×

นายกฯ เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับประธานาธิบดีเวียดนาม พร้อมลงนาม MOU กระชับความสัมพันธ์ 5 ด้าน

โดย THE STANDARD TEAM
16.11.2022
  • LOADING...
ประธานาธิบดีเวียดนาม

วันนี้ (16 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 16.00 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา ให้การต้อนรับ เหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และภริยา บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ที่จะเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายนนี้

 

จากนั้นเดินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศทั้ง 3 เหล่าทัพ กองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ บนพรมแดงจากลานด้านหน้าถึงตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหารือร่วมกับข้าราชการแบบเต็มคณะที่ตึกภักดีบดินทร์ จากนั้นร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแลกเปลี่ยนความตกลง กระชับความสัมพันธ์ทุกสาขา ซึ่งมีการลงนามทั้งหมด 5 ด้าน

 

  1. แผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งระหว่างไทย-เวียดนาม ระยะเวลา 5 ปี พ.ศ. 2565-2570 ลงนามโดยกระทรวงต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ

 

  1. ความตกลงว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางการศาลในคดีแพ่งระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

 

  1. บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย กับนครดานัง ประเทศเวียดนาม

 

  1. บันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเวียดนาม

 

  1. สัญญาสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กับธนาคารพาณิชย์เพื่อการค้าระหว่างประเทศแห่งเวียดนาม

 

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ในนามคนไทยมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม วันนี้เป็นโอกาสพิเศษหลายด้าน ทั้งการเยือนไทยในฐานะเพื่อนเก่าที่ใกล้ชิด ได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เป็นการเยียนไทยเป็นครั้งแรกภายหลังจากที่ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี

 

นับเป็นการเยือนครั้งแรกในฐานะประมุขแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในรอบ 24 ปี การเยียนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไทย-เวียดนาม และประเทศในภูมิภาคต่างเผชิญกับความท้าทายทางการเมืองและเศรษฐกิจ จากความผันผวนของสถานการณ์ระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกัน ทุกประเทศกำลังเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์โควิด

 

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า ทั้งสองประเทศจะต้องช่วยกันขับเคลื่อนการเร่งฟื้นฟูทางเศรษฐกิจและพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในวันพรุ่งนี้ (17 พฤศจิกายน) จะมีกิจกรรมทางธุรกิจไทย-เวียดนาม นักธุรกิจของทั้งสองประเทศจะมารวมตัวกันกว่า 300 คน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเปิดศักราชใหม่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน

 

โดยเฉพาะในโอกาสที่จะครบรอบ 10 ปีของการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในปีหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เรียนเชิญ ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และจะประสานงานเพื่อจัดการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ครั้งที่ 4 ที่เวียดนาม

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นสำคัญร่วมกัน ซึ่งมีผลลัพธ์ที่สำคัญดังนี้

 

ด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องจะพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนเพื่อสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน โดยจะแลกเปลี่ยนการเยือนและการปรึกษาหารือในกรอบและกลไกด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร ทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน

 

ด้านเศรษฐกิจ ไทยและเวียดนามเห็นพ้องกันที่จะผลักดันความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศและภูมิภาค ครอบคลุมทั้งการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยงทางคมนาคม การเงินการธนาคาร และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งจะเร่งอำนวยความสะดวก ลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน

 

นอกจากนี้ไทยและเวียดนามจะรวมพลังทางเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงไปข้างหน้ายิ่งขึ้น ตามแนวทาง Three Connects คือ

 

  1. การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในสาขาที่เกื้อกูลกัน
  2. การเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากและผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยกับภาคกลางและภาคใต้ของเวียดนาม
  3. การเชื่อมโยงนโยบายเศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะ BCG กับนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวของเวียดนาม

 

ด้านการพัฒนาและประชาชน ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเพื่อพัฒนาและแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ยกระดับความกินดีอยู่ดีของประชาชน โดยเฉพาะผ่านโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ประชาชนและท้องถิ่นเวียดนามจะได้รับประโยชน์จากโครงการให้ความช่วยเหลือจากไทย รวมทั้งจะใช้ประโยชน์จากกรอบกลไกความร่วมมือในระดับประชาชนและท้องถิ่นระหว่างจังหวัดไทยและเวียดนาม และสมาคมมิตรภาพต่างๆ

 

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วม นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเยี่ยมชมการจัดแสดงผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและหัตถศิลป์ของไทย บริเวณโถงกลาง ตึกสันติไมตรี และนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

 

สำหรับกำหนดการต้อนรับแขกพิเศษรัฐบาลครั้งถัดไปในวันพฤหัสบดี (17 พฤศจิกายน) เวลา 11.00 น. มีกำหนดให้การต้อนรับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า

 

จากนั้นเวลา 16.00 น. นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า

 

เวลา 17.15 น. นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเช่นเดียวกัน

 

ทั้งนี้ ในวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน รัฐบาลเปิดทำเนียบอีกครั้งให้การต้อนรับ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสเป็นแขกพิเศษของรัฐบาล

 

ประธานาธิบดีเวียดนาม

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising