ในวันที่ 8 กันยายน บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เตรียมลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่าง WHA กับบริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด (BYD) บริษัทผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน โดย BYD จะเข้าซื้อที่ดิน 600 ไร่ เพื่อตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมระยอง 36 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยคาดว่าจะมีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท
จากแรงหนุนของดีลดังกล่าว ทำให้ WHA ปรับเป้าหมายการขายที่ดินในปีนี้ขึ้นมาเป็น 1,650 ไร่ จากเดิมที่ 1,250 ไร่ แบ่งเป็นการขายที่ดินในไทย 1,400 ไร่ และในเวียดนาม 250 ไร่
ถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มการขายที่ดินที่เพิ่มขึ้นของ WHA ในปีนี้ มีโอกาสที่จะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทกลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิด เพราะหลังจากการเปิดประเทศทำให้ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะเห็นนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามามากขึ้นพร้อมกับโครงการขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม กำไรของ WHA ยังมีความไม่แน่นอนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน ซึ่งคล้ายกับกำไรพิเศษในแต่ละปี แต่หากตัดส่วนนี้ออกไป เชื่อว่ากำไรจากการขายที่ดินจะกลับไปสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนโควิดได้
ส่วนประเด็นที่บริษัทนำเทคโนโลยีเมตาเวิร์สเข้ามาช่วยในการขายที่ดินและโรงงานของบริษัท ในช่วงแรกอาจยังไม่เห็นผลกระทบต่อการสร้างรายได้และกำไรเป็นรูปธรรมมากนัก แต่ก็เป็นการเตรียมความพร้อมของบริษัทเพื่อรองรับเทคโนโลยีในอนาคต
ด้าน กรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ในระยะกลางถึงยาวเรามีมุมมองเชิงบวกต่อ WHA ซึ่งน่าจะค่อยๆ เติบโตต่อไปได้ ขณะที่กำไรในปีนี้เชื่อว่าจะกลับไปสู่ระดับ 3 พันล้านบาทอีกครั้ง
“ขณะนี้บ้านเราค่อนข้างจะมีสาธารณูปโภคพื้นฐานดีขึ้นมาก จึงน่าจะเห็นการทยอยกลับเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการย้ายฐานการผลิตจากประเทศกลุ่มเอเชียเหนือ”
ช่วงที่ผ่านมา WHA ได้รับการติดต่อเพื่อขอเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมเพื่อการลงทุนจากต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งมีความต้องการที่ดินรวมกันมากกว่า 2,000-3,000 ไร่ และจากการขายที่ดินให้กับลูกค้ารายใหญ่ 600-700 ไร่ในไตรมาส 3 ส่งผลให้ยอดขายที่ดินรอการส่งมอบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,000 ไร่ ซึ่งน่าจะรับรู้รายได้บางส่วนปีนี้
ขณะที่ธุรกิจโลจิสติกส์น่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากการลงนามสัญญาเช่ากับลูกค้ารายใหม่ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขณะที่ไตรมาส 4 มีแผนจะขายสินทรัพย์คลังสินค้าเข้ากอง WHART ขนาด 1.6 แสนตารางเมตร มูลค่าราว 4 พันล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งขายเข้ากอง WHAIR พื้นที่ 4-5 หมื่นตารางเมตร มูลค่า 1.3 พันล้านบาท
โดยภาพรวม บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินกำไรปีนี้ที่ 3.30 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน ขณะที่กำไรของ WHA 3 ปีก่อนหน้านี้ (2562-2564) ทำได้ 3.23 พันล้านบาท, 2.52 พันล้านบาท และ 2.59 พันล้านบาท ตามลำดับ
