Westworld คือบริษัทดิจิทัลที่กำลังมาแรงมากในเกาหลี งานถนัดคือ VFX, Virtual Production และ Digital Intermediate ซึ่งผลงานที่ผ่านมาบอกชัดเจนว่านี่คือคลื่นลูกใหม่ที่กำลังผลักดันวงการไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นผลงานในซีรีส์ The Silent Sea, Extraordinary Attorney Woo, All of Us Are Dead, Squid Game, Sweet Home รวมถึงซีรีส์ไซไฟเรื่องล่าสุด Black Knight ที่ทาง Westworld มีส่วนร่วมอย่างมากในการสร้างฉากเสมือนจริงของกรุงโซลปี 2071 ให้กลายเป็นทะเลทราย เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศจนยากจะมีชีวิตอยู่ได้
THE STANDARD POP ได้ร่วมเยี่ยมชมการทำงานของ Westworld ที่เกาหลีใต้ ได้เห็นและได้ลองสัมผัสประสบการณ์ในการสร้างจินตนาการให้เกิดขึ้นจริงผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรม VFX ของเกาหลีเดินหน้าไปไกลมาก และไม่น่าแปลกใจที่งานสร้าง Made in Korea หลายๆ ชิ้นมาตรฐานสูงเทียบเท่าฮอลลีวูด ดีไม่ดีอาจจะล้ำหน้าได้ด้วยซ้ำในอนาคต
อ่านต่อ:
Koni June, Marketing Director, Westworld ได้เล่าถึงการทำงานด้าน VFX ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเริ่มย้อนไปถึงการก่อตั้งในปี 2018 โดยทาง Westworld ได้รวมเอาศิลปินมากฝีมือมาเป็นทีมงาน นับเป็นสตูดิโอที่ถนัดงาน VFX รวมถึงงานเกรดสี ทำมาสเตอร์ดิจิทัล ไปจนถึงการวางแผน พัฒนา และผลิตคอนเทนต์อีกด้วย
ซึ่งที่ผ่านมาทาง Westworld เองก็ได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ Netflix ในการทำงานผ่านทั้งหนังและซีรีส์ อย่างเช่น The Silent Sea, All of Us Are Dead, Squid Game, Sweet Home และล่าสุด Black Knight
โดยเฉพาะในซีรีส์ Black Knight ทางสตูดิโอ Westworld ใช้เวลาการทำงานมากกว่า 10 เดือน ร่วมกับศิลปินกว่า 180 คน ในการสร้างโลกที่ล่มสลาย และทำให้ภาพฝันของซีรีส์กลายขึ้นมามีชีวิตจริง
“Black Knight คือความพยายามในการผลักดันเพื่อขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี เราทำงานร่วมกับทีมศิลปินเพื่อทำให้คอนเทนต์เกาหลีไปได้ไกลและไร้ซึ่งขอบเขต” – Sunny Park, Director of VFX & Virtual Production ของ Netflix
Lee Byungju, VFX Supervisor ได้เล่าถึงการทำงานในซีรีส์เรื่องนี้ว่า “Black Knight มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นด้านบนพื้นผิวโลกและใต้ดินที่มนุษย์อาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละพื้นที่ถูกจัดแบ่งตามสถานะทางสังคม การทำงานของ Westworld ก็เพื่อทำให้เห็นว่าโลกอนาคตเปลี่ยนไปแล้ว ฝุ่นพิษทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นทะเลทราย ซึ่งเทคโนโลยี VFX คือสิ่งที่ทางสตูดิโอนำมาใช้ในการสะท้อนภาพนั้น”
Westworld ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพอากาศ ความเป็นไปได้ในอนาคต ฟุตเทจทะเลทรายต่างๆ จากทั่วโลกเพื่อใช้ในขั้นตอน Post Production รวมถึงส่งทีมงานไปเก็บข้อมูลฝุ่นเหลืองและพายุทรายที่มองโกเลียในประเทศจีน เก็บฟุตเทจจาก Bayanzag Cliffs และ Khongoryn Els ที่ทะเลทรายโกบีบริเวณชายแดนมองโกเลีย เพื่อนำมาใช้เป็นเรเฟอเรนซ์ในการสร้างทะเลทรายเสมือนจริงในจอคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ Black Knight ที่ดำเนินเรื่องอยู่ในกรุงโซลปี 2071 ที่เมืองล่มสลาย เราจะได้เห็นฉากที่โซลทั้งเมืองเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง พื้นดินกลายเป็นทะเลทราย รวมถึงสัญลักษณ์สำคัญๆ ของโซล อย่างเช่น N Seoul Tower ที่หักพังลงมา ถนนในกังนัม และสะพานฮันกังที่กลายเป็นซากปรักหักพัง เหล่านี้คือความยากที่ทาง Westworld มองว่าเป็นความท้าทาย
“ฉากถนนในกังนัมที่เป็นชุมชนของผู้ลี้ภัย นับเป็นงานที่ยากลำบากที่สุดของซีรีส์ เพราะคนดูคุ้นเคยกับสถานที่จริงอยู่แล้ว การเปรียบเทียบกับสิ่งที่เห็นอยู่ทุกๆ วันจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากว่าจะถ่ายทอดออกมาผ่าน VFX ได้อย่างไร” – Lee Byungju, VFX Supervisor
เปิดโลกเสมือนจริงในซีรีส์ Black Knight
เพื่อให้เข้าใจการทำงานของ VFX มากขึ้น ทางทีมผู้บริหารของ Westworld ได้จัดเซสชันย่อยสำหรับสื่อมวลชนในการปูพื้นฐานการทำงานของ VFX ให้ฟังกันก่อน จากนั้นเปิดประสบการณ์ให้เราได้ลองเป็นช่างภาพในกองถ่ายจริง เพื่อให้เห็นว่าในโลกดิจิทัล การถ่ายทำก้าวหน้าไปขนาดไหน และอะไรก็เกิดขึ้นได้จริง!
- Virtual Cam เป็นการจำลองการถ่ายทำที่เกิดขึ้นในสตูดิโอ โดยใช้กล้องถ่ายวิดีโอประยุกต์จาก iPad และแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อใช้ในการถ่ายทำ สามารถปรับองศา หมุนกล้อง เคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวล เพื่อทำงานผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จัดเตรียมไว้ เราจะได้เห็นนักแสดงที่กำลังต่อสู้ปรากฏขึ้นตรงหน้า โดยที่ไม่ต้องมีนักแสดงจริงๆ มาด้วยซ้ำ
- Driving Game การจำลองฉากขับรถไล่ล่าที่เราจะได้ดูในซีรีส์ Black Knight อีพี 3 เรียกว่าจำลองมาได้เหมือนจริงสุดๆ
- Virtual Scouting เปิดโลกเสมือนจริงผ่านการเดินทางในกรุงโซลปี 2071 ที่เราจะได้เห็นรายละเอียดของฉากที่สมจริงมากๆ ตึกที่พังทลาย พายุทรายที่พัดผ่าน
- Simulcam (Ncam) การถ่ายทำแบบ Green Screen พร้อมด้วยเทคโนโลยี Motion Capture มีนักแสดงมาติดอุปกรณ์ และกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดโปรตีน
จากฉากหลังในซีรีส์ Black Knight ที่เราได้เห็นโซลในโลกที่สิ้นหวัง สู่ความจริงที่ VFX สร้างโลกเสมือนทั้งใบขึ้นมาได้ ก็นับว่าเป็นความหวังที่สว่างไสวอย่างหนึ่ง
การเยี่ยมชมสตูดิโอ Westworld เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เห็นได้ว่าโลกอนาคตของคอนเทนต์จะยิ่งพัฒนาขึ้น เทคโนโลยีจะทำให้การเล่าเรื่องราวสมจริงมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็สิ้นเปลืองพลังงานและเงินทุนน้อยลง
และแน่นอนว่า Black Knight ซีรีส์เกาหลีไซไฟเรื่องล่าสุด ออริจินัลคอนเทนต์จาก Netflix ยังคงเป็นผลงานน่าสนใจจากงานสร้างที่เน้นย้ำความทะเยอทะยานของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี ที่ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการผลิตคอนเทนต์เพื่อผู้ชมทั่วโลก
Black Knight เล่าเรื่องราวของ ‘5-8’ อัศวินขนส่งในตำนาน และ ซาวอล เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัย กับการต่อกรกับชอนมยองกรุ๊ปอันทรงอิทธิพลที่ปกครองประเทศเกาหลีหลังล่มสลายจากมลพิษทางอากาศอันเลวร้าย จนไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเอาชีวิตรอดได้โดยปราศจากหน้ากากออกซิเจน กำกับโดย โจอึยซอก นำแสดงโดย คิมอูบิน, ซงซึงฮอน, อีซม, คังยูซอก
ตัวอย่างซีรีส์: