×

What’s new?! มีอะไรใหม่ในพรีเมียร์ลีก 2024/25

16.08.2024
  • LOADING...

วันนี้แล้วที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกลูกหนังขวัญใจมหาชน จะกลับมาเปิดม่านฤดูกาลเริ่มต้นการแข่งขันกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ในคู่แรกระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับฟูแลม

 

ในการกลับมาครั้งนี้นอกเหนือจากความเคลื่อนไหวปรับทัพเสริมทีมของบรรดาสโมสรต่างๆ ที่เป็นไปอย่างคึกคักแล้ว (ยกเว้นทีมเดียวที่คุณก็รู้ว่าใคร) ยังมีความเปลี่ยนแปลงในระดับที่สำคัญมากเกี่ยวกับเรื่องของการแข่งขัน เพื่อให้มาตรฐานของลีกสูงขึ้นตามราคาค่าลิขสิทธิ์ด้วย

 

มีอะไรที่จะเปลี่ยนไปบ้างนั้นเดี๋ยวมาดูกัน

 

เริ่มจาก VAR ก่อนเลย!

 

 

VAR อัปเดตแพตช์

 

สิ่งแรกที่มีการเปลี่ยนแปลงคือระบบช่วยตัดสินด้วยวิดีโอ (Video Assistant Referee หรือ VAR) ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ชวนปวดหัวที่สุดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เนื่องจากมีการตัดสินที่ผิดและพลาดกันบ่อย รวมถึงไม่ชัดเจนด้วย

 

ในฤดูกาลที่แล้ว คณะกรรมการ PGMOL ที่ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลการตัดสินในพรีเมียร์ลีก พยายามหาทางสร้างความกระจ่างด้วยการทำรายการ Mic’d Up ที่จะมาวิเคราะห์การตัดสินในจังหวะที่เป็นปัญหา แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นนัก

 

สำหรับฤดูกาลนี้ พรีเมียร์ลีกมีการเพิ่มขั้นตอนเข้าไป โดยอิงตัวอย่างจากฟุตบอลยูโร 2004 ที่จะมีการขึ้นหน้าจอในสนามเพื่อชี้แจงว่าเกิดปัญหาในจังหวะไหนที่ VAR ต้องเข้ามาแทรกแซงการตัดสินในสนาม รวมถึงจะมีการรายงานผลการตัดสินอัปเดตแบบเรียลไทม์ผ่านบัญชี X (Twitter) ที่ใช้ชื่อว่า ‘Premier League Match Centre’ (@PLMatchCentre)

 

อย่างไรก็ดี @PLMatchCentre ไม่ได้ฉายภาพให้เห็นการทำงานแบบสดๆ แค่จะรายงานผลการตัดสินเท่านั้น ซึ่งลีกประเทศอื่นอย่างบุนเดสลีกาเขามีมาตั้งแต่ฤดูกาล 2021/22 แล้ว ขณะที่ลาลีกาถึงขั้นปล่อยเสียงสนทนาของผู้ตัดสินในเหตุการณ์ปัญหาหลังเกมจบลงในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

 

 

Referee’s Call ชื่อใหม่ในขวดเก่า

 

พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วมีการตัดสินพลาดรวมกันมากกว่า 100 ครั้ง ซึ่งหลายครั้งดูเหมือน VAR จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือผู้ตัดสินในสนามจนเกินไปในความรู้สึกของผู้ชม จนผู้ตัดสินดูไม่เป็นตัวของตัวเอง

 

ในฤดูกาลนี้พรีเมียร์ลีกจึงชูคำว่า ‘Referee’s Call’ หรือ ‘นี่คือการตัดสินจากผู้ตัดสินเอง’ เพื่อตอกย้ำว่าผู้ตัดสินที่ 1 ในสนามคือคนที่มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินเกม หรือพูดง่ายๆ ก็คือเกมจะดำเนินไปตามการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในสนาม

 

ยกเว้นเสียแต่จะมี ‘หลักฐาน’ ที่ชัดเจนมากพอว่ามีความผิดพลาดหรือรายละเอียดที่ตกหล่นชัดเจนมากพอที่จะทำให้ VAR แทรกแซงและให้ความเห็นเกี่ยวกับการตัดสิน

 

แต่ในมุมของผู้เชี่ยวชาญแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยต่างอะไรจากเดิมเท่าไร เพราะมันก็คือร่างทรงของคำว่า Clear and Obvious Error นั่นเอง

 

 

SAOT ของดีไม่ต้องตีเส้นล้ำหน้าเอง

 

ของดีจริงๆ ที่จะช่วยให้เกมฟุตบอลชัดเจนขึ้นมากก็คือ ระบบการช่วยตัดสินลูกล้ำหน้าแบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automated Offside Technology หรือ SAOT) 

 

ปกติแล้วลูกล้ำหน้าที่มีปัญหาจะต้องกลับมาเช็กผ่านระบบ VAR ซึ่งผู้ตัดสิน VAR มีหน้าที่ที่จะต้องเช็กจากมุมกล้องแล้วลากเส้นเพื่อดูว่าล้ำหน้าหรือไม่ แน่นอนว่าถึงจะเป็นผู้ตัดสินฝีมือดีแค่ไหน โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดจากการตัดสินล้ำหน้ามีแน่นอน และผลของมันบางครั้งก็ร้ายแรงด้วย

 

ระบบ SAOT จะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ โดยการใช้กล้องจากหลังคาสนามในมุมต่างๆ ช่วยจับภาพและประมวลผลออกมาเป็นภาพ 3 มิติ แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีการล้ำหน้าเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งเราได้เห็นมาแล้วในฟุตบอลโลก 2022 รวมถึงฟุตบอลยูโร 2024 และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

 

พรีเมียร์ลีกคาดหวังว่า SAOT จะช่วยลดเวลาในการตัดสินลูกล้ำหน้าได้ถึงเหตุการณ์ละ 31 วินาที เอากลับไปเป็นเวลาในการแข่งขันแทน (บางทีก็ลากเส้นกันงงๆ ถึง 4-5 นาที) 

 

เพียงแต่ SAOT จากผู้พัฒนาเจ้าใหม่ Second Spectrum จะยังมาไม่ทันเปิดฤดูกาล โดยคาดว่าจะนำมาใช้ได้ในช่วงหลังปฏิทินทีมชาติใน 3 เดือนแรกของพรีเมียร์ลีก (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมาทันในเดือนตุลาคม

 

 

แฮนด์บอลที่กลับมาเป็นแฮนด์บอล?

 

หลายปีมานี้ทุกคนหัวจะปวดกับกฎแฮนด์บอลจนแทบจะเป็นคนที่ไม่รู้จักกันแล้ว แต่ในฤดูกาลนี้มีความพยายามที่จะทำให้แฮนด์บอลกลับมาเข้าใจได้ง่ายขึ้น

 

แต่ความพยายามนั้นไม่ได้มากมายอะไรนัก เป็นแค่การระบุว่า “ถ้าบอลแฉลบจากเท้าหรือจากส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแล้วเปลี่ยนทิศไปโดนแขน จะไม่ถือว่าเป็นการทำแฮนด์บอล” ต่อให้แขนจะมีการเหยียดจากตัวหรือยกขึ้นสูงเหนือศีรษะก็ตาม

 

ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อหวังจะลดการให้จุดโทษที่ดูหยุมหยิมที่มีมากเหลือเกินในฤดูกาลที่ผ่านมา เพียงแต่ถ้าเป็นจังหวะที่บอลแฉลบเปลี่ยนทิศแค่เล็กน้อยแล้วไปโดนมือหรือแขน ผู้ตัดสินก็ยังสามารถให้แฮนด์บอลและจุดโทษในกรอบเขตโทษได้อยู่ดี

 

 

มีอะไรที่ใหม่อีก?

 

  • VAR จะลดการแทรกแซงในจังหวะยิงจุดโทษ หากมีผู้เล่นฝ่ายใดขยับเข้ากรอบเขตโทษก่อนผู้ทำหน้าที่จะยิง จากเดิมที่จะต้องตรวจและให้ยิงใหม่ จะเปลี่ยนเป็นให้ยิงใหม่เฉพาะการขยับเข้าเขตโทษของผู้เล่นคนนั้นๆ มีผลต่อจังหวะการเล่นที่ชัดเจน
  • จังหวะ DOGSO หรือ Denying an Obvious Goal-Scoring Opportunity หรือการขัดขวางจังหวะการทำประตูที่ชัดเจนนั้น จะเป็นใบแดงเฉพาะการขัดขวางจังหวะการเล่นโดยที่ไม่พยายามเล่นบอล เช่น การดึงหรือรั้ง แต่ถ้าเป็นจังหวะที่พยายามเล่นบอล เช่น แหย่ขาสกัดหรือแฮนด์บอลแบบไม่ตั้งใจ จะเป็นแค่ใบเหลืองเท่านั้น
  • การทดเวลา (Added Time) จะกลับมาเป็นปกติ ไม่มีการยืดไปเกินจนเตะกันมากกว่า 100 นาทีอีกแล้ว โดยจะมีเกณฑ์ในการคำนวณเวลาที่เสียไปในเกมใหม่ เช่น การฉลองประตูจะบวกเพิ่ม 30 วินาทีพอ

 

ทั้งหมดนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงทางการตัดสิน ที่พรีเมียร์ลีกคาดและหวังว่าจะทำให้เกมฟุตบอลนั้นสนุกขึ้น มีอรรถรสมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือชัดเจนและโปร่งใสยิ่งขึ้นในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

 

หวังว่าจะช่วยให้ดีขึ้นจริงๆ นะ ดูบอลไปหัวจะได้ไม่ปวดไป!

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X