกลับมาพบชิซูกุอีกครั้งให้ได้
ความรู้สึกที่ไม่อยาก ‘เฝ้ารออยู่ฝ่ายเดียว’ จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในจิตใจ ทำให้ชิซูกุเดินทางไปขอคำปรึกษากับยูโกะ และเป็นอีกครั้งที่เพื่อนสนิทกล่าวชื่นชมความสามารถในการเขียนกลอนของเธอ ชิซูกุจึงตัดสินใจว่าจะต้องเขียนนิยายของตัวเองให้ได้
จนในที่สุด ชิซูกุก็สามารถเขียนนิยาย ‘เรื่องแรก’ ของเธอจนเสร็จ และนำไปให้คุณตาร้านขายของอ่านเป็นคนแรกอย่างที่เคยสัญญากันไว้
“ใช่ มันไม่ลื่นไหล ทื่อ และยังไม่เจียระไน เหมือนกับไวโอลินของเซย์จิ หนูให้ตาดูอัญมณีที่เพิ่งตัดออกมาจากก้อนหิน แต่เพราะหนูทำอย่างตั้งใจ ดังนั้นหนูยอดเยี่ยมมากแล้วล่ะ ไม่ต้องรีบนะ ค่อยๆ เจียระไนเถอะ”
แน่นอนว่านิยาย ‘เรื่องแรก’ ที่ชิซูกุตั้งใจเขียนขึ้น จะไม่ได้สนุกสนานอย่างที่เธอจินตนาการไว้ จนทำให้เธอต้องหลั่งน้ำตาหน้าคุณตา แต่อย่างน้อยที่สุด เธอก็ได้ ‘ลงมือทำ’ มันจนเสร็จอย่างที่ตั้งใจ และได้เรียนรู้ว่าเธอจะต้องพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไร เช่นเดียวกับที่คุณตากล่าวเอาไว้
เพราะหากชิซูกุไม่ได้ ‘ลงมือทำ’ ดูสักครั้ง เธอก็คงจะทำได้เพียง ‘เฝ้ารอ’ ให้เซย์ชิกลับมาเท่านั้น
“พอได้ลองเขียนแล้วหนูเลยรู้ว่า แค่อยากมันยังไม่พอ หนูยังต้องเรียนรู้อีกมาก”
เพราะ ‘รัก’ บันดาลใจ ฉันจึงค้นพบเป้าหมายของตัวเอง
ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่เราได้ร่วมติดตามเรื่องราวของชิซูกุ ดูเหมือนว่าเซย์จิจะเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอค่อยๆ เติบโตขึ้น และค้นพบเป้าหมายของตัวเองจนเจอ
จากเด็กสาวที่ไม่มีความมั่นใจ แต่ด้วยคำชมจากเซย์จิและเพื่อนๆ เธอจึงสามารถร้องเพลง Take Me Home, Country Roads ได้อย่างไม่เขินอาย จากเด็กสาวที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่หลังจากที่เธอได้รับฟังเรื่องราวของเซย์จิ เธอจึงอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น และเริ่มลงมือเขียนนิยายอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรก เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องกลายเป็นคนไม่เอาไหน และเฝ้ารอเซย์จิอยู่ฝ่ายเดียว
“นายคือเหตุผลที่ทำให้ฉันทำแบบนั้น ฉันดีใจที่ได้ผลักดันตัวเอง และตอนนี้ฉันเข้าใจตัวเองมากขึ้นเยอะเลย”
แม้ว่าเส้นทางข้างหน้า ชิซูกุจะยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ต้องเรียนรู้ ยังมีอุปสรรคอีกมากล้นที่ต้องเผชิญ
แต่เราเชื่อว่าเส้นทางของชิซูกุต่อจากนี้จะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะเธอจะมีชายที่ชื่อเซย์จิที่คอยส่งมอบ ‘รัก’ บันดาลใจให้แก่กัน และคอยเดินเคียงข้างกันและกันตลอดไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์