ปีใหม่กำลังจะก้าวเข้ามาพร้อมๆ กับความสับสนในทิศทางเศรษฐกิจไทย ด้านหนึ่ง นักเศรษฐศาสตร์ก็มองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวได้ดีขึ้น การส่งออกเริ่มติดลบลดลงตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ช่วยสนับสนุนกำลังซื้อและภาคการผลิต ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศก็คึกคักมากขึ้นจากการท่องเที่ยวในประเทศและจากการใช้จ่ายตามมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ ตลาดหุ้นไทยก็ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เงินทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนให้ตลาดทุนไทยมากขึ้น โดยเฉพาะหลังมีความหวังเรื่องวัคซีน ทางธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เองก็ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยปีหน้าขึ้นจาก 2.8% เป็น 4.1%
ทั้งๆ ที่หลายอย่างกำลังไปได้ดี แต่ตัวผมเองก็มีความคิดอีกด้านหนึ่งว่า ปีหน้าจะสดใสจริงๆ หรือ เราอย่าเพิ่งชะล่าใจ น่าจะมีอะไรให้เตรียมรับมือกันบ้าง ยิ่งได้มีโอกาสไปพูดคุยกับนักธุรกิจใหญ่ๆ ผมเลยขอโอกาสซอกแซกถามถึงมุมมองธุรกิจและความเสี่ยงของเศรษฐกิจไปในตัว
สิ่งที่ได้ยินในทิศทางที่คล้ายๆ กันคือ ‘ปีหน้าเผาจริง’ เอาล่ะสิครับ ความวุ่นวายจากโควิด-19 ยังไม่ทันหาย จะมีอะไรอีกที่ต้องรับมือกันอีก ส่วนใหญ่กังวลว่าธุรกิจจะยังเหลือเงินเก็บมาใช้กันได้อีกนานแค่ไหน เพราะแม้จะเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังคลายล็อกดาวน์ได้ แต่เรายังจำกัดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งมีผลให้ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ขนส่ง ค้าปลีก และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกำลังซื้อต่างชาติยังไม่ฟื้นตัวกลับไปก่อนช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีผลให้รายได้ยังอ่อนแอ
ขณะที่รายจ่ายค่าเช่าพื้นที่ ค่าพนักงาน และค่าใช้จ่ายคงที่อื่นๆ ได้ปรับขึ้นมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งหลีกหนีไม่พ้นที่ธุรกิจจำนวนมากยังขาดทุน แต่ที่ยังไม่เลิกกิจการไปก็เพราะยังมีกระแสเงินสด ไม่ว่าจะมาจากเงินเก็บสะสมหรือจากการขายสินทรัพย์ของเจ้าของธุรกิจ หรือมาจากเงินกู้ ซึ่งธุรกิจมีความหวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาหลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย ต่างคนต่างบอกให้อดทนรออีกไม่นาน ปีฉลูที่จะถึงนี้จึงเป็นปีแห่งความหวัง
หากแต่นักธุรกิจที่ผมพบเจออาจเห็นว่าเราต้องอดทนนานหน่อย เพราะแม้จะมีข่าวดีจากวัคซีนที่พร้อมฉีดในต่างประเทศ แต่กว่าที่คนไทยจะได้รับการฉีดจนมากพอที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ อาจรออีกนานมากกว่าหนึ่งปี อย่าลืมว่าต่อให้นักท่องเที่ยวได้รับวัคซีน แม้เขาจะไม่ติดโควิด-19 แต่เขาก็มีสิทธิ์เป็นพาหะแพร่เชื้อให้คนในประเทศได้ ดังนั้นการจำกัดการท่องเที่ยวยังคงมีต่อไป
รายได้ที่หายไป เงินสำรองที่ร่อยหรอลงเรื่อยๆ ยังคงมีต่อในปีหน้า แล้วคนจะอดทนกันได้นานแค่ไหน หรือรอให้เงินหมดก่อนจึงค่อยปิดกิจการ เลิกจ้างพนักงาน รายได้แรงงานลดลงต่อเนื่องจนขาดกำลังซื้อ เจ้าของตึกหรือที่ดินนำทรัพย์สินออกมาขายพร้อมๆ กันจนราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลง ธนาคารกังวลความเสี่ยงจนลดการปล่อยสินเชื่อ สายป่านที่เคยมีก็จะเริ่มสั้นลงต่อเนื่อง
นักธุรกิจจึงมองภาพที่เห็นการฟื้นตัวในช่วงปลายปีนี้อาจเป็นภาพระยะสั้นเฮือกสุดท้ายของธุรกิจ หากไม่มีแรงส่งต่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นได้ เช่น การส่งออกเร่งเร็วจนการลงทุนเดินหน้า หรือจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่อีกรอบ หรือมีนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เปิดให้การท่องเที่ยวกลับมาได้เร็ว เช่น ลดการกักตัว หรือมีการตรวจเชื้อที่แม่นยำรวดเร็ว
แต่สุดท้ายนี้ เราก็คงหนีไม่พ้นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้าในปีหน้า เพราะในช่วงที่เรากำลังบริหารจัดการกับการควบคุมเชื้อโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจที่ซ่อนเอาไว้อาจปะทุขึ้นได้ เหมือนความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกในปีฉลูที่จะมาถึง
ทางออกในการหลีกหนีวิกฤตเศรษฐกิจอีกรอบคือ รัฐบาลอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยอาจต้องเน้นการสร้างงาน สร้างรายได้ พร้อมๆ กับการสร้างความเชื่อมั่นและแรงจูงใจให้คนใช้จ่ายในปีหน้านี้
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล