หากต้องย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 19-20 ปีที่แล้ว ความทรงจำแรกๆ ของแฟนคลับวง Westlife ก็คงเป็นการต้องรีบกลับบ้านไปดูมิวสิกวิดีโอของหนุ่มๆ ทาง Channel V หรือต้องไปหาซื้อเทปหรือซีดีที่ Tower Records สาขา World Trade Center ช่วงที่อยู่มัธยม กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือเพิ่งเริ่มงานแรกในชีวิต ซึ่งความนิยมของวงนี้ก็ถือว่าถล่มทลายอย่างต่อเนื่องในบ้านเรา แบบที่ว่าบอยแบนด์ร่วมรุ่น ไม่ว่าจะฝั่งอเมริกาหรืออังกฤษก็คงต้องชิดซ้าย
โดยเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากับคอนเสิร์ต Westlife The Twenty Tour ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ที่ทางวงเล่นในเอเชียเป็นประเทศแรก ก็ถือว่าตอกย้ำสิ่งนี้ และสร้างความประทับใจตั้งแต่ต้นจนจบ โดยทางวงได้ขนเพลงฮิตอย่าง My Love, Flying Without Wings, Fool Again จนถึง Better Man ที่กำลังขึ้นชาร์ตในบ้านเรา
คอนเสิร์ตเริ่มขึ้นด้วยวิดีโอที่ฉายบนจอ LED ใหญ่ด้านหลัง ซึ่งรวบรวมความสำเร็จและสถิติต่างๆ ของวงในสไตล์รายการ X-Factor (ผู้จัดการของวง หลุยส์ วอลช์ เคยเป็นคณะกรรมการชื่อดังของเวอร์ชันอังกฤษ) ก่อนที่ 4 หนุ่ม เชน ฟิแลน, มาร์ก ฟีฮิลี, เคียน อีแกน และ นิกกี้ เบิร์น จะปรากฏตัวบนเวทีในชุดสไตล์ทหารประยุกต์ และเปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลง Hello My Love จากอัลบั้มชุดใหม่ Spectrum ที่ เอ็ด ชีแรน แต่งให้ ส่วนเพลงถัดมาก็คือ Swear It Again ซิงเกิลแรกในชีวิตของ Westlife ที่ทุกคนในฮอลล์ร้องตามได้ทุกคำ ก่อนความสนุกจะมาเต็มกับเพลง When You’re Looking Like That และเพลงสุดฮิตของวง Uptown Girl ซึ่งก็ต้องบอกว่า เราอยากรู้ว่า พวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าอะไร เพราะดูเหมือนนั่งไทม์แมชชีนมาจากปี 2000 ตอนพวกเขามาเล่นคอนเสิร์ตแรกในประเทศไทยที่ร้าน Species ตรงซอยสุขุมวิท 24
ไฮไลต์ต่อมาก็ต้องยกให้ช่วง Tribute วง Queen กับเมดเลย์เพลง อาทิ Another One Bites The Dust, Radio Gaga, I Want To Break Free, Somebody to Love, Don’t Stop Me Now, We Will Rock You และ We Are The Champions ที่ก็ดูเข้ากระแสฟีเวอร์หนัง Bohemian Rhaposody ที่ไม่จบไม่สิ้น ซึ่งก็ต้องบอกว่า ทั้ง 4 หนุ่ม สามารถร้อง เต้น และเอ็นเตอร์เทนคนดูได้อย่างน่าประทับใจ แม้เวทีหรือแสง สี เสียง จะไม่ได้หวือหวามากเท่าไร เน้นแค่การเปลี่ยนชุด 3-4 รอบ และเราก็ต้องชื่นชมอีกว่า ศักยภาพของ Westlife ไม่ได้ทำให้รู้สึกเป็นเหมือนเป็นวง Nostalgia Act ที่กลับมาเล่นคอนเสิร์ตตอนอายุมากขึ้นและดูเก้ๆ กังๆ แต่พวกเขาก็ยังท็อปฟอร์มอยู่ และเทียบชั้นได้กับศิลปินอื่นๆ ในยุคนี้
พาร์ตต่อมาเป็นช่วง Acoustic ที่มีกิมมิกตรงที่ว่า แต่ละสมาชิกจะมีการแทรกและร้องเพลงสั้นๆ ของเพลงที่ไม่ได้อยู่ในเซตลิสต์ เช่น Seasons In The Sun ซึ่งก็จะดูว่าแฟนเพลงจะร้องตามได้ไหม ก่อนที่วงจะร้องซิงเกิลใหม่ล่าสุด Dynamite ต่อด้วยเพลง You Raise Me Up ที่ทางแฟนคลับมีการทำป้ายคำว่า ‘Besides You Forever’ และชูขึ้นมาตอนท่อนสุดท้าย ซึ่งก็สร้างความปลื้มปริ่มให้กับ Westlife และก็ทำให้เห็นอีกครั้งว่า ความสัมพันธ์ของแฟนเพลงไทยกับวงเหนี่ยวแน่น เดินทางมาไกลนับ 20 ปี และไม่ใช่แค่ชั่วคราวช่วงที่วงกำลังพีกอย่างเดียว
เราเชื่อว่า หาก Westlife ยังจะเดินหน้าทำเพลงและออกเวิลด์ทัวร์รอบโลกต่อไป ประเทศไทยก็จะต้องอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
ภาพ: BEC-Tero and Unusual Entertainment